น้ำสายแม่สายสาหัสกว่าที่คิด คราบดินทรายเต็มไปหมด - ส.ส.เต้ ลงพื้นที่ เรียกร้องทำพนัง-เวนคืนคนพ้นริมฝั่งกั้นทางน้ำแก้หนีเข้าเมืองได้ด้วย
16 ส.ค.65 จากกรณีน้ำจากลำน้ำสายทะลักเข้าท่วมชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สายจ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 13-14 ส.ค.2565 จนล่าสุดน้ำแห้งลงแล้วนั้น ทาง จ.เชียงราย ได้จัดให้มีกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ ร่วมกันทำความสะอาด Big Cleaning Day บริเวณหน้าด่านพรมแดนและชุมชนต่างๆ เพื่อล้างถนนและพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะตลาดสายลมจอย เพื่อให้สามารถเปิดใช้ได้เหมือนเดิม โดยระดมกำลังทุกฝ่ายทั้งเทศบาล ต.แม่สาย ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง มณฑลทหารบกที่ 37 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ที่ 35 กก.ตชด.32 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากพื้นที่ต่างๆ จิตอาสาจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ ฯลฯ ประมาณ 1,000 คน พร้อมรถพ่นน้ำ รถเก็บขยะ ฯลฯ เข้าทำการขุดตักดินที่ติดค้างตามถนน ร้านค้า บ้านเรือน และฉีดพ่นน้ำเพื่อทำความสะอาดเมือง ซึ่งตลอดทั้งวัน กิ่งกาชาดอ.แม่สาย ได้ตั้งจุดรับบริจาค โดยพบว่ามีประชาชนนำอาหารและน้ำดื่มไปร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่มณฑลทหารบกที่ 37 จัดตั้งโรงครัวเพื่อปรุงอาหารให้กับผู้ร่วมกิจกรรม โดยจังหวัดได้ประกาศปิดตลาดสายลมจอยซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่ถูกน้ำท่วมและพัดร้านเสียหายอย่างหนักเป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปขุดตักดินและขนดินรวมทั้งขยะออกทิ้งภายนอกก่อนฉีดพ่นน้ำทำความสะอาดอย่างไรก็ตามพบว่าการทำความสะอาดครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีดินและทรายจำนวนมากที่ทะลักเข้าติดค้างภายในบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ รวมทั้งถนนทั้งสายตั้งแต่ภายในตลาด ใต้สะพานข้ามลำน้ำสาย ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย ฯลฯ โดยดินโคลนมีความหนาเกินกว่าจะฉีดพ่นน้ำเพื่อทำความสะอาดได้จึงต้องใช้การขุดตักและขนดินออกก่อนฉีดพ่นน้ำทำความสะอาดได้ นอกจากนี้ยังคงมีสิ่งของและเศษวัสดุต่างๆ ยังคงติดค้างอยู่ในดินโคลนและไหลไปกับน้ำเป็นจำนวนมากทำให้ต้องระดมกำลังกันปฏิบัติการตลอดทั้งวัน
ทางด้านมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางไปดูพื้นที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 พร้อมหารือกับนายวรรณศิลป์ จีระกาศ ปลัดเทศบาล ต.แม่สาย ก็ได้รับแจ้งว่าเหตุน้ำท่วมบริเวณชายแดน อ.แม่สาย เกิดขึ้นทุกปี เนื่องจากลำน้ำสายแคบและไหลมาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่สามารถขุดลอกหรือทำพนังกั้นน้ำได้เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างกันแต่สำหรับน้ำท่วมครั้งล่าสุดนี้ นายวรรณศิลป์ระบุว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี เพราะน้ำมีปริมาณมากและเชี่ยวกราดกว่าทุกครั้ง แม้จะมีการแจ้งเตือนทำให้ผู้คนเก็บข้าวของได้ทันแต่น้ำลึกกว่าที่คาดการณ์ทำให้น้ำทะลักท่วมอย่างน้อย 200 หลังคาเรือน
ดังนั้นปลัดเทศบาล ต.แม่สาย จึงเสนอให้มีการนำปัญหาเข้าสู่คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องให้มีการทำพนังกั้นน้ำ เนื่องจากทางฝั่งซ้ายของสะพานมีระยะทางที่จำเป็นต้องมีพนังยาวประมาณ 660 เมตร และฝั่งขวามีระยะทางประมาณ 1,680 เมตร ปัจจุบันหากน้ำสายล้นฝั่งสามารถทะลักเข้ามาได้ตลอดแนว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนทราบว่าน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย เป็นน้ำจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่ไหมาอย่างรวดเร็วสร้างความเสียหายหนักทั้ง 2 ฝั่งประเทศ เพราะเกิดจากการมีผู้รุกล้ำลำน้ำสายตลอดทั้ง 2 ฝั่ง ส่งผลให้ลำน้ำตื้นเขิน ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหาหากมองเฉพาะในฝั่งไทยคือต้องให้มีการคืนพื้นที่ริมน้ำให้กับธรรมชาติ ไม่ยกเว้นว่าผู้ใดจะเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งหากไม่แก้ไขก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมทุกปีสุดท้ายชาวบ้าน 4-5 ชุมชนริมฝั่งหลายร้อยครัวเรือนก็ต้องเดือดร้อนไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามทราบว่าผู้อาศัยอยู่ริมฝั่งลำน้ำระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนใหญ่ไม่มีทะเบียนบ้านและมีการรุกล้ำลำน้ำ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจึงทำได้ 2 วิธี คือวิธีแรกหากไม่จัดการผู้ลุกล้ำลำน้ำก็ต้องทำพนังกั้นน้ำสูง 2 เมตรเพื่อป้องกัน วิธีที่ 2 เป็นกาารแก้ไขปัญหาระยะยาวคือให้ผู้ที่ลุกล้ำได้โยกย้ายออกไปสร้างอาคารในสถานที่ใหม่โดยมีการจ่ายค่าเยียวยาให้ต่อไป
"ต้องทำให้ลำน้ำลึกเหมือนเดิมและทำกำแพงให้เรียบร้อยเพื่อให้ลำน้ำกว้างขึ้นการขนถ่ายแรงงานด้าวจะได้ขนถ่ายยากขึ้น เพราะยิ่งลำน้ำแคบเนี่ยแค่กระโดดไป 3-4 ก้าวก็ถึงอีกฝั่งแล้ว การข้ามมาของแรงงานชาวเมียมามายังไทย การข้ามจากไทยไปเมียนมามันง่ายเหลือเกินในปัจจุบัน ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคงเลยและเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เกี่ยวกับกรรมาธิการทหาร หากจะแก้ไขจริงๆ ก็นำเข้าสู่กรรมาธิการทหารและยังเกี่ยวกับกรมที่ดิน กรมเจ้าท่า ท้องที่ด้วย แต่ถ้าจะอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆน้ำก็ท่วมทุกปีนะ ซึ่งก็แล้วแต่คนท้องที่ แต่ถ้าจะให้แก้ก็บอกมาละกันผมจะลุยให้ แต่ก็ต้องยอมเสียที่นะบ้านอาจจะต้องทุบทิ้ง" นายมงคลกิตติ์ กล่าว.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี