11 กรกฎาคม 2565 ร.ต.อ.คงฤทธิ์  พลศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม บริเวณใกล้จุดกลับรถบ้านหนองเซา ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม  ใกล้สามแยกทางหลวงชนบทไปบ้านเหล่าภูมิ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จึงประสานแพทย์ พร้อมรถกู้ศรีสัตตนครพนม กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิฟ และรถกู้ชีพ อบต.ท่าค้อ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ตรงจุดกลับรถฝั่งขาเข้าตัวเมือง พบรถบรรทุกพ่วงคอนเทนเนอร์ขนาด 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 73-5525 สมุทรปราการ ทะเบียนลูกพ่วง 73-6241 สมุทรปราการ  มีนายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกและหน้าอก  ส่วนสภาพรถตกร่องข้างทางชนเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 1 ต้น จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นครพนม มาเร่งตัดกระแสไฟ

ตรวจสอบใต้ท้องรถพ่วงพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กฒ 8375 นครพนม สภาพพังยับเยินเละเป็นซาก  ใกล้กันพบศพนายธนาวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวบ้านกุดสะกอย ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม สภาพนอนหงาย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่  

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือนายยศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี คนซ้อนท้ายรถ จยย. ชาว จ.อุบลราชธานี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บขาขวาผิดรูป ศีรษะบวมโน และแผลถลอกตามร่างกาย จึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งสองรายส่งรักษาที่ รพ.นครพนม

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถ จยย.ที่มีนายธนาวุฒิผู้ตายเป็นคนขับ และนายยศพลคนเจ็บซ้อนท้ายออกมาจากมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อจะมุ่งหน้าไปตัวเมือง จังหวะเดียวกันนั้นรถพ่วงคู่กรณี มีนายกิตติศักดิ์ขับตามหลังมาด้วยความเร็วสูง  และมุ่งหน้าจะเข้าตัวเมืองเพื่อไปรอรับสินค้าที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เกิดเสียหลักหลุดโค้งเฉี่ยวชนรถ จยย.กระเด็นตกคลอง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ระหว่างชันสูตรศพผู้ตาย ได้มีกลุ่มเพื่อนๆประมาณ 5-7 คน และครูอาจารย์ เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และเผยว่าผู้ตายเป็น นศ.ที่ตั้งใจเรียนมีอนาคตยาวไกล โดยในจำนวนเพื่อนเห็นสภาพศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  ถึงกับเข่าทรุดเป็นลมล้มพับกองลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวขึ้นรถกู้ชีพส่ง รพ.นครพนม

ส่วนนายกิตติศักดิ์คนเจ็บ ซึ่งเป็นคนขับรถพ่วง มีอาการสะลึมสะลือยังให้การวกวนอยู่ ทราบเบื้องต้นว่าขับรถพ่วงมาจากภาคเหนือเพื่อมารับสินค้าจากประเทศลาวจึงตีรถเปล่ามา ซึ่งมีระยะทางไกลหลายร้อยกิโล จึงมีความอ่อนล้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเกิดหลับใน จึงเฉี่ยวชนรถ จยย.เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และจากการตรวจสารเสพติดในร่างกายไม่พบ แต่จะสอบปากคำผู้พบเห็นเหตุการณ์ เพื่อสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง