‘บอร์ดสปสช.’เคาะเพิ่ม
สิทธิประโยชน์10รายการ
ยาที่จำเป็นแต่มีราคาแพง
ช่วยปชช.เข้าถึงการรักษา
เมื่อวันที่ 21กรกฎาคม รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท ให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงนั้น การดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยารักษาโรคที่จำเป็นเป็นหนึ่งในกลไกหลักสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มยาจำเป็นราคาแพงที่เป็นอุปสรรคต่อการรักษาผู้ป่วย ที่ผ่านมาภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง มีการพัฒนาและขยายสิทธิประโยชน์ด้านยาอย่างต่อเนื่อง ตามรายการกลุ่มยาบัญชี จ.(2) ที่ผ่านการพิจารณาประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความปลอดภัยและความคุ้มค่าในการรักษา ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้มีมติเพิ่มยาบัญชี จ.(2) จำนวน 10 รายการ ให้ครอบคลุมการดูแลรักษาผู้ป่วยเพิ่มเติม
สำหรับที่มาของข้อเสนอการเพิ่มสิทธิประโยชน์บัญชียา จ.(2) นี้ รศ.พญ.ประสบศรี กล่าวว่า เป็นผลสืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ มีหนังสือที่ สธ.1015/ว 304 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เพื่อขอความอนุเคราะห์พิจารณาเพิ่มเติมยาบัญชี จ.(2) จำนวน 10 รายการ
โดยเบื้องต้น บอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ ซึ่งยาบัญชี จ.(2) 5 รายการแรก เป็นยาที่ใช้แทนยาเดิมกรณีดื้อยาหรือเพิ่มข้อบ่งใช้ หรือปรับเงื่อนไขการสั่งใช้ยา จากการพิจารณานอกจากไม่มีภาระงบประมาณแล้วยังประหยัดงบประมาณจากการเปลี่ยนใช้ยาเป็นจำนวนถึง 59.64 ล้านบาท ได้แก่ 1.ยาโพซาโคนาโซล (Posaconazole) ใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อรามิวโคไมโคสิส (Mucormycosis) ที่ไม่ตอบสนองต่อยา 2.ยาไลนิโซลิด (Linezolid) ใช้รักษาการติดเชื้อเอนเทรโรคอดไคที่ดื้อยาแวนโคไมซิน 3.ยาโซฟอสบูเวียร์ (Sofosbuvir) + ยาเวลป้าทาสเวียร์ (Velpatasvir) และ ยาไรบาวิริน (Ribavirin) รักษาตับอักเสบซี 4.ยาออกทรีโอไทด์ แอซีเทต (octreotide acetate) รูปแบบ sterile powder ชนิดออกฤทธิ์นาน ใช้ในผู้ป่วยเนื้องอกต่อมใต้สมองกระตุ้นไทรอยด์ (thyrotropin secreting pituitary adenoma) 5.ยาเบวาซิซูแมบ (Bevacizumab inj.) รักษาโรคจอตาผิดปกติในเด็กเกิดก่อนกำหนด
รศ.พญ.ประสบศรี กล่าวว่า ส่วนยาบัญชี จ.(2) อีก 5 รายการนั้น แม้ว่าจะมีผลต่อการใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้น แต่สามารถใช้งบที่ประหยัดได้จากการใช้ยาบัญชี จ.(2) ตาม 5 รายการใหม่ข้างต้นได้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 37.23 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมบอร์ด สปสช. จึงมีมติเห็นชอบในคราวเดียวกัน ได้แก่ 1.ยาโวริโคนาโซล (Voriconazole) รักษา invasive fungal infection จากเชื้อTrichosporon spp 2.ยาริทูซิแมบ (Rituximab inj.) กลุ่มโรคนิวโรมัยอิลัยติสออพติกา (neuromyelitis optica spectrum disorder : NMOSD) ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือมีข้อห้ามใช้ยา ยาเพรดนิโซโลน (prednisolone)+เอซาไธโอพรีน (azathioprine)
3.ยาเม็ดนิติซิโนน (Nitisinone) รักษาโรคไทโรซีนีเมียชนิดที่ 1 ให้เฉพาะการรักษาก่อนปลูกถ่ายตับ 4.ยาซิสทีมีน ไบทาร์เทรต (Cysteamine bitartrate) สำหรับผู้ป่วย Nephropathic Cystinosis
5.ยาซัพโพรเทอริน (Sapropterin) (BH4) รูปแบบ oral form สำหรับวินิจฉัยแยกโรคและรักษาโรคภาวะกรดอะมิโนฟีนิลอะลานีนสูงจากภาวะพร่องเตตราไฮโดรไบโอเทอริน (BH4) และโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria : PKU)
“จากกลไกพัฒนาระบบยานี้ ตลอดระยะเวลา 19 ปี ได้ทำให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเข้าถึงยากลุ่มเข้าถึงยาก เนื่องจากมีราคาแพงได้ เป็นการเพิ่มโอกาสการรักษาให้กับผู้ป่วย ซึ่ง 10 รายการยาใหม่ที่ บอร์ด สปสช. ได้เพิ่มเติมตามบัญชียา จ.(2) จะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น” รศ.พญ.ประสบศรี กล่าว
สำหรับยาบัญชี จ.(2) หมายถึง รายการยาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเฉพาะ โดยมีลักษณะ ดังนี้ 1.มีความเหมาะสมที่จะใช้เพียงบางข้อบ่งใช้ 2.มีแนวโน้มจะสั่งใช้ยาไม่ถูกต้อง 3.ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญเฉพาะโรค หรือใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 4.ยาที่มีราคาแพงมาก 5.ส่งผลอย่างมากต่อความสามารถในการจ่ายทั้งจากสังคมและผู้ป่วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี