สกสว.เปิดเวทีระดมสมองบอร์ด 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระตุ้นจุดคานงัดของประเทศ ด้าน รมว.อว.ชี้ต้องเร่งปฏิรูประบบ ววน. ให้เร็ว มาก และประหยัด พร้อมเสนอจัดตั้ว ‘ธัชภูมิ’ เพื่อสร้างความรู้เชิงพื้นที่
20 มิถุนายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดการประชุมเรื่อง “เป้าหมายการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.)” โดยมีคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม คณะกรรมการอำนวยการ สกสว. และคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม ร่วมให้ความเห็นเรื่องการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามเป้าหมายในช่วงระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการจัดลำดับความสำคัญของการพัฒนาระบบ ววน. ให้ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมต่อการทำงานของทุกภาคส่วนให้เป็นเนื้อเดียวกัน รวมถึงเป็นข้อมูลในการยกร่างแผนพัฒนาระบบ ววน. ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดจุดคานงัดในระบบ ววน. ของประเทศ
ประเด็นในการระดมสมองครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) การประสานความร่วมมือและเสริมสร้างความเข้มแข็ง(กลไกการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมและภาคส่วนอื่น การเชื่อมระบบงาน การพัฒนาระบบตัวชี้วัดร่วม การเชื่อมโยงกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในและนอกระบบ ววน.)2) การบริหารจัดการทรัพยากร(กลไกการเชื่อมโยงระหว่างการจัดทำแผนการจัดสรรงบประมาณ)3) ระบบสำคัญที่เกี่ยวข้องการประสานความร่วมมือและความเข้มแข็ง(ระบบทรัพย์สินทางปัญญา การใช้ประโยชน์ข้อมูลระบบ ววน. เพื่อพัฒนานโยบาย และสู่ระดับปฏิบัติการ และการเชื่อมต่อการติดตามประเมินผลแบบครบวงจร)และ 4) การบริหารจัดการและพัฒนากำลังคน (ระบบบริหารกำลังคน ววน. ของประเทศ)
ในโอกาสนี้ ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ว่าการปฏิรูประบบ ววน. ต้องทำให้เร็ว ทำให้มาก และทำแบบประหยัด ทำดีแต่ทำช้า เหมือนไม่ได้ทำ ทำดีแล้วฟุ่มเฟือยมากจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมได้ทั้งนี้นอกจากธัชชาที่ดูแลงานวิจัยมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปศาสตร์ ธัชวิทย์ที่ดูแลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีแล้ว ยังอยากให้มี “ธัชภูมิ” อันเป็นความรู้เชิงพื้นที่ ทำหน้าที่วิจัยและให้ความรู้เกี่ยวกับเชิงพื้นที่ แต่ไม่ได้ตัดขาดจากศาสตร์และศิลป์
ด้านศาสตราจารย์ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไลปลัดกระทรวง อว. กล่าวเสริมว่าว่าการปฏิรูปอุดมศึกษามีสัญญาณการขับเคลื่อนชัดเจน ออกดอกออกผลพอสมควรแล้ว จึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญด้าน ววน. เพื่อให้ประชาชนยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่พอจะปรับได้คำถามคือเราจะมีความสุขกับงบประมาณที่มีเรามีอยู่15% หรือทั้งหมดของประเทศ100% เราควรจะต้องไปช่วยดึงงบ85% จากเอกชน ทำหน้าที่เป็นกลไกชักจูงเรือลำใหญ่ให้วิ่งไปในทิศที่ประเทศต้องการ โดยหาร่องน้ำใหม่และขุดคลองลัดให้เรือลำใหญ่วิ่ง
ขณะที่รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สิ่งที่ถูกถามทุกครั้งคือ ประชาชนได้อะไร ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เป็นบทบาทหน้าที่ของ ววน. ที่จะต้องตอบคำถามให้ได้ ความคาดหวังแรกจึงต้องส่งมอบผลงานได้ และนักวิจัยได้มองเห็นร่วมกันในเชิงเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศด้วย ววน.หรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือกับหน่วยบริหารจัดการทุนและนักวิจัยเพื่อให้เห็นเป้าหมายร่วมกัน ทั้งนี้ประชาชน เอกชน หน่วยงานพัฒนา และนิติบัญญัติจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับระบบ ววน.อย่างไร เป็นเรื่องที่ท้าทาย”
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี