กองปราบฯ-ตร.ภาค5 คุมตัว"อาเสิง"มือฆ่า 4 ศพที่ไต้หวันขึ้นเครื่องบินกลับมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ อ้างมีคนร้ายอีกกลุ่มเป็นผู้ลงมือสังหาร ขณะที่ผบ.ตร.รุดสอบเค้นด้วยตัวเอง
7 มิถุนายน 2565 ความคืบหน้ากรณีนายสันติ หรือ อาเสิง วัย 35 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรรมอำพรางศพนายประเสริฐ และนางสาวพจนีย์ แซ่หลี่ หรืออามี่ เพื่อนที่โตมาด้วยกันและกำลังท้องลูกแฝด 5 เดือน รวม 4 ศพ ก่อนหมกศพไว้ท้ายรถ และนำรถไปจอดทิ้งบริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงในไต้หวัน ก่อนขึ้นเครื่องหนีกลับมาไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน และหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ที่ให้คนใกล้ชิดติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แล้วนั้น ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม (บก.ป.) ควบคุมตัวนายสันติขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสอบปากคำที่กองปราบปราม เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ
โดยเมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินมาสอบปากคำด้วยตัวเอง
มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบ และตำรวจภูธรภาค 5 ได้ควบคุมตัวอาเสิงที่บ้านอรุโณทัย ชายแดนไทย-เมียนมา อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เบื้องต้น อาเสิงให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพเป็นผู้ล่อลวง น.ส.พจนีย์ ให้มาหาที่หอพักในไต้หวัน อ้างว่าตกลงเรื่องเงินและธุรกิจและมีคนร้ายอีกกลุ่มเป็นผู้ลงมือสังหาร ส่วนอาเสิงรับหน้าที่ขับรถขนศพยัดท้ายรถไปจอดไว้เมื่อคืนวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยหลบหนีไปบ้านพักที่บ้านใหม่หนองบัว อ.ไชยปราการ แงะออกจากบ้านไปวันที่ 10 มิ.ย. หลบหนีอยู่ตามแนวชายแดน ก่อนญาตประสานตำรวจนำอาเสิงเข้ามอบตัวดังกล่าว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทนไม่ไหว!มือฆ่า4ศพขอมอบตัว เตรียมส่งเข้า‘กองปราบ’เค้นสอบ)
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี