วันที่ 10 มิถุนายน 2565 แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ว่า

ร่างพรบตำรวจแห่งชาติที่เป็นพรบปฏิรูปเข้าสภาเป็นวันที่สอง นับเป็นกฎหมายที่มีการพยายามพัฒนาจนถึงปฏิรูปองค์กรมานานเกือบยี่สิบปี 2547เคยมีนโยบายปฏิรูป มีกฎหมายกำหนดให้สตชดำเนินการแยกหน่วยที่ไม่ใช่งานสายตรงออกไป จนมาถึงรัฐบาลท่านสุรยุทธก็มีการผลักดันกฎหมายแต่ก็ตกไปในที่สุด

เมื่อมาถึงการปฏิวัติครั้งนี้ สุดท้ายก็เกิดการชักเข้าชักออก ตั้งกรรมการหลายชุด เปลี่ยนเนื่อหาไปมา ทิ้งลงตะกร้าบ้าง ปัดฝุ่นบ้าง สุดท้ายก็ยำใหญ่เข้าสภาด้วยที่มาที่ประชาชนน่าจะรู้เบื้องหลังไว้บ้าง พรบนี้เป็นร่างอาจารย์มีชัยที่รัฐบาลมอบหมายครั้งสุดท้ายปรับแก้โดยสตช เมื่อเข้าสภาประธาน

กรรมาธิการติดประชุมบ่อยมาก มอบรองที่เป็นตำรวจทำหน้าที่ประธานโดยส่วนใหญ่ มีการตั้งที่ปรึกษา มีการตั้งอนุกรรมการที่เป็นตำรวจ มีการนัดประชุมเพื่อลงมติแต่ก็เลื่อนมากกว่าได้ลงมติตามนัด สุดท้ายพรบนี้ก็กลับเข้าสภาโดยแปลงเนื่อหาสำคัญไปมากมาย

ที่สำคัญในการชี้แจงเมื่อวาน ประธาน(ตำรวจเก่า)ที่ชี้แจงใช้คำพูดเสียดสีคนร่างเดิม ใช้คำพูดว่าถ้าพรบนี้เป็นไปตามร่างรัฐบาลจะกลายเป็นเชื้อไฟทำลายองค์กรตำรวจ แถมยังบอกว่าที่สังคมพูดว่าตำรวจเป็นต้นสายธารกระบวนการยุติธรรมไม่ถูกต้อง อ้าว อ้าว อ้าว และอีกหลายคำพูดจนทำให้สมาชิกลงมติสวน กลับสู่ร่างเดิมในมาตรา 6 ไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกแก้ไว้

เล่าสู่กันฟังก็เพื่อที่จะบอกว่า เมื่อได้เข้ามานั่งทำงานวงในของประชาธิปไตย การออกกฎหมายไม่ได้มีคุณภาพเพื่อประชาชน แต่เป็นไปเพื่อการรักษาอำนาจ เป็นไปเพื่อการแสวงประโยชน์ การลงมติก็เป็นไปตามวิป ที่ก็ทำตามคำสั่งเบื้องบน ได้รับรู้เช่นนี้ก็ให้รู้สึกถึงความกลวงของกลไกประชาธิปไตยที่พูดถึงกันจัง เรื่องราวของคดีแตงโมที่สะท้อนปัญหาในการทำคดีคงไม่มีหนทางปฏิรูปด้วยกลไกสภาแน่นอน เล่าสู่กันฟัง และต้องติดตามพรบนี้กันต่อว่าจะไปทางไหน ดูจะเป็นจับฉ่ายที่หาความอร่อยไม่เจอ #เรื่องเล่าจากสภา