‘ปส.’สนองนโยบาย‘รองฯรอย’ จับยกแก๊งลอบขน‘ไอซ์’ ยึดบิ๊กลอต 631 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ขนจากภาคกลางไปส่งที่ภาคใต้ ก่อนส่งไปประเทศเพื่อนบ้านกระจายไป‘ออสเตรเลีย’
25 กรกฎาคม 2565 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. (ปป.) ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 2)/รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. กวาดล้างจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดที่ลำเลียงยาเสพติดไปขายในพื้นที่ภาคใต้ และยึดทรัพย์ผู้ร่วมขบวนการให้ได้ทั้งหมด ซึ่ง พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 , พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อำมาตย์โยธิน รอง ผบก.ปส.4 ได้สั่งการให้ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.ปส.4 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ สืบสวนเฝ้าติดตามขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดที่นำไปจำหน่ายในภาคใต้ และจับกุมให้ได้ทั้งหมด
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.3 บก.ปส.4 นำกำลังจับกุม 1.นายลุกมัน อายุ 40 ปี ชาว จ.นราธิวาส 2.น.ส.วนิดา อายุ 41 ปี ชาว จ.ปัตตานี 3.นายแวแม อายุ 38 ปี ชาว จ.นราธิวาส 4.นายดากี อายุ 38 ปี ชาว จ.นราธิวาส 5.นายอาลาดิง อายุ 33 ปี ชาว จ.นราธิวาส 6.นายมะเปาซี อายุ 24 ปี ชาว จ.นราธิวาส 7.นายนครินทร์ อายุ 34 ปี ชาว จ.นราธิวาส
พร้อมของกลาง คือ 1.ไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงชาจีน 631 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัม (กก.) ใส่ไว้ในกระสอบ 14 กระสอบ 2.โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง 3.รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร 4.รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร 5.รถกระบะ มิสซูบิชิ ไตตัน แคป สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ใช้เป็นรถขนยาเสพติด
พล.ต.ท.สรายุทธ เปิดเผยว่า การจับกุมไอซ์บิ๊กลอตครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.4 ร่วมกับ ศวข.สงขลา บก.ขส. และ กก.4 บก.สกส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า 402,000 เม็ด อายัดทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยจับได้ที่บริเวณถนนไม่มีชื่อ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จากนั้นได้สอบสวนขยายผล จนกระทั่งได้ทราบข้อมูลของขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดที่นำยาเสพติดมาขายในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้เฝ้าติดตามและวางแผนจับกุม
ผบช.ปส. กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ก.ปส.4 ได้สืบสวนขบวนการยาเสพติดจนทราบเบาะแสว่าขบวนการนี้จะขนยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางไปพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งทราบว่าขบวนการนี้กำลังลำเลียงยาเสพติดลงมาภาคใต้ จึงเฝ้าติดตามจับกุม จนกระทั่งเมื่อช่วง 01.00 น.วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.4 ได้เฝ้าติดตามจนพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ ต้องสงสัย 2 คัน ขับเข้าด่านตรวจตำรวจทางหลวง ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จึงได้เรียกตรวจค้นขณะที่รถกระบะ มิซซูบิชิ ไตตัน แคป สีขาวคันอีกคันที่ตามหลังมาได้จอดหลบเข้าข้างทางก่อนถึงด่านตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่สะกดรอยติดตามอยู่ จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบนายลุกมัน เป็นผู้ขับมี น.ส.วนิดา นั่งข้าง และ นายแวแม นั่งเบาะหลัง ตรวจสอบภายในแคปพบของกลางไอซ์ 14 กระสอบ รวม 631 ก้อน น้ำหนักประมาณ 631 กก. จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด รวมทั้งยึดไอซ์ไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 7 คน สารภาพว่าร่วมกันขนไอซ์จาก อ.บางเลน จ.นครปฐม ไปส่งให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า , เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำตัวทั้งหมดและของกลางส่ง บก.ปส.4 ดำเนินคดีไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดอายัดทรัพย์ของขบวนการนี้ในเบื้องต้น คือ รถยนต์ 3 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง รวมมูลค่าประมาณ 5.1 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้ชุดปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. ได้สืบสวนขยายผลตามนโยบาย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป) ในฐานะเลขา ศอ.ปส.ตร. และเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดนี้ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งจับกุมตัวได้ โดยมีข้อมูลว่ายาเสพติดลอตนี้น่าจะผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เนื่องจาก บช.ปส. ได้ควบคุมการส่งยาเสพติดที่ท่าเรือและสนามบินอย่างเข้มงวด ขบวนการขนลำเลียงจึงเปลี่ยนมาใช้ทางถนน หากไอซ์ลอตใหญ่นี้หลุดรอดไปขายในต่างประเทศจะมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท หลังจากนี้ บช.ปส.จะขยายผลจับกุมหัวหน้าขบวนการและเครือข่ายทั้งหมดต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี