กรมอุตุเตือนไทยฝนตก40-70%
ระวังจมฉับพลัน
เหนือ-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก
‘ชัยภูมิ’จับตาลำน้ำชีเอ่อล้น
‘ลำปาง’น้ำป่าซัดสะพานขาด
นายกฯจี้ช่วยเหลือเกษตรกร
อุตุฯเตือนทั่วไทย มีฝนร้อยละ 40-70 ให้เตรียมรับมือ ส่วนพายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” ไม่กระทบไทย ส่วน จ.ชัยภูมิ เฝ้าระวังน้ำล้นลำน้ำชี-ลำปะทาว ท่วมพื้นที่ลุ่ม ขณะที่กรุงเก่าชาวบ้านโล่ง จับจระเข้ยาว2 เมตร ในคลองขวดได้แล้ว ด้านนายกฯ ห่วงเกษตรกรสั่งกระทรวงเกษตรฯเร่งสำรวจ-ฟื้นฟูเยียวยาด่วน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน
ประกอบกับมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มอนึ่ง พายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” (MA-ON) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 23–25 สิงหาคม 2565 และเคลื่อนขึ้นฝั่งด้านตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมในพื้นที่ต่างๆ ได้ไหลลงสู่ลำน้ำชี และลำน้ำสาขา ทำให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ลุ่มติดลำน้ำเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับลำน้ำชี และลำประทาว โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ชัยภูมิได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังนายอำเภอ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองบัวแดง อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส อ.เนินสง่า อ.เมืองและ อ.คอนสวรรค์ วางแผนเตรียมพร้อม และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมรับมือ
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในลำน้ำชี ที่จุดวัดน้ำสะพานบ้านค่ายหมื่นแผ้ว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ระดับน้ำยังต่ำกว่าจุดวิกฤต 1.5 เมตร ส่วนอ่างเก็บน้ำลำประทาวล่าง ขณะนี้ความจุเกินระดับเก็บกัก ไหลล้นทางระบายฉุกเฉินสูงประมาณ 20 เซนติเมตร
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ ได้มอบหมายให้ชลประทานจังหวัดและเขื่อนลำประทาว เพิ่มการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบกาลักน้ำ ระบายลงมาตามลำน้ำได้วันละ1.7ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) รวมกับน้ำเดิมในลำประทาว ไหลงผ่านตัวเมืองชัยภูมิ ลงสู่แม่น้ำชี ขณะเดียวกันทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เปิดเครื่องสูบน้ำดึงน้ำที่ขังตามท่อระบายออกจากพื้นที่ เป็นการเพิ่มพื้นที่รองรับมวลน้ำใหม่
ส่วนกรณีที่มีชาวประมงในพื้นที่หมู่ 1 ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบจระเข้ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 เมตร ในคลองขวด ในระหว่างออกหาปลา โดยเกรงว่าจะทำอันตรายกับชาวบ้าน ซึ่งภายหลังมีการแจ้งไปยังประมงจังหวัด ได้มีการประสานกำลังฝ่ายปกครอง นำเรือ 3 ลำ ออกตามหาจระเข้ดังกล่าว กระทั่งช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับจระเข้ตัวนี้ไว้ได้แล้ว ก่อนจะใช้ถุงปุ๋ยคลุมตัวไว้เพื่อไม่ให้จระเข้มองเห็นและไม่สามารถดิ้นได้
นายสมพงษ์ พึ่งชู เจ้าหน้าที่กรมประมง เปิดเผยว่า ช่วงค่ำมีชาวบ้านมามุงดูทำให้จระเข้ตกใจ ไม่ยอมปรากฏตัว จนช่วงดึกจระเข้ลอยตัวขึ้นมา จึงเข้าไปจับโดยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง กว่าจะจับตัวได้ วัดความยาวจระเข้ได้ 2.1 เมตร น้ำหนักประมาณ 90 กิโลกรัม โดยจะนำไปปล่อยยังสถานที่เลี้ยงจระเข้ต่อไป
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ห่วงใยเกษตรกรผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุดีเปรสชั่นมู่หลานและร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรหลายแห่ง จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ได้รายงานต่อนายกฯ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือเกษตรกรภายหลังน้ำลด เตรียมแจกพันธุ์พืชและเชื้อราไตรโคเดอร์มาที่เป็นเชื้อราใช้กำจัดเชื้อราที่ไม่ดี ส่วนเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 2562 หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 2564 ในอัตรา ดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ ตามพื้นที่เสียหายจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว
อย่างไรก็ดี จากรายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พะเยา น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย และอุบลราชธานี เกษตรกรได้รับผลกระทบ 23,182 ราย มีพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 88,305.25 ไร่ แยกเป็นข้าว 71,695.75 ไร่ พืชไร่ละพืชผัก 14,758.75 ไร่ ไม้ผลไม้ผืนต้นและอื่นๆ 1,870.75 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี