สำนักงานเกษตรอำเภอจะนะ เร่งฟื้นฟูและอนุรักษ์ส้มจุกพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเป็นพืชอัตลักษณ์ของอำเภอจะนะไม่ให้สูญพันธุ์ จัดประกวดส้มจุกจะนะ เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาปลูกส้มจุกจะนะเพิ่มมากขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา หลังพื้นที่ปลูกลดน้อยลงเหลือเพียง 157 ไร่ที่เป็นสวนใหญ่อยู่ประมาณ 80 ไร่ ส่วนที่เหลือจะเป็นสวนผสมผสานที่ปลูกร่วมกับพืชไม้ผลอื่นๆ
วันที่ 17 ส.ค.65 สำนักงานเกษตรอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จัดประกวดผลผลิตทางการเกษตร และกิจกรรมการแข่งขันทางการเกษตร งานประจำปีของดีเมืองจะนะ ปี 2565 ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หน้าสถานีรถไฟจะนะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
เนื่องจากอำเภอจะนะเป็นเมืองเกษตรมีผลผลิตทางการเกษตรมากมายที่เกษตรกรในพื้นที่ปลูกและส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ มีทั้ง จำปาดะทั่วไปและจำปาดะปลัดทอง มะพร้าวแก่และมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ฟักทอง แตงโมขนาดกลางและแตงโมขนาดใหญ่ ข้าวโพดหวาน ถั่วฝักยาว มะเขือยาว สละอินโด สะตอข้าวและสะตอดาน พืชผักสวนครัวในภาชนะ และที่สำคัญที่สุดในการประกวดในครั้งนี้ก็คือ การประกวดส้มจุกพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเป็นพืชอัตลักษณ์ของอำเภอจะนะเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟู ส้มสายพันธุ์นี้ให้กลับมามีชื่อเสียงเหมือนดั่งเดิมอีกครั้ง เนื่องจากในปัจจุบันนี้พื้นที่ในอ.จะนะ มีเกษตรกรปลูกส้มจุกน้อยมากและในขณะนี้ส้มจุกจะนะ ทางจังหวัดสงขลาได้เน้นย้ำให้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอจะนะให้เร่งดำเนินการฟื้นฟูและอนุรักษ์ตามโครงการฟื้นฟูพืชอัตลักษณ์ของอำเภอจะนะ
สำหรับผลผลิตส้มจุกพันธุ์พื้นเมืองจะนะ ผลมาตรฐาน 4 ผลต่อ 1 กิโลกรัม ๆละ 200 บาท ซึ่งเป็นราคาที่พ่อค้ามารับซื้อจากสวน เนื่องจากส้มจุกพันธุ์พื้นเมืองต้องใช้ระยะเวลา 8 เดือนหลังออกดอกจนส้มสุกเต็มที่ให้รสชาติหวาน อร่อย ความหอมของกลิ่นและเก็บขายตกราคาผลละ 50 บาท ในการประกวดส้มจุกพันธุ์พื้นเมืองจะนะในวันนี้มีเกษตรกรส่งส้มจุกเข้าร่วมประกวดเพียง 20 ราย เนื่องจากในช่วงนี้ส้มจุกยังไม่สุกและยังไม่ถึงเวลาเก็บผลผลิต โดยต้องใช้เวลาอีก 1 เดือน ประมาณกลางเดือนกันยายน 2565 จึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
นายอาซราน เต๊ะสอ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอจะนะ กล่าวว่า ในปีการผลิต 2564 ส้มจุกจะนะมีผลผลิต 4-6 ตัน ปริมาณผลผลิตที่ลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้การติดผลและการเจริญเติบโตของลูกไม่สมบูรณ์เหมือนปีที่ผ่านมา ปัจจุบันส้มจุกจะนะมีพื้นที่การปลูกประมาณ 157 ไร่ ที่เป็นสวนใหญ่ๆอยู่ประมาณ 80 ไร่ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นสวนผสมผสานที่ปลูกร่วมกับพืชไม้ผลอื่นๆทั้งทุเรียน มังคุด ลองกอง ที่ยังคงมีปลูกอยู่ในพื้นที่อำเภอจะนะ
หลังจากที่เราได้รับ GI เมื่อปีที่แล้ว ประกาศเป็นพืชบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวที่ 2ของจังหวัดสงขลา หลังจากที่ส้มโอของควนลังได้ขึ้นทะเบียนและส้มจุกของจะนะก็เป็นตัวที่ 2 เราก็ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกส้มจุกเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2565 มีเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนแจ้งเป็นผู้ปลูกรายใหม่เกือบ 30 ไร่ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกส้มจุกจะนะที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ตอนนี้ขึ้นทะเบียนอยู่ จำนวน 57 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ปลูกอยู่เดิมส่วนหนึ่ง และเป็นเกษตรกรรายใหม่ที่พึ่งเข้ามาปลูกปีนี้ประมาณ 10 ราย
นายอาซรานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่คาดหวัง ณ วันนี้ ก็คือส้มจุกจะนะหลังจากที่ได้รับ GI มีเกษตรกรและผู้ประกอบการขอขึ้นทะเบียนผู้ใช้ตรา GI หลังจากนี้เราก็ยังมองว่า ส้มจุกจะนะจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์และก็ความเป็นจะนะของคนในพื้นที่และยังมีให้ลูกให้หลานให้คนรุ่นต่อๆไปได้เห็นส้มจุกจะนะไม่ใช่เป็นพืชอนุรักษ์ แต่เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่จะมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรที่ทำเกษตรแบบผสมผสานหรือจะทำในเชิงธุรกิจ เราคาดหวังไว้อย่างนั้น - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี