‘รองโฆษก ตร.’เปิดเส้นทางรับราชการ ‘ส.ต.ท.หญิง’ ผู้ต้องหาคดีทำร้ายทหารรับใช้ ระบุใช้ ‘วุฒิปวส.ด้านบัญชี’ เข้ารับราชการเมื่อปี 60 ได้รับยกเว้นตามกฎ ก.ตร. พิจารณาจากคุณสมบัติตามวุฒิที่ขาดแคลน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจสันติบาลหญิงยศ “ส.ต.ท.” ทำร้ายทหารรับใช้ที่ จ.ราชบุรี ว่า ประมาณต้นปี 2559 ผู้เสียหายและผู้ต้องหารู้จักกัน จากการสอบปากคำต้นปี 2564 มีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เนื่องจากทำงานไม่ถูกใจ และต้นปี 2565 มีการทำร้ายมากขึ้น จึงขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และน้าสาว ให้ญาติเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รองโฆษก ตร. กล่าวว่า จากนั้นผ็เสียหายจึงขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และน้าสาว ให้ญาติเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นมีการสอบปากคำผู้เสียหายและพยาน คัดกรองแยกผู้เสียหายตามความผิดเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ลักษณะการค้าทาส มีการทำการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ก่อนเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู้คดีดังกล่าว แจ้งข้อกล่าวหาเป็นข้าราชการกระทำความผิดค้ามนุษย์บังคับใช้คนในลักษณะคล้ายทาส , การทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่น ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในการควบคุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันนี้สอบปากคำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการดำเนินการทางวินัย กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 (บก.ส.1) ต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดำเนินการควบคู่ทางคดีอาญา โดยผู้ต้องหาไม่ได้มารายงานตัวตามระเบียบเมื่อต้องคดีอาญา เนื่องจากถูกคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี
“ส่วนกรณีตำรวจหญิงเข้ารับราชการอายุ 39 ปีนั้น พบ ว่า เข้ารับราชการตำรวจปี 2560 ใช้วุฒิ ปวส. ด้านบัญชี ย้ายมาที่สันติบาล ก.พ. 2565 สำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สงป.ตร.) โดยพิจารณาผู้มีคุณสมบัติตามวุฒิฯขาดแคลน ถึงมีระบุว่าอายุไม่เกิน 35 ปี แต่มีข้อยกเว้นตามกฎ ก.ตร. สามารถดำเนินการได้ แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการเข้ารับราชการถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่” รองโฆษก ตร. กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ต้องหามีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่นนั้น ยืนยันว่าอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอำนาจ ยืนยันว่าดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน ตามกรอบกฎหมาย ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือใคร เป็นข้าราชการต้องคดีต้องรับโทษมากกว่าคนทั่วไป กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำผิดส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภาพรวมทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี