ตร.คุมตัว 1 ในผู้ต้องหายิงพ่อค้าปลาหมึกเสียชีวิตทำแผน พ่อเผยยังทำใจไม่ได้ หลังสูญเสียเสาหลักของครอบครัว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 ก.ค.65 ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ความคืบหน้ากลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้มีดฟันและยิงนายทศพล มีบุญ หรือ “ต้น” อายุ 33 ปี จนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งเป็นมือปืนเอาไว้ได้ 1 คน คือนายจักรรินทร์ สุ่มกลั่น หรือ “ช้าง”ส่วนคนก่อเหตุอีก 2 คนยังคงหลบหนีไปได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดวันที่ 20 ก.ค.เวลา 18.40 น.ภายในซอยชุมชนวัดบางค้อ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
ล่าสุด วันนี้ทีมลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นพื้นที่โล่งและเป็นทางเลี้ยวโค้งไปยังวัดบางค้อ ซึ่งจุดนี้ด้านหลังเป็นตึกอาคารพาณิชย์ 4-5 คูหา เปิดเป็นร้านขายของ ส่วนอีกฝั่งเป็นร้านขายต้นไม้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับพยานที่เห็นเหตุการณ์ โดยให้ข้อมูลว่า ช่วง เวลา 18.40 น.วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนเห็นคนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน แล้ววิ่งเอามีดไล่ฟันไล่แทงนายต้น แต่นายต้นฮึดสู้เอาแขนหนีบมีดไว้ก่อนที่คนยิงใส่หมวกกันน็อคจะเดินถือปืนมาจ่อยิงซ้ำไป 5 นัด จนนายต้นล้มลงไปนอน จากนั้นคนร้ายอีกคนได้ใช้มีดฟันซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะถอยออกมาแล้วหันมาตะโกนถามคนแถวนี้ว่า “ใครอยากใส่เดี่ยวให้เข้ามา” และได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางซอยวัดพระเงิน หลังจากนั้นทางภรรยาของผู้ตายได้วิ่งออกมาดูนายต้น เบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีประมาณ 3 คนส่วนปัญหามาจากเรื่องอะไรนั้น ตนไม่ทราบ แต่ยอมรับว่าตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาเข้าไปยังบ้านในสวน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่มีอุปสรรคคือ นายช้างเลี้ยงสุนัขพิทบูลหลายตัว จึงทำให้ตำรวจต้องถอยออกมาวางแผนก่อนเข้าไปภายในบ้านอีกครั้ง เบื้องต้นใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 30 นาที แต่ไม่พบหลักฐานอะไรเพิ่มเติม
ขณะที่ศพของนายต้นทางครอบครัวได้นำไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดบางค้อ ทีมข่าวจึงเดินทางไปที่วัด พบนายอภิศักดิ์ มีบุญ อายุ 58 ปี พ่อของนายต้น เปิดเผยว่า ส่วนตัวมั่นใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ 3 พี่น้องที่เป็นเพื่อนเก่าของลูกชาย คือ นายช้าง นายหน่อย และนายนิด เพราะมักจะมีเรื่องชกต่อยและดักทำร้ายกันมาตลอด ส่วนสาเหตุของความขัดแย้งเริ่มจากตัวนายช้าง เข้าเรือนจำเมื่อปีที่แล้ว ลูกชายตนจึงเอาลูกชายของนายช้างมาดูแลจนสนิทสนมกัน แต่ต่อมาลูกชายของนายช้างดันมาเอารถจักรยานยนต์ของภรรยาลูกชายตนไปใช้ และหายไป 2 วันก่อนจะนำมาคืน ทำให้ลูกชายตนโมโห และตบหัวลูกชายของนายช้างไป 2 ครั้ง จากนั้นลูกชายของนายช้างได้หนีกลับบ้านไปด้วยความโมโห ก่อนจุดไฟเผาบ้านนายช้าง พอนายช้างออกจากเรือนจำ จึงไม่พอใจลูกชายและคิดว่าลูกชายตนเป็นคนสั่งการให้ลูกชายของนายช้างไปเผาบ้านตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาจึงมีเรื่องบาดหมางกับ 3 คนพี่น้องที่ก่อเหตุ
โดยก่อนวันเกิดเหตุ ตนได้เตือนลูกชายว่าอย่าไปหาเรื่องกับพี่น้อง 3 นี้ เพราะตั้งใจจะค้าขายแล้ว ซึ่งลูกชายก็พยักหน้าตอบรับ ตนจึงไปต่างจังหวัด มารู้ข่าวอีกที ก็ทราบว่าลูกชายถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ส่วนตัวรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยลูกได้ และอยากแลกชีวิตของตัวเอง ตายแทนลูก แต่สุดท้ายก็ไม่ทันแล้ว ยืนยัน ไม่ให้อภัยและไม่อโหสิกรรมให้
ขณะที่นางสาวสุชาดา บัวทอง หรือ “โบว์” อายุ 27 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขายปลาหมึกย่างอยู่กับสามี และเห็นว่ารถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับเข้ามาตะโกนด่า และต่อว่าสามีของตน แต่ตอนนั้นสามีตอบกลับว่า “ไม่ยุ่ง จะทำมาหากิน” หลังจากนั้นรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ 2 คัน มีประมาณ 3 คน ได้ขับเข้ามาหาเรื่อง และใช้มีดฟันไปที่ลำตัวของสามีทันที และตนได้วิ่งเข้าไปในบ้าน เพื่อหาอาวุธมาให้สามีป้องกันตัว ก่อนเห็นสามีล้มลงกับพื้นในสภาพจมกองเลือด และยังถูกยิงซ้ำอีก 5 นัด จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเรื่องของปมขัดแย้ง ตนคิดว่าสาเหตุมาจากที่สามีเคยดูแลลูกชายของนายช้าง ก่อนจะไล่ออกจากบ้านไป เพราะมีนิสัยลักขโมย ก่อนกลับไปเผาบ้าน ทำให้นายช้างไม่พอใจและเข้าใจว่าสามีเป็นต้นเหตุ จึงกลับมาก่อเหตุทำร้าย โดยก่อนหน้านี้เคยมาทำร้ายแล้ว 2 ครั้ง จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะมาก่อเหตุอีกครั้งและเสียชีวิตในที่สุด
นางสาวสุชาดา ยังบอกอีกว่า รู้สึกเสียใจที่สูญเสียสามีไป ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ และรู้สึกโกรธผู้ก่อเหตุเป็นอย่างมากที่มาทำร้ายสามีของตนจนเสียชีวิต ทั้งๆที่สามีไม่มีอาวุธอะไรจะต่อสู้ และอยากให้ผู้ก่อเหตุรับโทษจนถึงที่สุด
ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้ไปบ้านของ 3 พี่น้องดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวอยู่ในซอยเล็ก 2 ข้างทางเป็นป่า แต่ปรากฎว่าไม่พบทั้ง 3 คนอยู่ภายในบ้าน มีเพียงสุนัขหลายตัวเท่านั้น
ด้านความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.วันชัย ชูจิตร ผกก.สภ.บางใหญ่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้ออกหมายจับนายจักรรินทร์ สุ่มกลั่น หรือ “ช้าง” มือยิง และนายบัญชา สุ่มกลั่น หรือ “หน่อย” มือฟันแล้ว ซึ่งทั้งสองคนเป็น 2 พี่น้องกัน โดยขณะนี้ควบคุมตัวนายจักรินทร์ หรือ ช้าง มือยิงมาได้ ส่วนมือมีด คือ นายบัญชา หรือ “หน่อย” น้องชาย ยังหลบหนี เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายจักรินทร์ หรือ “ช้าง” ยังให้การปฎิเสธ ตำรวจจึงอยู่ระหว่างรอผลตรวจคราบเขม่าดินปืนจากพิสูจน์หลักฐาน ในระหว่างการสอบปากคำตำรวจได้คุมตัวนายจักรินทร์ หรือ “ช้าง” ขึ้นรถตู้ของโรงพักไปยังบ้านพักของนายช้าง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งทีมข่าวพยายามสอบถาม แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆกับทีมข่าว ก่อนขึ้นรถตู้ไปทันที ส่วน “หน่อย” น้องคนสุดท้อง เป็นคนดูลาดเลา ไม่ได้ลงมือ แต่จะโดนข้อหาอะไรหรือไม่ อยู่ระหว่างขยายผลต่อไป ขณะที่นายช้างตำรวจจะนำตัวส่งศาลจังหวัดนนทบุรีในวันพรุ่งนี้.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี