สมาคมขนส่งภาคอีสานประกาศปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้าอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน หลังราคาน้ำมันดีเซลพุ่งทะลุลิตรละ 35.36 บาทและมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องถึงลิตรละ 38 บาท เผยวิกฤติหนักสุดในรอบ 20 ปีจี้รัฐบาลเร่งหามาตรการแก้ปัญหาโดยเฉพาะค่ากลั่นน้ำมันที่สูงเกินเหตุ หากยังเฉยก็พร้อมร่วมเคลื่อนไหวกับสหพันธ์และสมาคมทั่วประเทศ
วันนี้ (14 มิ.ย.65) จากปัญหาวิกฤตราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพุ่งทะลุถึงลิตรละ 35.36 บาท และมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงลิตรละ 38 บาทก็ส่งผลกระทบกับหลายสาขาอาชีพโดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจด้านการขนส่ง ที่ต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง
ล่าสุดทางสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกทั่วภาคอีสานมากกว่า 700 รายก็ได้มีการประกาศปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้าอีกร้อยละ 10 เพื่อความอยู่รอดเพราะแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหวซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน ที่มีการปรับขึ้นค่าขนส่งสินค้า ภายหลังมีการปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล
จากวิกฤติดังกล่าวก็อยากเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งหามาตรการแก้ปัญหาราคาน้ำมันโดยเฉพาะค่ากลั่นน้ำมันที่สูงขึ้นเกินกว่าเหตุถึงลิตรละ 8 บาทกว่าซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันแพง แต่หากรัฐบาลไม่เร่งหามาตรการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง ทางสมาคมขนส่งภาคอีสาน ก็พร้อมจะร่วมกับสหพันธ์ขนส่งแห่งประเทศไทยและสมาคมขนส่งสินค้าทั่วประเทศ
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ระบุว่าหลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางสมาคมฯก็จำเป็นต้องปรบขึ้นค่าขนส่งสินขึ้นอีกเฉลี่ย 5 – 10 เปอร์เซ็นต์ มาแล้ว 2 ครั้งๆ นี้เป็นครั้งที่สามที่มีการปรับขึ้นค่าขนส่งอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากแบกรับภาระต้นทุนจากค่าน้ำมันที่แพงขึ้นไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาก็พยายามประคับประคองมาตลอด แต่พอน้ำมันพุ่งถึงลิตรละ 35.36 บาทก็จำเป็นต้องขึ้นค่าขนส่งสินค้าเช่นกันเพื่อความอยู่รอด เพราะตั้งแต่รัฐปล่อยลอยตัวราคาน้ำมันก็ไม่ได้แก้ปัญหาหรือช่วยเหลืออะไรเลย ปล่อยให้ผู้ประกอบการ และประชาชนแบะรับผลกระทบกันเอง และยอมรับว่าครั้งนี้ถือเป็นวิกฤติหนักสุดในรอบ 20 ปีตั้งแต่ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้ามา - 003