จับ4แก๊งตุ๋นฟาร์มเห็ด

เหยื่อ2พัน/สูญ1.2พันล.

เร่งติดตามอีก4หลบหนี

ออกหมายแดงไล่ล่าตัว

ผบช.สอท.แถลงผลจับ “แก๊งตุ๋นลงทุนฟาร์มเห็ด” รวบ 4 ผู้ต้องหา มีปชช.เป็นเหยื่อทั่วประเทศมากกว่า 2 พันคนสูญเงิน 1.2 พันล้าน เดินหน้าล่าร่วมแก๊งอีก4 คน โดยกบดานในประเทศ 1 รายหนีไปอังกฤษแล้ว 3 ราย เร่งประสานตำรวจสากลออกหมายแดงล่าตัว

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่าย“Turtle farm”หลอกลงทุนฟาร์มเห็ด มีผู้เสียหายมากกว่า 2,000 ราย ความเสียหายรวม 1,200 ล้านบาท

พล.ต.ท.กรไชยกล่าวว่า จากการสืบสวนคดีดังกล่าว พบข้อมูลกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันตั้งบริษัท ไมน์นิ่ง มายน์ เอ็กซ์ จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด สถานีหลักสี่ขึ้นเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยสร้างโรงเพาะเห็ดขึ้นหลายโรงในอ.เมือง จ.สกลนคร และหลอกชักชวนประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ให้มาร่วมลงทุนในโครงการ Turtle farm ซึ่งมีทั้งปลูกเห็ดเยื่อไผ่ ปลูกกัญชา พืชกระท่อม และเลี้ยงผึ้ง อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก แต่มีระยะเวลาลงทุน เช่น ถ้าลงทุน 132,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนหลังลงทุนไปแล้ว 4 เดือน อัตราเดือนละ 53,200 บาท ทุกเดือนต่อเนื่อง 7 ปี โดยทำสัญญาระหว่างผู้ร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา ใช้บุคคลสำคัญ บุคคลมีชื่อเสียงมาโฆษณาชักชวน สร้างภาพว่าฟาร์มดังกล่าวได้รับรางวัล สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้เสียหายรายหลายหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนจำนวนมาก เมื่อถึงเวลาจ่ายผลตอบแทนกลุ่มผู้ต้องหาจะอ้างว่ามีเหตุขัดข้องไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้ผู้เสียหายได้ จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง และมาแจ้งความดำเนินคดีตามท้องที่ต่างๆมากกว่า 2,000 ราย

พล.ต.ท.กรไชยกล่าวต่อว่า วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ตำรวจ บช.สอท.รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดสกลนครอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 8 ราย ประกอบด้วย น.ส.ฐานวัฒน์ ชูเกียรติสกุลไกร อายุ 26 ปี น.ส.พลอยฐิตา นิรมิตบุญวัฒน์ อายุ 31 ปี น.ส.นันทวดี นันทศิริ อายุ 29 ปี น.ส.ฐิตารีย์ ชัชวาลธนวินทร์ อายุ 29 ปี น.ส.ประภากร สังกฤษ อายุ 25 ปี น.ส.จัณฑิกา ทองพรหม อายุ 29 ปี น.ส.อนัญญา เคนประคอง อายุ 23 ปี และน.ส.ศิลป์สุภา หนูทอง อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.93-100/2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประซาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จากนั้นวันที่ 3-4 สิงหาคมที่ผ่านมาติดตามจับกุมตัวน.ส.ประภากร น.ส.ศิลป์สุภาและน.ส.อนัญญาได้ในในพื้นที่อ.เมืองสกลนคร พร้อมของกลางประมาณ 200 รายการ ขณะที่วันนี้ (5 สิงหาคม) น.ส.นันทวดีเข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงจับกุมตามหมายจับ สำหรับน.ส.ฐานวัฒน์นั้น เคยก่อเหตุคดีฉ้อโกงหลายคดี และพบการเปลี่ยนแปลงชื่อนามสกุลหลายครั้ง รวมถึงเปลี่ยนแปลงตำหนิรูปพรรณตัวเอง เพื่อหลบหนี

พล.ต.ท.กรไชยกล่าวด้วยว่า บริษัทดังกล่าวมีผู้ต้องหาถือหุ้น 3 คนคือ น.ส.ฐานวัฒน์ถือหุ้นร้อยละ40 น.ส.พลอยฐิตาถือหุ้นร้อยละ 40 และน.ส.ฐิตารีย์ถือหุ้นร้อยละ 20 ทรัพย์สินที่ยึดได้นั้น ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)ตรวจสอบ ส่วนผู้มีชื่อเสียง 4 คน ที่มาโปรโมทให้ร่วมลงทุนนั้น จะเชิญตัวมาสอบปากคำ หากพบเกี่ยวข้องกับการทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหาย 1,290 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมากกว่านี้ เพราะผู้เสียหายบางรายยังไม่เข้าแจ้งความ

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 คนที่หลบหนีอยู่ โดยอยู่ในประเทศ 1 คนคือ น.ส.ฐิตารีย์ และหลบหนีไปยังอังกฤษ 3 ราย ได้แก่ น.ส.ฐานวัฒน์ น.ส.พลอยฐิตาและน.ส.จัณฑิกา ซึ่งจะมีหนังสือแจ้งกองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง ให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมระบุที่หมายแจ้งไปประเทศสมาชิกองค์การตำรวจสากลทั้ง 194 ประเทศด้วย