วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 จากกรณี เจ้าบ่าว หลอกว่าเป็นทหาร จ.ส.อ.ขอแต่งงานสาวโรงงาน และจัดเตรียมงานแต่งพอถึงวันงานปล่อยเจ้าสาวรับแขกคนเดียว โดยเบื้องต้น เจ้าบ่าวได้โทรมาเจรจา ว่าจะมานัดเคลียร์ค่าเสียหายที่ สภ.นาดี วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ในที่สุดเบี้ยวตามเคย แจ้งข้อหา “ฉ้อโกง อ้างตัวเป็นคนอื่น”

ล่าสุด ทหารเก็หรือว่านาย เอก สุวรรณหงส์ อายุ 43 ปี ได้ดอดเข้าพบกับ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ภัคดี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี หลังจากที่ น.ส.น้ำทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ได้เข้าแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าถูกนาย เอก สุวรรณหงส์ อายุ 43 ปี ว่าที่เจ้าบ่าวเทงานแต่ง หลอกว่าจะมาจัดพิธีมงคลสมรสกันในวันที่ 1 พ.ค.65 จึงตกลงกัน พอถึงวันพิธีทางด้านเจ้าสาวรวมทั้งญาติพี่น้องได้จัดเตรียมงานให้สมเกรียติ แต่ถูกนาย เอก สุวรรณหงส์ ล่องหนเทงานแต่งเสียหายกว่า 300,000 บาท และได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา “ ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น แล้วแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ มาตรา 146”โทษจำคุกๆไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ภัคดี สารวัตรสอบสวน กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น แล้วแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อหลอกให้คนอื่นหลงเชื่อ มาตรา 146”โทษจำคุกๆไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี จึงไม่จำเป็นต้องประกันตัวแต่อย่างใด ส่วนคู่กรณี (เจ้าบ่าว) ยอมรับผิดทั้งหมดและยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ส่วนทางฝ่ายเจ้าสาวได้มาเป็นตัวแทนเรียกค่าเสียหาย ก็มีค่าใช้จ่ายงานแต่งทั้งหมดจำนวน 305,000 บาท รวมทั้งค่าเสียหายทำให้อับอายเสียหน้าอีก 300,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 600,5000 บาท แต่ทางฝ่ายชายยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยจะผ่อนจ่ายให้เดือนละ 12,000 บาท/เดือน จนกว่าจะหมด ก่อนลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าบ่าวเทงานแต่ง อ้างว่า ยอมรับผิดกับสิ่งทำลงไปคือยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้าผมจะพูดไปเหมือนกับเป็นการแก้ตัวแต่ก็มีบางอย่างข้อมูลเป็นเท็จเหมือนกัน ก็คือประโคมข่าวใส่ผม แต่เรื่องจัดงานจัดไรนั้นไม่มี ถามว่า ยังรักเจ้าสาว คนนี้อยู่ไหม นายเอกได้เปิดใจว่ายังรักเจ้าสาวคนนี้อยู่ เขายังขอโอกาสกลับมาคืนดี แต่ไม่รู้ว่าเจ้าสาวนั้นจะยกโทษให้หรือไม่ ส่วนค่าเสียหาย ที่ทางหลาน ชาย ของเจ้าสาว ที่เรียกมานั้น ตนยินยอมจะชดใช้ทุกบาททุกสตางค์

โดยขอเวลาให้ตนผ่อนชำระ ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าตน ไปทำพฤติกรรมแบบเดียวกันที่ โคราชนั้น ตนยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ข้อเท็จจริงนั้นไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าวทั้งหมด โดยตนไม่ขอลงรายละเอียดลึกไปกับเรื่องนี้ เพราะว่าตนไม่มีหลักฐานจะไป อ้างอิงกับคำพูดของตน และที่ตนตัดสินใจไม่มาในวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ได้เอ่ยว่าขอเจรจา กับเจ้าสาว เพราะว่าตอนนั้นหาเงินไม่ทัน และไม่มีเงินที่จะเดินทางมา ประกอบกับตนได้พักอยู่กับเพื่อน โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถทิ้งเพื่อนให้อยู่คนเดียวได้ จึงไม่ได้มาตามเวลาที่นัดดังกล่า ส่วนในวันนี้พี่ตัดสินใจมานั้น เพราะตนไม่ได้หนีและพร้อมกับรับผิดชอบ ในส่วนที่กระทำไว้

อ่านรายละเอียด : เปิดใจเจ้าสาวถูกทหารเก๊เทงานแต่ง ลั่นเอาเงินมากราบเท้าก็ไม่ให้อภัย จี้คืน 3 แสนค่าจัดงาน