สธ.โพลล์ชี้หลังเป็นโรคประจำถิ่น
ปชช.อยากถอดแมสก์
เลิกตรวจATK-ไม่ต้องวัดอุณหภูมิ
‘อนุทิน’ย้ำให้รอฟังผล‘ศบค.’เคาะ
อภ.เร่งเดินหน้าพัฒนาวัคซีนโควิด
ติดเชื้อรายวัน3,185ราย-ตาย23ศพ
ติดเชื้อโควิดไทยรายวันขยับ 3,185 ราย ตาย 23 ศพ กรมควบคุมโรคเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน พบสาเหตุส่วนใหญ่ยังไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะยังวิตกผลข้างเคียง ส่วนความต้องการหากประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นแล้วคือ เลิกตรวจ ATK-วัดอุณหภูมิ-ถอดแมสก์ ด้าน“อนุทิน”ย้ำปมถอดหน้ากากอนามัย ต้องเสนอที่ประชุมศบค.พิจารณา ยังมั่นใจปชช.ประเมินความเสี่ยงได้เอง ขณะที่ อภ.เดินหน้าทดลองเฟส 2 กลางส.ค.พัฒนาสูตรป้องกันโอมิครอน คาดพร้อมฉีดให้ปชช.กลางปี2566
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกรายวัน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้ว 537,151,703 ราย รักษาหายแล้ว 508,042,151 ราย เสียชีวิตรวม 6,325,499 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล ฝรั่งเศส และเยอรมนี ส่วนไทยอยู่อันดับ 24 ของโลก
ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ3.1พัน-ตาย23คน
สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,185 ราย ติดเชื้อจากเรือนจำ 2 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2,253,617 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 7,564 ราย ทั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อหายป่วยวันนี้ 3,326 ราย รวมหายป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมแล้ว 4,421,528 ราย และกำลังรักษาตัวอยู่ 25,262 ราย อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยอาการหนัก 678 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 331 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย เป็นประชากรกลุ่ม 608 หรือประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงร้อยละ 96 แบ่งเป็นกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปี 20 ราย คิดเป็นร้อยละ 87 และประชากรผู้ที่อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรังอีก 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 และผู้ที่ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 4
ฉีดวัคซีนสะสม138.3ล.โดส
ส่วนผลให้บริการวัคซีน ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ไทยฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพิ่มขึ้น 84,257 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 10,130 ราย สะสมรวม 56,819,132 ราย คิดเป็นร้อยละ 81.7 ของจำนวนประชากรทั้งหมด เข็มที่ 2 จำนวน 21,344 ราย สะสมรวม 52,848,544 ราย คิดเป็นร้อยละ 76 ของจำนวนประชากรทั้งหมด และเข็มที่ 3 จำนวน 52,783 ราย สะสม 28,698,300 ราย คิดเป็นร้อยละ 41.3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด รวม 138,365,976 โดส สะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564
อภ.เร่งทดลองวัคซีนHXP-GPOVac
นางศิรินุช ชีวันพิศาลนุกูล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ว่า อภ.ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร PATH ในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด HXP-GPOVac โดยองค์กร PATH ส่งหัวเชื้อวัคซีนต้นแบบ ซึ่งพัฒนาโดยโรงเรียนแพทย์แห่งเมาท์ไซนาย และมหาวิทยาลัยเท็กซัสแห่งออสติน สหรัฐอเมริกา มาผลิตที่โรงงานผลิตชีววัตถุของ อภ. ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี อย่างไรก็ตาม วัคซีนชนิดนี้ผลิตด้วยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก เป็นวิธีผสมผสานโดยใช้เชื้อไวรัสนิวคาสเซิล ร่วมกับเทคโนโลยีเฮกซะโปร เพิ่มความคงสภาพของโปรตีนส่วนหนามได้เป็นไวรัสลูกผสม NDV-HXP-S มาใช้กระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิด
ดีเดย์ทดลองเฟส2กลางสค.
ทั้งนี้ ช่วงเริ่มต้นทดลองในหนู พบว่าปลอดภัย มีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงทดลองในมนุษย์เฟสแรก และเฟสสอง ขณะนี้พัฒนาสูตรป้องกันโอมิครอนและจะกลับไปทำเฟสสองอีกรอบเดือนสิงหาคม เมื่อสำเร็จจะทำเฟสสามต่อไป คาดการณ์ว่าเริ่มฉีดในประชาชนได้กลางปี2566 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีประเด็นนี้เช่นกัน เพราะจริงๆ การทดลองเฟสสอง อาจต้องมีทั้งอาสาสมัครที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลย กับการให้วัคซีนเป็นเข็มกระตุ้น กำลังออกแบบรูปแบบการทดลอง ถ้าหาอาสาสมัครที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลยไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเน้นเข้มกระตุ้น กำลังพิจารณากันอยู่
มาแล้ว’นาโนแว็กซ์’เฉพาะเข็มแรก
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ประกาศว่า มาแล้ววัคซีนทางเลือก Novavax ทางเลือกใหม่สำหรับเข็มแรกเท่านั้น วัคซีนป้องกันโควิด Novavax พร้อมให้บริการแล้ว โดยนัดหมายผ่านศูนย์ BFC ของรพ.กลาง (0-2225-1354) และรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ (0-2289-7966) ในวันและเวลาราชการ ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ 1.Twitter @prmsdbangkok 2.Youtube https://fbapp.us/yt/228178140543026 3.LINE Square https://line.me/ti/g2/QIhNb8hbpHRYrf8FrCBQhw 4.Hotline1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม.
ปชช.ลังเลฉีดกระตุ้นห่วงผลข้างเคียง
ขณะที่สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยสำรวจความคิดเห็นประชาชน (RC DDC Poll Online) ถึงความต้องการเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่นของโควิด-19 ครั้งที่ 1 สำรวจระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 3,194 คน แบ่งเป็นเพศหญิง 69% และชาย 31% ช่วงอายุตั้งแต่ 13- 70 ปีขึ้นไป โดยพบว่าช่วงอายุ 50-59 ปีมากที่สุด 30.3% รองลงมาอายุ 40.49 ปี 29%โดยจำนวนตัวอย่าง 3,194 คน พบว่าไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด 2% ฉีดวัคซีน 1 เข็มอยู่ที่ 1% ฉีดวัคซีนโควิด 2 เข็มอยู่ที่ 23% ฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็มอยู่ที่ 47% ฉีดวัคซีนโควิด 4 เข็มอยู่ที่ 26% และมากกว่า 4 เข็มอยู่ที่ 1% ส่วนเหตุผลที่ไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีกลุ่มตัวอย่างตอบ 741 คนว่า กังวลใจผลข้างเคียง 68.6% ประเทศจะเข้าสู่ระยะโรคประจำถิ่น 22.7% เชื้อโอมิครอนไม่รุนแรง 13% และเห็นว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ 8.8%
อยากให้เลิกตรวจATK-ถอดแมสก์
RC DDC Poll Online ยังสอบถามกลุ่มตัวอย่าง 3,194 คนพบ 28% เคยติดเชื้อโควิด และ72% ไม่เคยติดเชื้อ เมื่อถามว่าช่วงติดเชื้อโควิดดูแลรักษาตัวอย่างไร มีกลุ่มตัวอย่าง 892 คนให้ข้อมูลว่า 67.7% ได้รับการดูแลผ่าน Home Isolation 11.4% ได้รับการดูแลที่โรงพยาบาล 9.5% ได้รับการดูแลที่ Hospitel 7.6% หายเอง และ 3.7% Community Isolation
เมื่อสอบถามว่าถ้าเข้าสู่โรคประจำถิ่น ต้องการให้ยกเลิกมาตรการใด มีกลุ่มตัวอย่าง 3,175 คน ให้ข้อมูล ดังนี้ อันดับที่ 1 ต้องการเลิกตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม 33.4% อันดับที่ 2 ไม่ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ 30.8% อันดับ 3 ต้องการถอดหน้ากากอนามัย 26.2% อันดับ 4 คือ ไม่จำกัดจำนวนคนร่วมงาน 24.8% อันดับ 5 คือ ไม่ต้องตรวจประวัติฉีดวัคซีนก่อนร่วมกิจกรรม 22.5% และอันดับที่ 6 คือ ไม่ต้องการให้เว้นระยะห่าง 17.1% นอกนั้น ให้ยกเลิกทุกมาตรการ และไม่ต้องฉีดวัคซีนก่อนเข้าไทย 15.8% และ 10.5% ตามลำดับ
ย้ำถอดหรือใส่แมสก์ต้องให้ศบค.เคาะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเตรียมเสนอ ให้มีการถอดหน้ากากอนามัย ในพื้นที่โล่งแจ้งหรือสวนสาธารณะด้วยความสมัครใจของประชาชนว่า เรื่องนี้ต้องนำเข้าหารือในที่ประชุม ศบค.พิจารณา ซึ่งมีกระบวนการอยู่แล้ว หากจะมีมาตรการใดออกมาก็จะประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ก่อน เพื่อกลั่นกรองและหาข้อสรุปเบื้องต้น ถือเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าถึงเวลาที่เหมาะสมหรือยัง ที่จะให้ประชาชนถอดหน้ากากอนามัย นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนประเมินสถานการณ์ของตัวเองได้ว่า อยู่ในสถานการณ์ไหน ควรใส่ หรือถอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี