เหยื่อดับอีก1/โคม่า16
สังเวยไฟไหม้‘เมาน์เท่น บี’พุ่ง16ศพ
วงเสวนาจวกเละตำรวจอ้างไม่รู้มีผับ
เหยื่อเพลิงไหม้“เมาน์เท่น บี”เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ ยอดดับ 16 ศพ ยังใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 16 ราย “รมว.ยุติธรรม” เตรียมลงพื้นที่จ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต 19 สิงหาคมนี้ ส่วนผู้บาดเจ็บ เร่งทยอยให้หลังรักษาเสร็จ ขณะที่วงเสวนาจวกเละตำรวจอ้างไม่รู้มีผับ“เมาน์เท่น บี” แนะผู้เสียหายฟ้องกราวรูดฐานละเลยทำเกิดโศกนาฏกรรม
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
ได้สรุปเหตุการณ์กรณีไฟไหม้ผับเ ม้าท์เท่น บี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 13 ราย เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาล 2 ราย และล่าสุดโดยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย คือ พลทหารสิทธิชัย อุ้ยเลิศ อายุ 23 ปี สังกัดพลบริการ เรือหลวงนเรศวร หมวดเรือที่ 3 กองเรือฟริเกต 2 กองเรือยุทธการ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2565 เวลา 22.21 น. รวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เป็น 16 ราย โดยยังมีผู้บาดเจ็บ 42 ราย รวมเป็น 55 ราย สามารถกลับบ้าน 9 ราย ยังคงรักษารพ 30 ราย
ในจำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย ดังนี้ 1.รพ.สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ 2 ราย 2. รพ.ชลบุรี 4 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 3 ราย) 3.รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา 2 ราย(ใส่ท่อช่วยหายใจ 1ราย) 4.รพ.แหลมฉบัง 1 ราย 5.รพ. ม บูรพา 1 ราย 6.รพ.ระยอง 2 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย) 7.รพ.บ้านฉาง 1 ราย 8.รพ.ศิริราช 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 9.รพ.รามา 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 10.รพ.พระมงกุฏ 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 11.รพ.พระปิ่นเกล้า 3 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 2 ราย) 12.รพ.นพรัตน์ 3 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 13.รพ.เลิศสิน 2 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ2ราย) 14.รพ. เจริญกรุง 1 ราย 15.รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ 1ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 16.รพ.จุฬา 1 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ1ราย) 17.รพ.ภูมิพล 1 ราย 18. รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 2 ราย (ใส่ท่อช่วยหายใจ 1 ราย)
ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมประจำสัปดาห์ โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า จากกรณีเพลิงไหมร้านเมาท์เท่น บี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้ทราบจากทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย จ.ชลบุรีที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานซึ่งได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมเพื่อหารือการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา แล้วโดยจะเร่งพิจารณาการจ่ายเงินในส่วนของผู้เสียชีวิต 15 รายก่อน โดยในวันที่ 19 ส.ค.ตนจะลงไปมอบเงินด้วยตัวเอง เพราะมีภารกิจไปงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จ.ชลบุรี อยู่แล้ว ยืนยันว่า กระทรวงยุติธรรมใส่ใจทุกความเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอด ไม่เคยทอดทิ้ง อะไรที่เราเร่งช่วยเหลือได้ก็จะเร่งให้เร็วที่สุด เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ไม่สามารถรอได้
“หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผู้ได้รับบาดเจ็บ 37 รายยังไม่ได้รับการพิจารณา ผมต้องขอชี้แจงว่า กระบวนการรักษาหลายรายยังไม่เสร็จสิ้น เพราะอาการบาดเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป แต่เมื่อรักษาเสร็จแล้วเราจะเร่งพิจารณาให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกัน ซึ่งผมขอย้ำสิทธิอีกครั้งว่า ผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับการเยียวยารวมเป็นเงิน 110,000 บาท แบ่งเป็น ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย 50,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจตามจริงไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ในระหว่างที่ไม่สามารถทำงานได้ ตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของชลบุรี วันละ 336 บาท ไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท” รมว.ยุติธรรม กล่าว
ที่โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กทม. เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายป้องกันและลดผลกระทบจากสุรา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันจัดเสวนา หัวข้อ “จากซานติก้าผับถึงเม้าท์เท่นบี...แก้อย่างไรให้ตรงจุด”หลังเกิดเหตุไฟไหม้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย จากโศกนาฎกรรมเพลิงไหม้ผับเม้าท์เท่นบี ชลบุรี
พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า เชื่อว่าหากตำรวจไม่รู้คงไม่มีใครกล้าเปิด ไม่ใช่ว่าเป็นการล้อมผ้าเปิดแล้วเดินทางไปที่อื่นต่อ เรื่องนี้ชาวบ้านรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง และที่ เมาท์เท่น บี ไม่ใช่ที่สุดท้าย แต่มีสถานบันเทิงแบบนี้อยู่ทั่วประเทศ หากไฟไม่ไหม้ก็คงไม่มีใครรู้ ดังนั้นการแก้ไขเฉพาะหน้าคือการเอาผิดผู้การตำรวจ ส่วนระยะยาวต้องปฏิรูปโครงสร้างการบริหารงานราชการภูมิภาค
ว่าที่ ร.ต.สมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ใน จ.ชลบุรีอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงลักษณะนี้เพียง 2 อำเภอ คือพัทยา และบางละมุงเท่านั้น ซึ่งเมาท์เท่น บีเปิดมา 2 เดือน คนทั้งจังหวัดรู้ แต่ตำรวจกลับไม่รู้ พอเกิดปัญหา ก็แก้ปัญหาง่ายๆ คือดำเนินคดีกับเจ้าของ สั่งย้ายนายอำเภอ ตำรวจในพื้นที่ไปแขวนไว้ที่อื่น ตั้งกรรมการสอบ ทำแบบนี้ทุกครั้ง จึงอยากให้กรณีนี้เป็นคดีตัวอย่างโดย 1.ผู้เสียหายรวมตัวกันฟ้องร้องผู้ประกอบการที่ประมาท 2.ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนละเลยแค่ไหน 3.ฟ้องศาลปกครอง ฟ้องหน่วยงานรัฐตั้งแต่ผู้ว่าฯ ลงมา เพื่อให้รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยปละละเลย
ทางด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลกล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าของผับมีการจ่ายชดเชยผู้ตายรายละ 5 หมื่นบาท ถือว่าไม่เพียงพอ ทั้งที่จริง ๆ ควรจ่ายชดเชยโดยคำนวนความสูญเสียทางเศรษฐกิจตามประมาณการณ์อายุของผู้เสียชีวิต โดยรัฐต้องเป็นแกนกลางจัดสร้างพื้นที่ต่อรองให้มีการเยียวยาที่เป็นธรรมที่สุด ตนเห็นว่าต้องปฏิรูปหรือออกกฎหมายให้นายทุน เจ้าของกิจการ ต้องรับผิดชอบค่าชดเชยกรณีเกิดอุบัติภัยต่างๆ หรือให้มีการตั้งกองทุนชดเชยขึ้นมา โดยให้นายทุนส่งเงินเข้ากองทุน ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตเปิดสถานประกอบการที่ต้องขึ้นกับหลายหน่วยงานทั้งท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ตรวจสอบต่อเนื่อง และเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ขณะที่ นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รอง ผอ.ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่พบว่ามีใครออกมาเยียวยาต่อผู้เสียหายอย่างจริงจัง ตามที่มีการอ้างว่าทนายความนำเงินประกันไปเยียวยาผู้เสียหายแล้ว ทั้งๆ ที่ ผู้เสียหายต้องได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ จึงได้ประสานงานไปยังเครือข่ายภาคตะวันออกลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล ประสานความช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว หรืออีกช่องทางหนึ่งผู้เสียหายสามารถติดต่อมาทางมูลนิธิฯ ได้ทางโทรศัพท์ 02-248-3734-7 Inbox เข้าไปที่เฟซบุ๊ค “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” และไลน์ consumerthai โดยในการช่วยเหลือ อาทิ เปิดพื้นที่ให้มีการไกล่เกลี่ย เยียวยา หากไม่มีความเป็นธรรมก็จะช่วยเรื่องการฟ้องร้องคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน ได้มีการฌาปนกิจศพ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 4 ศพ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ได้แก่ นายกรวิทย์ เม็งคำ หรือน้องกั๊ก อายุ 17 ปี ที่วัดสัตหีบ ต.สัตหีบ ในเวลา 13.00 น. , พ.จ.ต.รังสิมันต์ วนิชโรจนาการ หรือวิน อายุ 30 ปี นักดนตรีมือคีย์บอร์ด ณ ฌาปนสถาน กองทัพเรือ ต.สัตหีบ ในเวลา 16.00 น. น.ส.พรหมพร พูลสวัสดิ์ อายุ 18 ปี ณ วัดรังสีสุนทร กม. 5 ต.สัตหีบ ในเวลา 16.00 น. และ นายสุเทพ มงคลแก้ว อายุ 33 ปี ณ วัดสามัคคีบรรพต ต.บางเสร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี