ไฟไหม้ศาลาการเปรียญวัดบัวบูลย์ ต หนองตาด อ.เมือง จ บุรีรัมย์ หลังใหม่ที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จสูญเกือบ 10 ล้านบาท พระ-ชาวบ้านสุดหดหู่ใจเพราะผู้มีจิตศรัทธา ญาติโยมใช้เวลาร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างมานานกว่า 4 ปี ถูกเพลิงเผาวอดในพริบตา คาดต้นเพลิงเกิดจากคนเข้าไปจุดธูปเทียนไหว้พระแต่ดับไม่สนิททำให้ไฟไหม้ เพราะยังไม่ได้เดินระบบไฟเข้าตัวศาลา
26 มิ.ย.65 เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุไฟไหม้ศาลาการเปรียญ วัดบัวบูลย์ประชาสามัคคี บ้านโคกเพชร ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังใหม่ที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้รับความเสียหาเกือบทั้งหลัง ซึ่งช่วงแรกที่เกิดเหตุทั้งพระ และชาวบ้าน ได้มาช่วยกันดับไฟ ที่จุดต้นเพลิงบริเวณหน้าองค์พระประธาน แต่ไม่สามารถดับได้เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลหนองตาด หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถาน และ อบต.ใกล้เคียง ระดมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงช่วยระงับเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ศาลาก็ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว
พระมหาไพบูลย์ วิปุโร เจ้าอาวาสวัดบัวบูลย์ประชาสามัคคี และเจ้าคณะตำบลหนองตาด บอกว่า ที่สร้างศาลาหลังนี้เพราะอยากให้เป็นศูนย์รวมสำหรับประกอบพิธีทางศาสนา เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของญาติโยม โดยได้ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันก็กว่า 4 ปี ก็สร้างจากแรงศรัทธาของญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธา ที่ร่วมทำบุญบริจาคทั้งปัจจัย และวัสดุต่างๆ ซึ่งก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่กลับมาเกิดเพลิงไหม้ก่อน ได้ไปช่วยเตรียมงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูสังวรณ์ โพธิวัฒน์ อดีตเจ้าคณะตำบล ที่มรณภาพเมื่อ 4 ปีก่อน โดยได้มอบร่างให้กับ รพ.ที่ขอนแก่น และมีกำหนดจะประกอบพิธีพระราชเพลิงศพช่วงบ่ายวันนี้ (26 มิ.ย.65) ที่วัดบ้านหนองมะเกลือ ต.หนองตาด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยพระทุกรูปก็ไปช่วยเตรียมงานกลับมาที่วัด ก็ประมาณ 21.00 น. จึงกลับมาจำวัดกระทั่งช่วงเกือบตี 2 ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นที่ศาลาพอมาดูถึงรู้ว่าไฟไหม้ ก็ขอให้ญาติโยมมาช่วยกันดับแต่ก็ไม่สามารถดับได้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับแต่เพลิงก็โหมไหม้ศาลาเสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว คาดว่ามูลค่าความเสียหายก็น่าจะเกือบ 10 ล้านบาท เสียใจจนพูดไม่ออกที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ศาลาครั้งนี้ เพราะทั้งพระและญาติโยมก็ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างมานานกว่า 4 ปี ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนสาเหตุไม่น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะยังไม่ได้ต่อระบบไฟเข้าไปในศาลา พ่วงมาแค่ที่ด้านหน้าศาลาเพื่อไว้ใช้เวลามีงานเท่านั้น จึงสันนิษฐานว่าน่าจะมีคนมาจุดธูปเทียนไหว้พระแล้วดับไม่สนิท จนทำให้ไฟลุกลามไหม้ศาลาจนเสียหายดังกล่าว แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
ด้านนายธีรวุฒิ สีบุญเรือง อายุ 47 ปี ชาวบ้าน บอกว่า รู้สึกหดหู่ใจที่เห็นศาลาถูกไฟไหม้เพราะตนก็เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ก็มีทั้งชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยและวัสดุก่อสร้าง โดยใช้เวลานานกว่า 4 ปีถึงได้ขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุเพลิงไหม้วอดเสียหายเกือบทั้งหลังแบบนี้ ก็อยากจะวิงวอนผู้มีจิตศรัทธาที่อยากจะทำบุญร่วมบริจาคก่อสร้างหรือซ่อมแซมศาลาแห่งหนึ่งที่ถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายด้วย เพราะลำพังชาวบ้านคงไม่มีกำลัง.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี