‘อนุทิน’ประชุมด่วนสั่งยกระดับเฝ้าระวัง‘ฝีดาษวานร’ในระบบสาธารณสุขไทย มั่นใจไทยมีพื้นฐานควบคุมการแพร่ระบาดได้ ขณะที่‘สธ.’เตรียมประชุมถกเคาะ‘ระดับโรคติดต่อ’ 25 ก.ค.นี้
24 กรกฎาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมแนวทางรองรับโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า เรียกประชุมด่วนเนื่องมาจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษวานรเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern :PHEIC) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และก่อนหน้าการประกาศของ WHO ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันเป็นรายแรกเป็นชาวไนจีเรีย ที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และอยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมาย
ในส่วนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม สถานการณ์ยังปลอดภัย แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทั่วประเทศ ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้ระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ แต่ยังไม่มีความจำเป็นในการประกาศห้ามผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแต่อย่างใด
“ส่วนการจะประกาศให้ฝีดาษวานรเป็นโรคติดต่อระดับใดนั้น ในวันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม 2565) กรมควบคุมโรคจะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ และประกาศระดับการเฝ้าระวังต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การที่ประเทศไทยดำเนินการในการดูและป้องกันโรคโควิด-19 มาได้เป็นอย่างดีมาตลอดจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้สามารถดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรได้ และมาตรการป้องกันตนเอง Universal Prevention ที่ประชาชนทำอยู่อย่างต่อเนื่องนี้ก็จะสามารถป้องกันได้จากทั้งโควิด19 และฝีดาษวานรได้ อย่างไรก็ตาม แม้ในทางการแพทย์ขณะนี้จะได้ระบุถึงลักษณะของโรคไม่มีความรุนแรง แต่สภาพที่ปรากฏต่อคนทั่วไปมันดูแล้วน่าตระหนกโดยเฉพาะบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการมีมีตุ่มน้ำ หนอง ผื่นตามลำตัวดูแล้วไม่ใช่โรคผิวหนังธรรมดา และหากมีการสัมผัสก็แพร่เชื้อได้
“จึงควรจะต้องยกระดับการเฝ้าระวัง มีระบบในการดูแลกรณีที่ผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล ให้พิจารณาว่ากรณีมีผู้ป่วยเข้าข่ายจะมีขอควบคุมรักษาก่อนได้หรือไม่ รวมถึงดูแลเรื่องความพร้อมของเวชภัณฑ์ วัคซีน มีมาตรการในสาธารณสุขในการป้องกันแพร่เชื้อคัดกรองอให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุขให้ได้ต่อเนื่อง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรากำลังจะไปได้ดีการฟื้นตัวจากโควิด19 หากไปตามสถานที่ท่องเที่ยวจะเห็นว่าความคึกคักเริ่มกลับมา นักท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งไทยและต่างชาติ เป็นนิมิตหมายอันดี เป็นความสำเร็จที่ทำให้ให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นเราได้
ด้าน น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หลังจาก WHOประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยการประชุมดำเนินการแบบคู่ขนานทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี