วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เด็กวัย2ขวบถูกอุ้มออกจากบ้านทุบตีจนน่วม แม่เผยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนทำร้าย

เด็กวัย2ขวบถูกอุ้มออกจากบ้านทุบตีจนน่วม แม่เผยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนทำร้าย

วันจันทร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 17.50 น.
Tag :
  •  

8 สิงหาคม 2565 เด็กชายอายุ 2 ขวบถูกอุ้มออกจากเบาะที่นอนในบ้านพักไปทุบตีทำร้ายร่างกายจนน่วมแดงช้ำเกือบทั้งตัวและยังมีแผลพุพองตามตัวอีกหลายจุดเหมือนกับถูกไฟจี้ โดยแม่เด็กได้ออกมาเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ที่เกิดเหตุบ้านต.เขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเช่ามุงอยู่ในชุมชนเขาแดง 

น.ส.สมจิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่เด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 2 ขวบ โดยผู้เป็นมารดา บอกว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายและยังอยู่ในอาการหวาดกลัวโดยแม่ได้ถอดเสื้อผ้าเด็กชายให้ดูสภาพของลูกชายที่ถูกทำร้ายอย่างทารุณมีแผลถูกทุบตีและใช้ไฟจี้ตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะแผ่นหลังซึ่งมีรอยแผลแดงช้ำเหมือนกับถูกฟาดอย่างแรงซ้ำๆหลายครั้งเต็มเผ่นหลัง ใบหน้าซึ่งมีรอยฟกช้ำ และมีแผลคล้ายถูกไฟจี้ที่แก้ม


น.ส.สมจิตร (สงวนนามสกุล) เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้องเอ (นามสมมุติ) ถูกอุ้มออกจากบ้านไปทำร้าย เพราะเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ลูกชายก็เคยถูกคนร้ายแอบอุ้มจากบ้านไปทุบตีตอนตี 3 กว่าๆตนได้ยินเสียงร้องจึงวิ่งออกไปดู ก็เห็นคนร้ายซึ่งจำหน้าได้ว่าชื่อสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) เป็นคนในชุมชนกำลังใช้ไม้ทุบตีลูกชายอยู่ใต้ต้นมะขามใกล้บ้าน จึงเข้าไปช่วยและถามว่าตีลูกตนทำไม นายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) จึงวิ่งหลบหนีไป และพฤติกรรของนายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ก็ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย 

ตนเองได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.สิงหนคร แต่ไม่ทราบว่าคดีไปถึงไหนแล้วเพราะนายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ยังไม่ถูกจับกุม และเมื่อสองวันก่อนตำรวจเพิ่งให้ไปชี้จุดเกิดเหตุใต้ต้นมะขามที่ลูกชายถูกทำราย และที่น่าสังเกตุคือลักษณะการถูกทำร้ายครั้งแรกกับครั้งนี้ก็คล้ายๆ กันมีร่องรอยถูกตีที่หลังและใช้ไฟจี้ซึ่งคนร้ายน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน

โดยเหตุการณ์ล่าสุด น.ส.สมจิตร (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า ลูกชายก็ถูกอุ้มจากเบาะที่นอนไปทำร้ายอีก ตอนนั้นนอนอยู่ในบ้านเช่าหลังนี้กัน 3 คนทั้งตนลูกชาย อายุ 7 ขวบ และน้องเอ (นามสมมุติ) โดยน้องเอ (นามสมมุติ) นอนกับตนอยู่บนเบาะและนอนด้านนอก ส่วนสามีตนไม่อยู่บ้านเพราะเป็นลูกเรือประมงไปออกเรือ โดยตนเข้านอนในตอนเที่ยงคืนและหลับสนิทเพราะกินยาหวัดเข้าไปและเมื่อคืนนี้ลืมล็อคกุญแจด้านนอก เพียงแค่ขัดไม้ไว้ด้านในเท่านั้น มาตื่นอีกทีตอนประมาณตี 4 กว่าเพราะแม่ที่พักอยู่บ้านข้างๆ เรียกจะไปงานในช่วงเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาปรากฏว่าน้องเอ (นามสมมุติ) ได้หายไปตนและชาวบ้านพยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ มีเพียงร่องรอยเดินย้ำผักบุ้งที่คลองหลังบ้าน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร แต่ตำรวจยังไม่รับแจ้งบอกว่ายังไม่ถึง 24 ชั่วโมงแต่ก็จะส่งตำรวจมาช่วยตามหา 

"ทีแรกตนคิดว่าลูกชายน่าจะถูกชายคนเดิมอุ้มไปทำร้ายตรงจุดเดิมที่เคยถูกพาไปครั้งแรก แต่ยังไม่ถึงเพราะระหว่างทางได้พบลูกชายยืนอยู่ริมทะเลมีชาวบ้านได้ช่วยเอาไว้  ในสภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยโคลนตมและร่างกายถูกทำร้ายแต่ลูกชายก็ไม่ได้ร้องให้ จึงพาตัวไปแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร ตำรวจก็ให้พาตัวไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย และกลับมาแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร อีกครั้ง เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่ทำกับลูกชายตน" น.ส.สมจิตร (สงวนนามสกุล) กล่าว

นางดาว (สงวนนามสกุล) อายุ 41ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ขับรถพาแม่ออกไปช่วยตามหาน้องเอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ตอนเกิดเหตุพยายามหาบริเวณบ้านเช่ากันทั่วแต่ก็ไม่พบ มีเพียงร่องรอยคนเดินย้ำที่คลองหลังบ้าน จึงไปแจ้งความที่ สภ.สิงหนคร แต่ตำรวจบอกว่ายังไม่ถึง 24 ชั่วโมงให้กลับมาตามหาให้ดี กระทั่งไปพบน้องเอ (นามสมมุติ) ยืนอยู่ริมทะเลโดยมีชาวบ้านที่ผ่านไปเห็นยืนอยู่คนเดียวช่วยเอาไว้ ซึ่งเสื้อผ้ามอมแมมมากและพอแม่ถอดเสื้อออกก็พบว่ารอยแผลถูกทำร้ายเกือบทั้งร่าง

ด้านนายเกษม (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นคนแรกที่ไปพบน้องเอ (นามสมมุติ) ยืนร้องไห้อยู่ที่ชายทะเลเล่าว่าตอนไปเจอน้องเอ (นามสมมุติ) ตอนตี 5 ขณะเดินกลับจากละหมาดที่มัสยิด เห็นเด็กร้องและเนื้อตัวมอมแมมมากเต็มไปด้วยโคลนตม จึงเข้าไปช่วยเอาไว้และพยายามแจ้งตำรวจแต่แม่เด็กก็ตามมาพบ ซึ่งเหตุการณ์นี้ตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่อุ้มเด็กไปทำร้ายจนเป็นแผลทั้งตัวแบบนี้ทำไปเพราะอะไร

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเก่าที่แม่เคยแจ้งความเอาไว้ เจ้าของคดีเผยว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการคดีโดยได้สอบปากคำแม่เด็กไปเรียบร้อยแล้วและเมื่อสองวันก่อนได้ให้แม่ไปชี้จุดเหตุและเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียก นายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) มาสอบสวน และจากเหตุการณ์นี้ล่าสุดทางตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ก็ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดเหตุพูดคุยสอบถามเรื่องราวกับแม่ของเด็กรวมทั้งดูร่องรอยบาดแผลที่เด็กถูกทำร้ายเพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวครัวในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย 

ด้านพ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผู้กำกับการ สภ.สิงหนคร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันสืบสวนคลี่คลายคดีนี้เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร็วที่สุดเพราะดูจากบาดแผลที่ตัวเด็กผู้ที่ลงมือโหดร้ายมากและจิตใจน่าจะไม่ปกติเพราะลงมือทำกับเด็ก โดยผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยขณะนี้คือ นายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ที่เคยอุ้มน้องเอ (นามสมมุติ) มาทำร้ายทุบตีแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตำรวจเตรียมไปนำตัวมาสอบสวน 

อย่างไรก็ตามคดีนี้ตำรวจจะเรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแม่เด็กที่บอกว่าลูกชายถูกคนอุ้มไปทำร้าย รวมทั้งนายสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ที่ถูกแม่ระบุว่าเป็นคนอุ้มลูกชายไปทุบตีครั้งแรกและครั้งนี้ก็สงสัยว่าน่าจะเป็นคนทำ 

นอกจากนี้จะสอบสวนพยานแวดล้อมอื่นๆ ทั้งลูกชาย 7 ขวบซึ่งนอนอยู่ในบ้านในคืนเกิด และพยานแวดล้อมอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดคือวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ในตัวเด็กที่จะระบุได้ชัดเจนว่าใครเป็นคน โดยเจ้าหน้าที่จะนำเสื้อผ้าที่น้องเอ (นามสมมุติ) สวมใส่ในคืนเหตุและชิ้นเนื้อในซอกเล็บไปตรวจหาดีเอ็นเอซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าใครเป็นคนทำร้ายเด็ก 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'มหาดไทย\' ขึ้นบัญชีแดง ผู้มีอิทธิพล 566 ราย บุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 625 ราย 'มหาดไทย' ขึ้นบัญชีแดง ผู้มีอิทธิพล 566 ราย บุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 625 ราย
  • สลด! เก๋งเมาแอ๋เสยท้าย จยย. \'ส.ท.\' 4 สมัยเสียชีวิตพร้อมภรรยา สลด! เก๋งเมาแอ๋เสยท้าย จยย. 'ส.ท.' 4 สมัยเสียชีวิตพร้อมภรรยา
  • เร่งตามหา! \'เจ๊แก้ว\'เจ้าของแผงทุเรียน หายตัวปริศนา มีทองติดตัวกว่า 20 บาท เร่งตามหา! 'เจ๊แก้ว'เจ้าของแผงทุเรียน หายตัวปริศนา มีทองติดตัวกว่า 20 บาท
  • ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาคดีอุ้มสังหาร\'ดีเจเตเต้\' พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาคดีอุ้มสังหาร'ดีเจเตเต้' พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก
  • ไล่ตะครุบ\'แก๊งกะเหรี่ยง\' ลอบขุดดินร่อนแร่ทองคำ จับได้ 1 หนี 9 ไล่ตะครุบ'แก๊งกะเหรี่ยง' ลอบขุดดินร่อนแร่ทองคำ จับได้ 1 หนี 9
  • ขยายผล‘วัดไร่ขิง’ ลุยสอบบัญชี-สัมพันธ์ลับ‘สมีแย้ม-สีกา’ ขยายผล‘วัดไร่ขิง’ ลุยสอบบัญชี-สัมพันธ์ลับ‘สมีแย้ม-สีกา’
  •  

Breaking News

'มหาดไทย' ขึ้นบัญชีแดง ผู้มีอิทธิพล 566 ราย บุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 625 ราย

สลด! เก๋งเมาแอ๋เสยท้าย จยย. 'ส.ท.' 4 สมัยเสียชีวิตพร้อมภรรยา

เปิดประตูการค้าในสหภาพยุโรป! ชู Soft Power ด้านอาหาร กีฬา ดันมวยไทยสู่เวทีโลก พร้อมดึงแข่ง F1 มาไทย

'บ้านใหญ่'ยังกิน! แนะ'พรรคส้ม'ควรโฟกัสยึดอำนาจรัฐระดับชาติก่อน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved