วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ออกกำลังเป็นบ้าเป็นหลัง ระวังสมองเสื่อม(ในคนสูงวัย และสมองเริ่มเสื่อมแล้ว) หมอดื้อ
ออกกำลังกายนั้นดี แต่ทุกอย่างเมื่อไม่อยู่สายกลาง ย่อมไม่ดี หลัง ๆ มานี้หมอเห็นว่าผู้คนฮิตออกกำลังกายกันเยอะขึ้นโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ ออกกันได้ทั้งเช้า ทั้งเย็นเลยทีเดียว ส่วนหนุ่ม ๆ ก็ลงพุงกันเป็นแถว
เรียบเรียงขัอมูลจากบทความใน Medscape มาให้ทุกคนได้อ่าน บทความนี้ชื่อ How Much Exercise Is Too Much for the Brain? และได้ดูข้อมูลหลัก ๆ จาก Exercise for cognitive brain health in aging ลงใน วารสารทางสมอง Neurology 2018 ซึ่งได้เอาการวิจัย 98 อันเกี่ยวกับการออกกำลังกายมาวิเคราะห์ (systematic review) ซึ่งบอกว่าดีต่อสมองและช่วยลดสมองเสื่อม
แต่ DAPA trial ลงใน วารสารการแพทย์ของอังกฤษ BMJ 2018 เอาคนที่เป็นสมองเสื่อมแล้วมาออกกำลังกายพบว่าออกเยอะไปสมองจะแย่
แล้วเท่าไหร่ดี เพราะออกกำลังกายนั้นข้อดี ยืดยาวนับไม่ถ้วน นอกจากหุ่นดีน่ามองแล้ว การไปยกน้ำหนักโดยที่มีคนรอบข้างจ้องมอง แน่นอนต้องเพิ่มความมั่นใจได้ระดับนึง ยังเพิ่มการหลั่งสารความสุขเอนดอฟิน น่าจะช่วยอายุยืน เพราะปรับโรงพลังงานของร่างกายหรือไมโตคอนเดรีย (autophagy regulator) รวมทั้งให้ร่างกายผลิตสารกัญชาธรรมชาติ ให้รู้สึกดี อารมณ์ดี คลายเครียดอีกด้วย นอกจากนั้นยังนอนหลับสบายอีก
การหันมาออกกำลังกายนับว่าจำเป็นมากในยุคที่นั่งติดเก้าอี้จ้องจอคอมพิวเตอร์ การออกไปเจอคนอาจจะไปเจอคู่รักที่หามานานก็ได้ (โอกาสดูจะสูงกว่าไปไหว้พระขอคู่เป็นไหน ๆ)
กีฬาบางอย่างเล่นเป็นทีมก็ได้เพื่อนและฝึกการทำงานเป็นทีมอีกด้วย นอกเรื่องนิดหน่อย
กลับมาที่สุขภาพ ออกกำลังกายยังทำให้หัวใจและเส้นเลือดดี กระปรี้กระเปร่า ลดมะเร็ง ลดเบาหวาน แถมเรื่อเตะปี๊บดังแถมมาอีกด้วย
คำถาม คือ การออกกำลังกายช่วยลดโอกาสสมองเสื่อมได้ไหม และออกแบบไหน จากการศึกษาใน Neurology 2018 พบว่าในทั้งคนวัยกลางหรือสูงวัยที่ทั้งมีโรคสมองเสื่อมอ่อนๆ หรือที่สมองยังแข็งแรงดีอยู่ พบว่ายิ่งออกกำลังกายเยอะก็ยิ่งทำให้ สมองดี สมองดีที่ว่านี้ หมายถึง คิดเร็วขึ้น การตัดสินใจเฉียบขาดขึ้น
และจะออกแบบไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยาน วิ่ง ยกน้ำหนัก โยคะ พิลาติส ก็ตาม ขอให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละสองชั่วโมง อันนี้ก็คงเพราะว่าถ้าออกกำลังกาย สุขภาพหัวใจ และเส้นเลือดเราก็จะดีขึ้น นั่นก็แปลว่าสมองจะได้รับสารอาหารเพียงพอ
นอกจากนั้นก็เป็นไปได้ว่าการที่เลือดสูบฉีดดีจะทำให้สารพิษหรือโปรตีนผิดปรกติถูกล้างออกไปได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นสารเคมีที่หลั่งออกมาตอนออกกำลังกายอาจจะมีส่วนช่วยปรับสมดุลในสมองอีกด้วย อันนี้กลับไปลองดูเพิ่มเติมในหมอดื้อตอน “สมองเหี่ยวหด ถ้ายังอ้วน”
แต่ออกกำลังกายกี่ชั่วโมงละถึงเรียกว่ามากเกินไป ในอีกการศึกษา Dementia and physical activity (DAPA) trial จากอังกฤษเป็นการศึกษาโดยแบ่งคนไข้สูงอายุที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นสมองเสื่อมขั้นน้อยถึงปานกลางออกเป็นสองกลุ่ม (Randomised controlled trial) กลุ่มแรกเค้าให้ออกกำลังกายโดยแอโรบิคและยกน้ำหนัก 150 นาทีในหนึ่งอาทิตย์ เป็นเวลาต่อเนื่องสี่เดือนและให้ทำต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนอีกกลุ่มดูแลตามเดิม ผลกลับผิดคาดเพราะหลังจาก 12 เดือน การทำงานของสมองในกลุ่มออกกำลังกายกลับแย่ลงมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกาย ทีนี้ทำยังไงดีละ ตลอดมาก็บอกทุกคนว่าให้ออกกำลังกาย พอไปดูการวิจัยอื่นๆ การออกกำลังกายก็ไม่ได้ทำให้สมองแย่ลง ทั้งนี้การศึกษาเก่า ๆ อาจจะไม่ได้ให้ออกกำลังกายแบบหนักหน่วงนี้เป็นการชี้ให้เห็นว่า ในกลุ่มคนที่เป็นสมองเสื่อมไปแล้ว การออกกำลังกายมากเกินไปแบบหนักหน่วงอาจจะไม่ดี
ทั้งนี้ มันคงจะเป็นเพราะมันสายเกินไปแล้วและเส้นเลือดที่ตีบ รวมกับสมองที่ทำงานอาจจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพแล้ว พอให้ไปออกกำลังกายหนักๆ พลังงานจากการหล่อเลี้ยงของเลือดอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ จึงถูกเอาไปใช้กับกล้ามเนื้อในร่างกายจนเกินไป สมองจึงได้รับการกระทบกระเทือนเข้าไปใหญ่แต่ข้อดีกับการออกกำลังกายสำหรับคนดูแลก็คือ คนไข้กายแข็งแรงจึงสามารถช่วยเหลือตัวเองในการเดินเหินได้ง่ายกว่าถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
สรุปว่ายังไงดี ข้อมูลในเรื่องนี้
ถึงข้อมูลจะมีเยอะ แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าออกกำลังกายอะไร แบบไหน ออกนานเท่าไหร่ดีสุดที่สรุปไม่ได้ก็คงเป็นเพราะว่าคนแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สภาพร่างกาย ระดับไขมันหรือกล้ามเนื้อก็ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่างก็คือคนที่อ้วนลงพุงก็ควรจะออกกำลังกายแนวแอโรบิคเพิ่มอัตราการเต้นหัวใจเพื่อลดไขมันที่พุง เพราะเรารู้ว่ายิ่งไขมันรอบเอวเยอะ สมองส่วนความจำก็จะยิ่งเล็ก ส่วนคนที่กล้ามเนื้อน้อยนิดก็ควรจะมีการยกน้ำหนักกันหน่อยเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อสามารถช่วยใช้น้ำตาลในเลือดได้ดีและปกป้องสมองของเราได้ส่วนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ออกกำลังกายกันหนัก ๆ ก็ไม่ต้องห่วงเพราะสมองและเส้นเลือดยังดี ออกไปเถอะครับน่าจะปกป้องสมองได้แต่ถ้าออกทั้งวันทุกวันก็อย่าลืมทานอาหารให้พอ อย่าให้ถึงกับผอมแห้งจนเกินไป และควรจะมีวันพักผ่อนด้วยเพราะร่างกายก็ต้องการการพักผ่อนในการฟื้นฟู ออกกำลังกายก็หมั่นยืดเส้นยืดสายและระวังกีฬาที่มีการกระแทกสูงเพราะอายุที่มากขึ้นก็จะตามมากับไขข้อเสื่อม ปั่นจักรยานบนถนนอย่าลืมหมวกกันน็อคระวังรอบข้างและเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดนะครับ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี