กู้ภัยน่านงง เข้าช่วยชายวัย34จยย.คว่ำบาดเจ็บ ดันวิ่งหนีไกลกว่า 10 กม. สุดท้ายถึงบางอ้อ

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่บริเวณถนนหมายเลข 101 น่าน-แพร่ บ้านนาผา ต.กองควาย อ.เมืองน่าน มีชาวบ้านแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุชายรายหนึ่งขับขี่จักรยานยนต์ (จยย.) ล้ม ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.เวียงสา กู้ชีพกู้ภัยเทศบาลตำบลกองควาย พร้อมทีมกู้ชีพสมาคมกู้ชีพกู้ภัยนครน่านรวมใจ เร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อจะให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลน่าน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชายรายดังกล่าว มีบาดแผลได้รับบาดเจ็บหลายแห่งตามร่างกาย จึงจะนำตัวส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลน่าน แต่เมื่อได้ยินว่าจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นายเอ กลับมีอาการตกใจ แล้ววิ่งหนีไปตามถนนมุ่งหน้าไปทาง อ.เวียงสา เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยวิ่งตาม แต่ไม่ทัน จากนั้นนายเอ ทั้งเดินทั้งวิ่ง บางครั้งทำท่าวิ่งกางแขน เหมือนเครื่องบิน จะทำร้ายคนสัญจรผ่านไปมา รวมทั้งจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยที่จะเข้าช่วยเหลือ ทีมกูภัยจึงได้ติดตามอยู่ห่างๆไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร

เมื่อถึงบ้านน้ำปั้ว ต.น้ำปั้ว อ.เวียงสา ชายรายดังกล่าวได้หยิบก่อนหินขว้างปาเข้าไปยังบ้านเรือนชาวบ้าน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเห็นท่าไม่ดี จึงรีบช่วยกันเข้าควบคุมตัว พร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเวียงสา เข้าระงับเหตุ โดยชายรายดังกล่าวให้การวกไปวนมา พูดภาษาที่ไม่มีใครฟังออก อาการคล้ายสติหลุด

จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์ที่เกิดจากอุบัติเหตุหลายแห่ง ทั้งปากแตกเลือดไหลไม่หยุด มีรอยแผลฉีกบริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง เมื่อสอบถามว่าเสพยามาหรือไม่ ชายรายดังกล่าวระบุว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงกลับตอบว่าไม่ได้เสพ และเมื่อจะขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดก็ไม่ยอมตรวจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นก็จำได้ทันทีว่าชายรายดังกล่าวเคยเสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของ ในบ้าน เคยเข้าไประงับเหตุหลายครั้งแล้ว

ด้านอาสาสมัครกู้ภัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งประสานมาจากกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลกองควาย ว่า ชายรายดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มเอง แต่พอเข้าไปช่วย อยู่ดีๆก็ถามท้าต่อย ชายรายดังกล่าวก็เดินจากที่โน่นมาถึงนี่ ระยะทาง 10 กว่ากิโลเมตร จะทำแผลก็ไม่ยอม คลุ้มคลั่งบ้าง ด่าทอคนสัญจรไปมาบ้าง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเวียงสาได้นำตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเวียงสา และจะทำการตรวจหาสารเสพติด เพื่อทำการบำบัดรักษาตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยหากพบมีผู้เสียหายจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

-005