แม่ร่ำไห้กลางวงแถลง
เชื่อคดี‘แตงโม’ตายเป็นฆาตกรรม
สส.เต้-ทีมทนายพร้อมลุยทำคดีให้
อัยการภ.1เลื่อนสั่งคดีนัดปลายมิ.ย.นี้
คดีรายละเอียดมากจะต้องรอบคอบ
ทนายย้ำจำเลยยืนยันคำให้การเดิม
อัยการภาค 1 เลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องคดี “แตงโม”เป็นเดือนมิถุนายนนี้ คดีมีรายละเอียดมาก เพื่อความรอบคอบ ส่วน “สส.เต้-ทีมทนาย” แถลงข่าวทำคดีให้แม่แตงโม ทั้งคดีแพ่ง-อาญา ขณะ “อัจฉริยะ” แจ้งจับ บิ๊กตร.ภาค 1 ทำหลักฐานเท็จ-กลั่นแกล้ง “ทนายตั้ม” เตือนระวังเป็นมวยล้มต้มคนดู ส่วนปธ.สอบ 4 บิ๊กสีกากีทำคดีแตงโม คาดสอบเสร็จสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง อายุ 37 ปี ว่าภายหลังอัยการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีแตงโม มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติมในหลายประเด็น และมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ,น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก และนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้คืนสำนวนส่งอัยการ มีความหนา 2,249 หน้า โดยอัยการนัดผู้ต้องหาฟังผลการพิจารณาสั่งฟ้องคดีในวันเดียวกันนี้
ทนาย‘แซน’พร้อมยื่นประกันตัว
ต่อมาเวลา 10.30 น.นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้าพบ น.ส.สุภาภรณ์นิปวณิชย์อัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามผลพิจารณาสั่งคดี เพื่อเตรียมการตามขั้นตอนในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนายวิศาพัช โดยจะใช้วงเงินประกันตัว 120,000 บาท
‘แซน’ยันไม่เกี่ยวข้องกับการตาย
นายพรศักดิ์ เปิดเผยว่า เป็นทนายความให้นายวิศาพัช เพียงคนเดียว ซึ่งลูกความตนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโม ยืนยันคำให้การเดิมตั้งแต่ต้น และไม่มีความกังวลเรื่องพยานหลักฐานของตำรวจ ส่วนผู้ที่เข้ามาด่า ทางนายวิศาพัช ได้มีการมาปรึกษาตนเรื่องที่จะฟ้องร้องเหมือนกัน แต่จะพิจารณาเป็นรายๆไป และต้องดูความชัดเจนก่อน
อ้าง‘อัจฉริยะ’ร้องอสส.เป็นสิทธิ
สำหรับกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด ให้มีการตรวจสอบใน 8 ประเด็น จะส่งผลต่อความเห็นของอัยการจังหวัดนนทบุรี หรือไม่ นายพรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายอัจฉริยะ ที่ทำได้ แต่อัยการจะรับพิจารณาอย่างไรนั้นเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็นำมาเข้าสู่กระบวนการ สังคมจะได้รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ ส่วนการที่บังแจ็ค อ้างว่ามีหลักฐานเด็ดในคดีนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว หากมีก็เปิดออกมาเลย
ส่งสำนวนคดีให้อธิบดีอัยการภาค1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าน.ส.สุภาภรณ์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ผู้รับผิดชอบคดีแตงโม เปิดเผยว่า ได้พิจารณาความเห็นทางคดีเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมจะส่งสำนวนที่มีความหนา 18 แฟ้ม ให้กับอธิบดีอัยการภาค 1 เพื่อพิจารณาสำนวนอีกครั้งว่าเห็นชอบตามความเห็นของอัยการจังหวัดนนทบุรี หรือไม่ หลังจากนี้จึงต้องรอความเห็นจากอธิบดีอัยการภาค 1 โดยจะทราบผลการพิจารณาเป็นทางการอีกครั้ง แต่วันเดียวกันนี้ได้นัดหมายผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มารายงานตัวเพื่อรับฟังคำสั่งฟ้องคดีแล้ว
อย่างไรก็ดี น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่าได้เดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อนำสำนวนไปให้พิจารณาก่อนสั่งคดี โดยกระบวนการขณะนี้ สำนวนยังไปไม่ถึงอัยการสูงสุด
อัยการภาค1เลื่อนสั่งคดี มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางอัยการภาค 1ได้มีคำสั่งเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนในคดีดังกล่าว ออกไปเป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยให้เหตุผลว่าสำนวนคดีมีรายละเอียดมากเพื่อความรอบคอบในการพิจารณา จึงขอให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องคดีออกไปก่อน
ส.ส.เต้-ทีมงานแถลงทำคดีแตงโม
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งจัดหาทีมทนายความเข้ามาดูแลคดีให้นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาแตงโม แทนนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา แถลงข่าวว่า ทีมงานตนกับชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นทีมเดียวกันหมด เพราะนายอัจฉริยะ เป็นที่ปรึกษาพรรคอยู่แล้ว และนางภนิดา ก็เชื่อว่าแตงโม ถูกฆาตกรรม จึงแบ่งงานกันทำ ขณะนี้มีทีมทนายกว่า 10 คน ช่วยร่างคำฟ้องคดีเป็น 2 ชุด คือคดีอาญาและคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานบางส่วนที่ได้มายังไม่ครบถ้วน บางส่วนสามารถยื่นเพิ่มเติมในชั้นอัยการเป็นอีกคดีหนึ่งที่จะดำเนินการคล้ายๆ กรณี พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ที่บิดาฟ้องร้องเอง คาดว่าภายใน 15-30 วัน น่าจะยื่นร้องต่อศาลได้ หากฟ้องแพ่ง แล้วชนะคดีได้เงินมาก็เป็นเรื่องของนางภนิดา ว่าจะเอาไปทำอะไร
แม่ลั่นฟ้องคดีต่อศาลด้วยตนเอง
ส่วนนางภนิดา ซึ่งร่วมแถลงข่าวด้วย เปิดเผยทั้งน้ำตาคลอว่าอึดอัดใจในทุกประเด็นในการเสียชีวิตของแตงโม ลูกคนเดียวที่แม่รักสุดหัวใจ ถึงวันนี้ก็ยังคิดถึงลูกทุกวัน ยังทำใจไม่ได้ คงต้องใช้เวลาเป็นปี ถึงเวลาที่แม่ต้องทวงความยุติธรรมให้แตงโม ตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามความจริงอย่างถึงที่สุด คิดว่าเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง จึงตัดสินใจดำเนินคดีต่อศาลอาญานนทบุรีด้วยตนเอง โดยรับความอนุเคราะห์ทางกฎหมายจากพรรคไทยศรีวิไลย์ โดย ส.ส.มงคลกิตติ์และนายอัจฉริยะ รวมทั้งพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ส.ว.และกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ
เผยเสียใจมา3เดือนต้องลุกขึ้นสู้
นางภนิดากล่าวอีกว่า เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ต้องไปเสียเวลากับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้ว 3 เดือนเต็มๆ แม่จะสู้ ลุกขึ้นมาสู้เพื่อความถูกต้อง ด้วยกฎหมายจริงๆ ที่ผ่านมาก็สู้เพื่อลูกแต่ไม่ได้บอกใคร แม่มีหลักฐานเยอะแยะ เก็บหลักฐานเอง มีคนบอกว่าแม่ไม่เห็นทำอะไรเลย อยากจะบอกว่าแม่ต้องออกมาประกาศด้วยเหรอว่าช่วยลูกด้วยวิธีอะไร จากวันนั้นจนถึงวันนี้น้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม เพราะไม่ได้หลับได้นอน คอยรับสายสื่อมวลชนตั้งแต่ 9 โมงเช้ายัน 4 โมงเย็น
อยากรู้ลูกถูกฆาตกรรมด้วยวิธีใด
“อยากหาความจริงให้ลูกว่าโดนฆาตกรรมด้วยวิธีใดและใครทำ ถ้าสื่อช่วยหาหลักฐานให้แม่ด้วยก็จะดีมาก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ จะไปทำอย่างไรก็ได้แล้วมาเบิกค่าใช้จ่ายที่แม่ อยากให้คดีของแตงโมเกิดความยุติธรรมและเกิดความถูกต้อง เป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ไม่โดนหมกเม็ดแบบนี้ 3 เดือนที่ผ่านมา น้องโมไปโดนหมกเม็ดที่ไหนเยอะแยะไปหมด แต่ความจริงแล้วข้อเท็จจริงก็ยังไม่ถูกเปิดเผย”นางภนิดา กล่าว
‘อัจฉริยะ’ร้องปปป.ฟันบิ๊กตร.ภาค1
วันเดียวกัน นายอัจฉริยะ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.กล่าวโทษ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 กับพวก ฐานร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จคดีแตงโม หลังจากแถลงสรุปสำนวนคดีนี้เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีการแก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิด และร้องทุกข์กล่าวโทษ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา โดยมี พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป.เป็นผู้แทนรับเรื่อง
ยันมีหลักฐานคลิปวีดีโออิงกูเกิ้ลฯ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่ใช้แถลงข่าว โดยหลักฐานขอตนอิงตามกูเกิ้ลแมพ และพบว่านาทีที่ 22.18 นั้น เรือยังอยู่วัดจันทร์ ไม่ใช่ที่สะพานกรุงธน หรือซังฮี้ ซึ่งห่างกันประมาณ 1.6 กิโลเมตร และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเวลา ทำให้ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงและขัดแย้งกัน
ส่วนการเป็นที่ปรึกษาคดีให้นางภนิดา นั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนางภนิดา แล้ว โดยตนจะมีหน้าที่รับผิดชอบด้านกฎหมาย ขณะที่นายวินัย ชุมสวัสดิ์ และนายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ เป็นทีมทนาย สำหรับนายมงคลกิตติ์ จะคอยอำนวยความสะดวก สำหรับสาเหตุที่นางภนิดา เชื่อมั่นตนเป็นเพราะมีหลักฐานบางอย่างที่ยังสงสัย โดยหลังจากเกิดเหตุคนบนเรือนำโทรศัพท์แตงโม ไปด้วย และมีภาพในโทรศัพท์ถูกลบถึงกว่า 500 ภาพ และคลิปวีดีโอ 2 คลิป กระทั่งบังแจ็ค ติดต่อมาว่าสามารถกู้ภาพได้
ชี้ไม่รู้บังแจ็คกู้ภาพอะไรกลับมาได้
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าภาพที่กู้มาได้เป็นภาพอะไร เพราะไม่ได้ติดต่อบังแจ็คส่วนหลักฐานสำคัญที่มีนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่จะนำไปให้นางภนิดา ได้ดู ซึ่งเท่าที่พูดคุยกัน นางภนิดาเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
ประธานชมรมฯ กล่าวอีกว่า จะไม่มีการฟ้องร้องผู้สื่อข่าวหรือทนายความรายใด แม้กระทั่งนายเดชา หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มโดยวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จะพานางภนิดา เข้าพบ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.และไม่มีเรื่องข้อหาสนับสนุนฯ เพราะนางภนิดา ไม่ได้อนุญาตให้บังแจ็ค นำภาพไปเผยแพร่ สำหรับการนัดฟ้องคำสั่งของอัยการนั้น แม้จะมีความเห็นสั่งฟ้องตนก็ไม่กังวล เพราะเป็นหลักฐานและคดีคนละส่วนกัน โดยของตนเป็นคดีฆาตกรรม
‘ทนายตั้ม’ปลุกสติระวังเป็นมวยล้ม
ขณะเดียวกัน นายษิทรา หรือทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊กมีใจความว่า “อยู่กับมหากาพย์มวยล้มต้มคนดูมาไม่รู้กี่เรื่องแล้วกับบุคคลนี้จนขึ้นโรงขึ้นศาล ผมชนะคดีเพราะถูกอีกฝ่ายดิสเครดิต ผมพูดได้คำเดียว ถ้าเขามีหลักฐาน เขาเปิดไปแล้วครับ ผมเข้าใจประชาชนทุกคน ที่ตื่นเต้นและรู้สึกมีความหวังที่ใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วย แต่พวกคุณต้องเข้าใจว่าคดีความต่างๆ ศาลเขาตัดสินด้วยหลักฐาน ไม่ใช่กระแส และมีคนมากมายที่กระโจนเข้ามาในคดีเพราะต้องการพื้นที่สื่อ ถ้าคุณไม่ตื่นรู้ คุณก็กลายเป็นเครื่องมือให้เขาใช้ ผมยินดีที่จะเข้ามาช่วยแต่แรก แต่ในเมื่อครอบครัวเขาปฏิเสธและเทผมกลางทาง จึงทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้”
ปธ.สอบ4บิ๊กตร.ภาค1ยังไม่ฟันธง
ขณะที่ พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษตร.ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี คณะทำงานคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของแตงโม เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้สอบปากคำนายตำรวจที่ถูกกล่าวหาแล้ว 1 นาย ที่เหลืออีก 3 นาย แจ้งว่าอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารชี้แจง คาดว่าจะสอบเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งจะเชิญนายอัจฉริยะ ผู้ร้องให้สอบข้อเท็จจริง มาให้ปากคำหรือเอกสารเพิ่มเติม ก่อนจะสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีมติส่งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พิจารณาตามกรอบเวลา 30 วัน
ทั้งนี้ หากพบว่ามีตำรวจนายใดไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย หรือมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการพิจารณาบทลงโทษ โดยการตรวจสอบดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับคดีแตงโม จึงขออย่าเพิ่งตัดสินว่าใครผิดใครถูก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี