เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ดร.สุเทพ แก่นสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิคม แหลมสัก รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ วรยศ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ 4 มหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ (forest ecosystem) โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนการเพาะพันธุ์กล้าไม้ และส่งเสริมการปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการปลูกและบริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจและสังคมของชุมชน ด้วยเทคโนโลยีด้านการเกษตรในการบำรุงรักษาป่าไม้ ณ กฟผ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ดร.สุเทพ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นหน่วยงาน 1 ใน 6 แห่ง ของโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งรับการสนับสนุนการดำเนินโครงการจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในการน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” รวมถึงการปลูกจิตสำนึกให้แก่บุคลากร ครู และผู้เรียนอาชีวศึกษาให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ สอศ.จะดำเนินการตามกิจกรรมของโครงการฯ เป็นศูนย์เพาะพันธุ์กล้าไม้ และส่งเสริมการปลูกป่า โดยเริ่มจากการปลูกป่าในพื้นที่ และสร้างความตระหนักรู้แก่ ครู นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และชุมชนโดยรอบ ให้เห็นถึงความสำคัญและช่วยดูแลปกป้องรักษาป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ และเพื่อให้เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ โดยมีสถานศึกษาเกษตรนำร่องดำเนินกิจกรรม จำนวน 4 แห่ง จาก 4 ภาค ได้แก่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว และ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร และจะขยายผลไปยังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอื่นๆ ต่อไป
ด้าน นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลอด 54 ปีที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการดูแลเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม จากนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (EGAT Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2065 - 2070 ภายใต้หลักการสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ
“โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศและเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเพิ่มปริมาณการดูดทรัพย์การคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมมีเป้าหมายในการปลูกป่าปีละ 100,000 ไร่ ร่วมเป็นจำนวน 1,000,000 ไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทางบก ทางทะเลและชายฝั่ง เพิ่มศักยภาพการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีการใหม่ๆ ศึกษาอัตราการรอดของพืชพื้นดิน การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในดิน และศึกษาผลกระทบการเชิงสังคมกับการปลูกป่าชายเลน ยกระดับคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีด้านการเกษตรและป่าไม้ และสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เพาะพันธ์กล้าไม้ 4 ภาค ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในพื้นที่ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และส่งเสริมการเพาะพันธ์กล้าไม้ในชุมชนในพื้นที่ร่วมด้วย”
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี