เวทีที่3!เปิดมุมคิด ‘ชาวน่าน’กับโครงการปรับปรุงอาคารศาลากลางหลังเก่า
4 สิงหาคม 2565 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตน่าน ในเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนชาวจังหวัดน่าน โครงการปรับปรุงอาคารศาลากลางจังหวัดน่านหลังเก่า เพื่อเป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและแหล่งเรียนรู้ล้านนาตะวันออก ครั้งที่ 3 สำหรับชาวน่าน พื้นที่อำเภอโซนกลาง ประกอบด้วย อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง บ้านหลวง แม่จริม และสันติสุข โดยมีพระชยานันทมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน , นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็น
โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมรับฟังในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นซึ่ง มีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก ต่อโครงการดังกล่าวซึ่งมูลนิธิรักษ์ป่าน่านเสนอตัวเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวภายใต้งบประมาณ 600 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ให้เป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและแหล่งเรียนรู้ล้านนาตะวันออก รวบรวมศิลปวัฒนธรรมของเมืองน่าน รวบรวมจัดแสดงพันธุ์ไม้ เป็นศูนย์สร้างสรรค์ทางปัญญา คนน่านใช้ประโยชน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สร้างโดยใช้หลัก Green Building โดยมูลนิธิรักษ์ป่าน่านจะดูแลในระยะเวลา 10 ปีแรก และจัดสรรงบประมาณปีละ 10 ล้านเพื่อบริหารจัดการ
ในวันนี้ได้เปิดเวทีให้ประชาชนร่วมรับฟังถึงสองแห่งทั้งที่หอประชุมใหญ่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตน่าน และศาลาหลวงวัดพระธาตุแช่แห้ง มีผู้ร่วมงานประมาณพันคน และเปิดให้ได้ร่วมรับฟัง รับชมและแสดงความคิดเห็นทางบ้านผ่านระบบ Zoom และ Webex และถ่ายทอดสดผ่านเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ที่นี่เมืองน่าน ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน และวิทยุชุมชนเครือข่ายรับสัญญาณถ่ายทอด ซึ่งมีประชาชนร่วมเวทีและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายดังนี้
พระสงฆ์ในพื้นที่จังหวัดน่าน เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว อาคารมีความมั่นคง เนื่องจากหลังเดิมสร้างมาหลายปี ทรุดโทรม หากซ่อมแซมบูรณะ อาจจะมีผลกระทบ หากมีคนมาเที่ยวเยอะอาจจะก่อให้เกิดอันตราย สำหรับการจะสร้างขึ้นมาใหม่นั้น ควรมีอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของน่าน นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวและคาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาที่จังหวัดน่านปีละล้านคน และน่านจะได้มีแหล่งให้ความรู้ทางโบราณคดี แหล่งสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ เป็นความภาคภูมิใจของท้องถิ่น เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความภาคภูมิใจของคนในท้องถิ่น เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ไม่ปฏิเสธการพัฒนาจังหวัดน่าน แต่ขณะที่ข้อกฎหมายยังไม่ตกผลึก ขอให้เป็นมติ ครม.ให้ดำเนินการได้ และถามว่ามูลนิธิเป็นนิติบุคคลประเภทใด และส่วนราชการใด ที่สามารถมาขอใช้ที่ราชการได้
นายสโรช รัตนมาศ อดีตวัฒนธรรมจังหวัดน่าน สอบถามถึงการเปลี่ยนมือ กระทรวงมหาดไทยรับทราบหรือไม่
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศบาลเมืองน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ก่อสร้าง ข้อมูล ความคิดเห็นต่าง ๆ เหล่านี้ต้องส่งกลับไปที่กระทรวงมหาดไทยต่อไป สำหรับกระบวนการทางกฎหมายต้องดำเนินการต่อไปเป็นขั้นเป็นตอน สร้างการรับรู้ การรับฟังความคิดเห็นนี้ เพื่อให้ชาวน่านรับทราบ รับรู้ข้อมูล ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่สร้างความแตกแยก ควรตัดสินใจโดยใช้เหตุผล
นายแพทย์คณิต การก่อสร้างอาคารหลังใหม่ จำเป็นต้องทำ แต่ต้องจารึกประวัติศาสตร์อาคารหลังเก่าไว้ในที่ใหม่ ขอให้ช่วยกันพัฒนา โดยเห็นแก่ประโยชน์แก่ประเทศชาติ
ส่วนนายสมนึก คำฝั้น อดีตนายกอบต. ขอให้คนที่เชี่ยวชาญทุกด้านมาช่วยกัน ไม่เห็นควรปล่อยให้งบตกไป
ด้านบุญยงค์ สดสอาด อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน เห็นด้วยกับการปรับปรุงศาลากลางหลังเก่า มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน ได้สนับสนุนงบประมาณทั้งโรงพยาบาลและ รพ.สต. รพ.ทหาร 15 แห่ง จัดสร้างอาคารและอุปกรณ์การเรียนแก่โรงเรียนต่างๆ กว่า 300 ล้านบาท ล่าสุดยังได้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลน่านกว่าพันล้านบาท
เด็กหญิงนริศรา แก้วใส โรงเรียนแม่จริม เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว จะทำให้เป็นแหล่งรายได้ของผู้คนของเมืองน่าน ให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดน่าน เป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็ก และเยาวชน
นายภานุพงศ์ สิทธิวงค์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เมืองน่าน กล่าวว่า เห็นด้วยกับการสร้างแบบตึกเขียว Green building มีความเหมาะสม เห็นด้วยกับโครงการ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชนชาวน่าน เยาวชน การออกแบบล้ำสมัย รองรับการก้าวสู่อนาคต
ส่วนนายมานพ กันใจมา สจ.แม่จริม กล่าวว่า ขั้นตอนทางกฎหมายไม่มีปัญหา ที่ดำเนินการนี้คือการเข้าสู่ขั้นตอนตามกฎหมาย เห็นด้วย อาคารหลังเก่าต้องซ่อม หรือสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม สนับสนุนมูลนิธิรักษ์ป่าน่านดำเนินการ
นายเชาว์วิทย์ อินทร์น้อย กล่าวว่า การจัดเวทีควรเปิดในวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย เห็นควรเปิดเพิ่มอีกให้เยาวชนได้มีโอกาสมาร่วมแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวเห็นด้วยกับการปรับปรุง แต่ไม่เห็นด้วยกับการรื้อถอนอาคาร
ด้านนางอรทัย จงเจริญ ธนารักษ์พื้นที่น่าน ได้กล่าวถึงการใช้พื้นที่ราชการ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งมูลนิธิใช้พื้นที่ได้หรือไม่ ตามระเบียบต้องเป็นการเช่า ส่วนราชการที่ครอบครองทำหนังสือส่งมาที่ธนารักษ์ เพื่อเก็บค่าเช่า เพื่อใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์โดยไม่ได้มุ่งหากำไร จะใช้สัญญาเช่า 3 ปี หากเกินกว่านั้นต้องแจ้งโดยหน่วยงานที่ครอบครอง ส่วนการเลิกสัญญาเช่า ถ้าผิดสัญญาโดยค้างค่าเช่า หรือหน่วยงานราชการต้องการใช้พื้นที่ธนารักษ์สามารถบอกเลิกสัญญาได้
สำหรับเวทีใหญ่ครั้งสุดท้ายเพื่อสรุปผลจะจัดขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ณ หอประชุมวิทยาลัยสงฆ์นครน่าน หรือสามารถรับฟังถ่ายทอดเสียงได้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน วิทยุชุมชนในพื้นที่ รับชม Live สด ได้ทางเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน และสามารถร่วมเวทีได้ที่ zoom
-005