วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
วงเสวนาหนุนสร้างกระบวนการยุติธรรมเป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ

วงเสวนาหนุนสร้างกระบวนการยุติธรรมเป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ

วันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 22.05 น.
Tag : กระบวนการยุติธรรม เพศสภาพ เสวนา
  •  

วงเสวนา หนุนสร้างกระบวนการยุติธรรมเป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ “นพ.วิบูลย์”ชี้กระบวนการส่งต่อผู้เสียหายตามระบบ OSCC เร่งให้ความรู้บุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลส่งต่อไปถึงชุมชน เพื่อเก็บหลักฐานให้ได้เร็วที่สุด ด้านอัยการชี้ควรให้เข้าไปมีบทบาทตั้งแต่เริ่มต้นสอบปากคำเพื่อลดความบอบช้ำจากการให้ข้อมูลซ้ำๆ

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ที่สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย มูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท ประจำประเทศไทย (FES) มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการเสวนา “สร้างเสริมกระบวนการยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อทุกเพศสภาพ”


นพ.วิบูลย์ ทองด้วง รองประธานศูนย์ OSCC โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กล่าวว่า ในคดีทางเพศนิติแพทย์มีหลักการตรวจสอบ โดยเริ่มจากการซักประวัติ ตรวจร่างกายทุกส่วน รวมถึงอวัยวะเพศและรูทวาร เพื่อเก็บสารคัดหลั่ง ไว้เป็นหลักฐานทางคดี ซึ่งหากเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่จะมีเวลา 1-2 วันในการเก็บ เพราะหลังจากนั้นสารคัดหลั่งจะหายไป ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุแล้วโดยหลักการผู้เสียหายควรรีบมาตรวจ

นพ.วิบูลย์ กล่าวว่า กระบวนการส่งต่อผู้เสียหายเข้าสู่ระบบ OSCC สิ่งสำคัญคือ บุคลากรในสถานพยาบาลต้องรับทราบว่าได้ทำการสัมผัสรักษาผู้เสียหายอยู่ จึงได้เริ่มอบรมผู้เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลเริ่มตั้งแต่พยาบาล ทีมงานด่านหน้า ห้องตรวจโรคทั่วไปให้เข้าใจถึงผู้เสียหาย เพราะบางครั้งก่อนที่จะมาถึงเรื่องการเก็บหลักฐาน ผู้เสียหายอาจบาดเจ็บรุนแรงมาก่อนได้ ดังนั้นจึงมีเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน จากนั้นโรงพยาบาลจะกระจายความรู้นี้ลงไปสู่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ลงไปถึงอาสาสมัคร (อสม.) ถือเป็นการให้ความรู้กันเป็นทอดๆ อบรมจนเจ้าหน้าที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ

“โรงพยาบาลให้ความสำคัญกับระบบ OSCC เมื่อผู้เสียหายมาถึงโรงพยาบาล ต้องปิดบังชื่อ เวชระเบียนป้องกันการรับรู้ตัวตนจากภายนอก เป็นเรื่องความลับ แต่อย่าทำให้แตกต่างจนผู้ป่วยคนอื่นรู้สึก อย่างไรก็ตาม แพทย์ทุกคนสามารถเก็บหลักฐานผู้เสียหายได้ ซึ่งบางเวลาแพทย์นิติเวช ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งแต่ละแผนกประสานร่วมมือกัน” นพ.วิบูลย์ กล่าว

ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาการสอบสวนและการดำเนินคดี สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายข่มขืนที่มีการแก้ไขตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. 2562 ยังมีหลายภาคส่วนติดกับกฎหมายเดิม ซึ่งเรื่องนี้ต้องกระจายการให้ความรู้ผ่านทางสื่อต่าง ๆ ให้กับประชาชน พร้อมกับอธิบายกระบวนการว่าอะไรคือสิ่งที่ทำได้หรือทำไม่ได้

ดร.น้ำแท้ กล่าวว่า บทบาทของอัยการในการดำเนินคดีทางเพศ เราไม่ต้องการให้ผู้เสียหายเจ็บช้ำจากการดำเนินคดีที่ล่าช้า เนื่องจากการสอบสวนซ้ำซาก ดังนั้นหากอัยการอยู่ร่วมสอบปากคำได้ตั้งแต่ครั้งแรก นำข้อเท็จจริงมาต่อสู้คดีจนจบกระบวนการ จะช่วยลดการตอกย้ำรอยแผลของผู้เสียหาย เพราะต้องยอมรับว่าบางคดีกว่าจะจับผู้ต้องหาได้อาจใช้เวลาหลายปี การมาให้ปากคำใหม่จะย้ำบาดแผล เพราะผู้เสียหายบางคนอาจก้าวไปต่อแล้ว หรือ มีครอบครัวใหม่แล้ว หากให้กลับมาเล่าถึงเหตุการณ์อีกอาจเกิดความไม่สบายใจเพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้   อย่างไรก็ตามการลงนามใน MOU ระหว่างอัยการสูงสุดกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนเพื่อแก้ปัญหาและอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาจึงมีความสำคัญ ที่จะทำให้อัยการได้ข้อมูลข้อเท็จจริงโดยตรง

เรืองรวี พิชัยกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา  (GDRI) กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้น หากติดตามอย่างตรงไปตรงมาหรือเห็นจากการนำเสนอข่าวจากทางสื่อจะพบว่ามีแจ้งความจำนวนมาก และน้อยรายที่เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาอาจจะเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นมิตรกับผู้เสียหาย เพราะอาจจะไม่เข้าใจว่าเรื่องการถูกละเมิดทางเพศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางครั้งในกระบวนการสืบสวนสอบสวนมีการถามหลายๆ ครั้ง หรือ ไม่มีฉากกั้น ต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณี หรืออาจถูกข่มขู่

เรืองรวี กล่าวด้วยว่า ต้องออกแบบกระบวนการยุติธรรมอย่างไร ที่จะคุ้มครองให้ผู้เสียหายปลอดภัยและกล้าพูดข้อเท็จจริง โดยที่ไม่ทำให้เกิดความบอบช้ำซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงการจัดเก็บหลักฐานที่ควรมีในโรงพยาบาลทุกแห่ง ไม่ต้องวิ่งไปเฉพาะที่ที่มีแพทย์ OSCC ถึงเวลาหรือไม่ต้องมีแพทย์นิติเวช ประจำ 24 ชั่วโมง หรือ มีบ้านพักฉุกเฉิน มีนักสังคมสงเคราะห์คอยดูแลผู้เสียหายและให้คำแนะนำทันที่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น

ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมที่มีความอ่อนไหวต่อความแตกต่างทางเพศสภาพ (Gender-friendly justice) หมายถึง การประกันว่ากฎหมาย สถาบันความยุติธรรม กระบวนการยุติธรรม และผลลัพธ์ของความยุติธรรมจะไม่เลือกปฏิบัติกับใครก็ตามบนพื้นฐานของเพศและเพศสภาพ (Gender identities) จำเป็นต้องมีมุมมองในเรื่องของสิทธิมนุษยชน การกำหนดเจตจำนงของตนเอง (Self-determination) ความเสมอภาคทางเพศ (Gender equality) ความอ่อนไหวทางเพศ (Gender sensitive) และสิทธิตามกฎหมายที่เท่าเทียมกันของผู้หญิง ผู้ชายและทุกเพศสภาพ ตลอดจนการเข้าถึงและการขจัดอุปสรรคต่อการได้รับสิทธิเหล่านี้ ความอ่อนไหวทางเพศหมายถึงการทำความเข้าใจและคำนึงถึงปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายของแต่ละปัจเจกบุคคลเกี่ยวกับชีวิตสาธารณะและชีวิตส่วนตัว บทบาทและความคาดหวังของสังคม การตีตราหรือด้อยค่าพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การสูญเสียพรหมจรรย์ของหญิงสาวเป็นเรื่องน่าอาย เมื่อถูกข่มขืนหรืออนาจาร เป็นต้น ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานมาจากอคติที่เกี่ยวข้องกับการกีดกันและการเลือกปฏิบัติทางเพศ

ความรุนแรงทางเพศหมายถึง (ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ) หมายถึง การกระทำใดๆ ของความรุนแรงที่ส่งผลหรือมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทางเพศ หรือจิตใจ หรือความทุกข์ทรมานต่อสตรีและทุกเพศสภาพ รวมถึงการข่มขู่ต่อการกระทำดังกล่าว การบีบบังคับ หรือการกีดกันตามอำเภอใจของ เสรีภาพไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่สาธารณะหรือในชีวิตส่วนตัว  และกฎหมายไทยกำหนดไว้ใน พรบ.ศาลเยาวชนและครอบรัว และ พรบ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘กสม.’ชงแก้กฎหมายกองทุนยุติธรรม ลดเหลื่อมล้ำ-คนยากไร้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ‘กสม.’ชงแก้กฎหมายกองทุนยุติธรรม ลดเหลื่อมล้ำ-คนยากไร้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved