“พิจิตร” ยังอ่วมน้ำจาก 2 เทือกเขาไหลท่วมพื้นที่การเกษตร สวนมะม่วงจมน้ำ 500 ไร่ ด้านอุตุฯ แจ้งหลายพื้นที่ทั่วไทยยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วน กอนช.ชี้ 9 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม เร่งเฝ้าระวัง
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิจิตร ว่าปริมาณน้ำฝนสะสมจากเทือกเขาเนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ที่มีปริมาณมาก ได้ไหลลงมาท่วมพื้นที่การเกษตรกินบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่สวนมะม่วงส่งออกของ ต.วังทับไทร อ.สากเหล็ก และอ.วังทรายพูน กว่า 500ไร่ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยมีน้ำท่วมขังพื้นที่ปลูกมะม่วง ระดับน้ำสูงเกือบ 1เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ยังคงตกสะสมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมวลน้ำจากพื้นที่อ.เนินมะปราง ที่ยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
นายอำนาจ แขวงแย้ม ชาวสวนมะม่วงพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมาเร็วมากและหลากเข้าท่วมสวนมะม่วงจนเกือบถึงตัวบ้านพัก ขณะนี้ยังไม่เกิดความเสียหาย แต่หากต้นมะม่วงแช่น้ำนานหลายวันก็อาจจะตายได้ โดยน้ำที่ท่วมขังไม่สามารถระบายออกจากสวนได้ เนื่องจากคลองระบายน้ำทุกสายมีปริมาณน้ำมาก ต้องรอการระบายเมื่อน้ำลดระดับลง
ขณะที่นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผวจ.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพร้อมสำรวจเส้นทางน้ำจาก อ.สากเหล็ก และอ.วังทรายพูน รวมถึงพนังกั้นน้ำที่พังลง พร้อมประสานให้ชลประทานเร่งทำการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่พังเสียหายอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ได้สำรวจเส้นทางน้ำจากทั้ง 2 อำเภอ เพื่อดูการไหลของน้ำ โดยจะเร่งระบายน้ำทั้งหมดให้ไหลลงสู่แม่น้ำน่านให้เร็วที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็น 2 สาย โดยสายแรกจะไหลลงแม่น้ำน่าน ที่ประตูระบายน้ำบ้านคลองคู้ ต.คลองคู้ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งขณะนี้ด้านหลังประตูมีประมาณน้ำสูง ส่วนอีกสายจะไหลลง แม่น้ำน่านผ่านประตูระบายน้ำบ้านหัวดง ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร โดยเส้นทางสายนี้พบว่าคลองยังสามารถรับมวลน้ำได้อีกมาก จึงยังไม่ต้องเปิดประตูระบายน้ำ
นายไพบูลย์ กล่าวว่า หากช่วงนี้จนถึงช่วงหลังวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ จะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยน้ำสามารถไหลลงสู่แม่น้ำน่านได้สะดวกและพื้นที่น้ำท่วมน้ำจะลดปริมาณลง แต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คงต้องมีการเฝ้าระวังต่อไป และขอให้ประชาชนที่อยู่บนเส้นทางน้ำหลาก เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งเก็บของขึ้นที่สูง เพื่อความปลอดภัย และขอให้ติดตามสถานการณ์ฝนได้ทางแอปของโทรศัพท์มือถือที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ก่อน
สำหรับน้ำจากเทือกเขาเนินมะปราง จ.พิษณุโลก และเทือกเขาเพชรบูรณ์ ยังคงไหลท่วมพื้นที่3 อำเภอของ จ.พิจิตร ที่ติดกับเทือกเขา ได้แก่ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน และ อ.ทับคล้อ โดยท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทางการเกษตรทั้งนาข้าวและสวนมะม่วงส่งออก แหล่งใหญ่ของ จ.พิจิตร เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแล้ว
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2565)” ฉบับที่ 11ระบุว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักบางแห่ง มีดังนี้ ภาคเหนือแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้ ระนอง และพังงา
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทย ประมาณ 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24ชั่วโมง
ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ในช่วง 1-2วันนี้ บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์และหนองคาย ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,390ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 55
ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 20-24กรกฎาคม ว่าเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 14จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรีและยะลา รวม 20อำเภอ 29ตำบล 65หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ392ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2ราย (ชลบุรี) ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้ว สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน ได้สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี