ปอศ.ทลายแก๊งข้ามชาติ เปิดแอปกู้เงินออนไลน์เถื่อน ลวงกินค่าธรรมเนียม พบเดือนเดียวเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้าน
23 สิงหาคม 2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังร่วมกับตำรวจกองปราบปราม , ตำรวจน้ำ , ตชด. และ ฉก.ทหารม้าที่ 3 กว่า 60 นายเปิดปฏิบัติการ “ทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งข้อความหลอกลวงกู้เงิน” เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ จ.เชียงราย , ปทุมธานี , สมุทรสาคร , มุกดาหาร และระยอง โดยจับกุมผู้กระทำผิดได้ 4 คน ประกอบด้วย นายพงศา อายุ 25 ปี , นายสุวิทย์ อายุ 28 ปี , นายอากุ๋ย อายุ 41 ปี และ น.ส.นวมน อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1681 , 1688 , 1686 และ 1693/2565 ลงวันที่ 19 ส.ค.65
ทั้งนี้ ในข้อหา “ร่วมกันประกอบสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม , ร่วมกันอั้งยี่ซ่องโจร , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ , มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” พร้อมตรวจยึดของกลางสมุดบัญชี 10 เล่ม , โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง , สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม และบัตร ATM 3 เล่ม พร้อมกับเข้าแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาในเรือนจำที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวอีก 6 ราย คือนายสมชาย อายุ 26 ปี , นายธีรวุฒิ อายุ 26 ปี , น.ส.ทิพย์นภา อายุ 36 ปี , นายอาเป้า อายุ 39 ปี , นายศิริชัย อายุ 42 ปี และนายสมัดร์ชา อายุ 42 ปี
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางปี 2564 ได้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับทาง บก.ปอศ. หลังก่อนหน้าได้ติดต่อกู้เงินผ่าน 2 แอปพลิเคชัน เพราะเห็นว่ามีการแสดงใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกํากับของสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ดูน่าเชื่อถือ แต่เมื่อผู้เสียหายติดต่อไปแล้วกลับถูกหลอกเอาเงินค่าดำเนินการอ้างเป็นค่าธรรมเนียม ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ทาง พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ผอ.ศปน.ตร.) จึงสั่งการให้ บช.ก.ดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
จากการตรวจสอบพบมีการกระทำความผิดจริง รวมถึงใบอนุญาตที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้แอบอ้างนั้นเป็นของปลอมที่ทำขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จะเริ่มจากการส่งข้อความโฆษณาเชิญชวนกู้ยืมเงิน และ ลิงค์เข้าแอปพลิเคชัน ไปตามเพจ หรือ กลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ เมื่อมีผู้หลงเชื่อ หรือ ประชาชนที่กำลังขาดสภาพคล่องทางการเงินพบเห็นหรือให้ความสนใจติดต่อขอกู้เงิน มิจฉาชีพกลุ่มน้ีก็จะออกอุบายเรียกเก็บเงินค้ำประกัน ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียมต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่จะขอกู้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้กลับไม่ได้รับเงินกู้จากแอปดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ มีการยักย้ายถ่ายเทเงินเป็นทอดๆ รวมถึงแปรเปลี่ยนเงินที่ได้เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค, รถไถนา, ทองคําแท่ง โดยซื้อจากประเทศไทย ก่อนจะนําส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบว่าช่วงระยะเวลาแค่ 1 เดือน มีเงินหมุนเวียนเข้าระบบกว่า 400 ล้านบาท จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 16 คน จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเงินเหยื่อ แต่ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนคนหนึ่งให้เปิดบัญชีธนาคารให้ โดยไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้ทำอะไร เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี