สุดสลดหลานทรพีเพิ่งออกจากบำบัดยาเสพติดเพียง 3 วันคลั่งกระชากผมยายแท้ๆ วัย 80 ขณะนั่งกินข้าวก่อนลากไปกระทืบกลางถนนจนกระอักเลือด กระโหลกศีรษะร้าว ต่อหน้าตาที่พยายามร้องขอชีวิตและชาวบ้านตะโกนให้หยุดแต่ไม่กล้าช่วยสุดท้ายเสียชีวิต ตาเผยสุดเศร้าเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะรักเหมือนลูกในไส้ทำไมทำได้ลงคอ เสียใจช่วยยายไม่ได้ถ้าเข้าไปคงเป็นศพที่สอง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.65) ร.ต.อ.ทองสุข โปร่งทะเล รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ หลังจากนายปิยณัฐ หรือพัตเตอร์ อายุ 22 ปี หลานชาย ซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ของยาเสพติด ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางคำตั๋น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆ ด้วยการใช้มือกระชากผมยายขณะนั่งกินข้าวที่เตียงใต้ถุนบ้าน แล้วลากไปใช้เท้ากระทืบกลางถนนหน้าบ้านต่อหน้าผู้เป็นตา และชาวบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและผู้หญิงก็ได้แต่ตะโกนร้องขอชีวิตยายที่ถูกทำร้ายแต่ก็ไม่ยอมหยุดจนยายนอนแน่นิ่ง เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.00 น.วานนี้ (17 พ.ค.65)
ซึ่งยายที่ถูกหลานทำร้ายมีสภาพเลือดไหลออกทางปาก กระโหลกศีรษะร้าว นอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนน ชาวบ้านก็รีบโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลดอนอะรางให้มาช่วยนำยาย ส่ง รพ. ซึ่งเมื่อหน่วยกู้ชีพมาถึงก็ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำตัวส่ง รพ.หนองกี่ แต่เนื่องจากยายอาการสาหัสจึงทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. แพทย์พยายามปั้มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ส่วนนายปิยณัฐ หลานชายก็ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งเดินไปรอบแถวบ้าน ทั้งชาวบ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพยายามจะช่วยกันจับแต่ไม่สามารถจับได้ จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกี่ มาถึงก็รีบเข้าชาร์ทจับกุมตัวทันที ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.หนองกี่ แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากยังมีอาการคลุ้มคลั่งโวยวาย
จากการสอบถามนายจันทร์ อายุ 78 ปีตาของผู้ก่อเหตุและสามีของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ช่วงเย็นวานนี้ ตนกับยายกำลังนั่งกินข้าวใต้ถุนบ้าน ตนอิ่มก่อนยายยังนั่งกินต่อ จู่ๆ หลานชายก็เข้ามากระชากผมยาย ตนก็บอกว่าอย่าทำแบบนั้นแต่หลานก็ไม่ฟัง แล้วก็ลากยายออกไปตบตีใช้เท้าเตะและกระทืบซ้ำทั้งที่หัว และร่างกายหลายครั้ง ตนพยายามตะโกนร้องขอชีวิตยายบอกให้หลานหยุด แต่หลานก็ไม่หยุดกระทืบยายซ้ำๆ อยู่แบบนั้นตนก็ทำอะไรไม่ได้อยากช่วยก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะอายุมากแล้ว ลำพังแค่เดินก็จะจะไม่ไหวอยู่แล้ว หากเข้าไปช่วยตนก็คงกลายเป็นศพที่สอง เพราะหลานคลุ้มคลั่งหนักมาก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็วิ่งจะเข้าไปช่วยก็จะถูกทำร้ายเหมือนกัน ก็เลยพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด กระทั่งตำรวจมาจึงสามารถจับกุมตัวได้ เสียใจมากที่หลานชายทำแบบนี้เพราะตนกับยายเลี้ยงมาแต่แบเบาะหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน ก็รักดูแลเหมือนลูกในไส้
นางกนกวรรน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ลูกสาวยายและเป็นป้าผู้ก่อเหตุ บอกว่า รับไม่ได้ที่หลานทำร้ายยายจนเสียชีวิตและไม่ขอให้อภัย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด เป็นไปได้ก็อยากให้ประหารชีวิตไปเลย ปล่อยไว้ก็เป็นอันตรายกับคนในครอบครัวและชาวบ้านด้วย ส่วนที่หลานเป็นแบบนี้เพราะติดยาเสพติด เคยเข้ารับการบำบัดหลายครั้ง และติดคุกก็หลายครั้ง ทั้งคดีทำร้ายร่างกาย ลักทรัพย์ พ้นโทษออกมาก็ไม่สำนึกยังทำเหมือนเดิมซ้ำๆ เข้า-ออกคุกนับไม่ถ้วน ล่าสุดก็เพิ่งออกจากบำบัดยาเสพติดที่ รพ.เพียง 3 วันก็มาก่อเหตุสลดดังกล่าว
ด้านนายเสกสัน ตาทิพย์ กู้ชีพเทศบาลตำบลดอนอะราง เล่าวว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายก็รีบมาจุดเกิดเหตุทัน พบยายนอนอยู่บนถนนสภาพบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณศีรษะ มีเลือดออกทางปาก จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำส่ง รพ.แต่ยายก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิต ส่วนประวัติหลานชายที่ก่อเหตุก็เคยเข้ารับการบำบัดอาการติดเสพติดหลายครั้ง ไม่คาดคิดว่าจะมาก่อเหตุสลดขึ้น - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี