ผบ.ทบ.สั่งกำลังพลพร้อมรับมือ
ฝนถล่มทั่วประเทศ
อุตุฯเตือนไทยยังมีฝนต่อเนื่อง
จับตาก.ย.พายุอีก2ลูกเข้าไทย
กรมชลฯเร่งสูบน้ำช่วยเมืองกรุง
น้ำโขงเพิ่มสูงกระทบหนองคาย
ฝนถล่มคนกรุงอ่วม! จราจรติดหนึบ “ชัชชาติ” โร่ติดตามสถานการณ์ จับมือทหารวางแนวกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ ด้านอธิบดีกรมชลฯ เร่งระบายน้ำช่วย กทม.รองรับน้ำเหนือ ส่วนน้ำโขงสูงขึ้นจ่อกระทบหนองคาย ขณะที่ผบ.ทบ.ลงพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมด้วยตัวเอง30 ส.ค.นี้ ยันทหารพร้อมช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้เกิดฝนตกหนักในหลายจุด ส่งผลให้สภาพการจราจรที่ปกติก็คับคั่งอยู่แล้ว ยิ่งเกิดติดขัดอย่างหนักในหลายเส้นทางอาทิ ถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้าแยกพระราม 2 ดาวคะนอง เส้นทางถนนสุขุมวิท-อโศก ขณะที่ย่านแบริ่งมีน้ำท่วมขังรอระบาย ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างค่อนข้างลำบากและติดขัดบางจุด ส่วนที่แยกยมราช รถติดขัดถึงแยกนางเลิ้งขณะที่ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ปริมาณรถมากทั้งช่องทางด่วนและทางธรรมดา
‘ชัชชาติ’รุดตรวจพื้นที่น้ำท่วม
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฝนตกใน กทม.ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม.สำหรับในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้มีฝนกำลังปานกลาง โดยฝนตกในพื้นที่เขตบางนา พระโขนง และคลองเตย ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนสูงสุด 28.0มม.กลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมพื้นที่ฝั่งธนบุรี ทำให้มีน้ำท่วมขังถนนสายหลัก การจราจรติดขัดบางพื้นที่ ซึ่งมีการแจ้งให้ประชาชนเผื่อเวลาในการเดินทาง โดยพยากรณ์อากาศกทม.จะมีฝนตกร้อยละ 70 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
จับมือทหารลุยอุดแนวฟันหลอ
นอกจากนี้นายชัชชาติ ได้ตรวจดูการวางแนวกระสอบทรายจากการสนับสนุนของทหาร โดยมี พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พล.ต.ญาณะโชติ ผลฉาย ผอ.สำนักงานกิจการพลเรือน สำนักนโยบายและแผนกลาโหม และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมดำเนินการ ที่กรมอู่ทหารเรือ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อยโดยเป็นการทำเขื่อนอุดแนวฟันหลอที่จุดดังกล่าว นอกจากนี้ยังดำเนินการที่ถนนเจริญกรุง 2 จุด คือใต้สะพานตากสิน และสะพานปลา
เผยฝั่งธนฯยังไม่น่าเป็นห่วง
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ฝั่งธนบุรีไม่น่าเป็นห่วง ทางทหารเรือได้ช่วยขุดลอกคลองไว้ค่อนข้างดี มีแค่คลองทวีวัฒนาที่มีจุดคอขวด ด้านฝั่งตะวันออกที่กังวลคือปริมาณน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีผลกับคลองประเวศบุรีรมย์ และคลองแสนแสบ อาจต้องขอเรือผลักดันน้ำไปช่วยโดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรายงานว่าในช่วง 4-5 วันนี้ฝนจะเบาลง จะเร่งระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ จึงขอให้อย่าตื่นตระหนก หรือกังวลมาก ฝนจะเว้นช่วงจนถึงวันที่ 3 กันยายนนี้ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำออก
พร้อมรับมือพายุอีก2ลูกก.ย.นี้
ส่วนความคืบหน้าการป้องกันแนวฟันหลอริมเจ้าพระยา 76 จุด ได้เรียงกระสอบทราบตลอดแนวแล้ว เหลือ 3% ในการเสริมแนวเขื่อนให้สูงขึ้น ซึ่งระดับน้ำในปัจจุบันที่ไหลผ่านกทม.อยู่ในระดับที่เขื่อนควบคุมได้ โดยระดับน้ำที่ปากคลองตลาด อยู่ที่ 2.8 เมตร ยังไม่ถึงจุดวิกฤต ปัญหาคือน้ำที่รั่วจากจุดรอยต่อที่เป็นตะเข็บหรือจุดอ่อนที่รั่วผ่านช่องระบายน้ำอื่นขึ้นมา ที่พยายามดูในภาพรวม
“เทียบกับปี 2554 ที่น้ำท่วมหนัก น้ำที่ปล่อยเข้ามา 3,500-4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คิดว่าเรารับ 2,500 ลูกบาศก์เมตร ยังไม่น่ามีปัญหา แต่ต้องดูระดับน้ำทะเลหนุนและพายุที่จะเข้ามา กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมี 2 ลูก ในช่วงเดือนกันยายนนี้ เราทำงานกันอย่างบูรณาการไร้รอยต่อทุกหน่วยงาน กทม.เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยแก้ปัญหา” นายชัชชาติ กล่าว
กรมชลฯสูบน้ำช่วยพื้นที่กทม.
ขณะที่นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างช่วยระบายน้ำใน กทม.และปริมณฑล เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง และจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำเหนือออกทะเล โดยให้คลองที่เชื่อมต่อกับคลองของ กทม.พร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนที่ตกเพิ่ม โดยคลองแนวตะวันออกไปตะวันตก จะรับน้ำจากคลองแสนแสบออกคลองบางขนาก คลองหกวาสายล่าง คลองประเวศบุรีรมย์ ไปยังคลองสำโรง แล้วสูบออกแม่น้ำบางปะกงที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อระบายออกทะเล
ขณะเดียวกัน สูบน้ำออกจากคลองชายทะเลให้ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อพร่องน้ำคลองชายทะเลให้พร้อมรองรับน้ำจากคลองแนวตั้ง นับตั้งแต่คลองระพีพัฒน์ที่ตัดออกทางคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แล้วออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและบางปะกงตามลำดับ
ระบายน้ำอีกทางสู่คลองสิบสาม
นอกจากนี้ น้ำจากกทม.จะไหลอีกเส้นทางลงสู่คลองสิบสาม ต่อไปยังคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ลงสู่คลองชายทะเล แล้วระบายออกอ่าวไทย โดยกำชับให้เตรียมประตูระบายน้ำและระบบชลประทานที่มีจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กทม.ให้พร้อม หากมีน้ำท่วมขังจากฝนตกให้สูบระบายน้ำช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล
อุตุฯชี้ไทยยังมีฝนตกหนัก
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ในช่วงวันที่ 29 – 30 ส.ค. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 ส.ค. - 2 ก.ย. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3 - 4 ก.ย. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
สำหรับคลื่นบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 29 – 30 ส.ค. และ 3 – 4 ก.ย. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่เกิดขึ้นไว้ด้วย ที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
หนองคายน้ำโขงสูงกว่า1เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.หนองคายว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ที่ 9.28เมตร เพิ่มขึ้น1.43 เมตรต่ำกว่าตลิ่ง 2.92 เมตร คาดว่าในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากระดับน้ำทางตอนเหนือ โดยเฉพาะที่ อ.เชียงคาน จ.เลย มีระดับที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ ระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงส่งผลกระทบทำให้ตลิ่งริมแม่น้ำโขงเกิดการทรุดตัว เสียหาย ชาวบ้านเริ่มได้รับความเดือดร้อนแล้ว
นายศรีจันทร์ สินสวัสดิ์ ชาวบ้านห้วยค้อ ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย พาผู้สื่อข่าวไปดูความเสียหายจากลำน้ำโขงที่เซาะตลิ่งดินจนพังทลายกินพื้นที่กว่า 2 ไร่ พร้อมกับเรียกร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ เพราะหากปล่อยไว้จะมีพื้นที่ถูกน้ำเซาะจนเสียหายเพิ่มมากขึ้น
ผบ.ทบ.ลงพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผบ.ทบ.กล่าวถึงการส่งกำลังทหารร่วมแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมขังใน กทม.ว่า การรับมือสถานการณ์น้ำท่วมมีแผนดำเนินการอยู่แล้ว ตั้งแต่แผนในระดับกระทรวงกลาโหม ซึ่งทุกเขตมีหน่วยทหารที่รับผิดชอบอยู่รวมทั้งมีผู้ประสานงานขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการไปประจำอยู่ที่สำนักการระบายน้ำกทม.ส่วนกรณีน้ำเหนือจะไหลลงมานั้นได้มีการเตรียมรับมือโดยส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยสร้างแนวกระสอบทรายตามการร้องขอในพื้นที่ต่างๆ และในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ตนก็จะเดินทางลงพื้นที่จุดเสี่ยงสถานการณ์น้ำท่วมด้วยตัวเอง โดยเป็นจุดที่อาจจะมีปริมาณน้ำล้นขึ้นมาตามถนนหนทาง
ชี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เคยถูกท่วม
ผบ.ทบ.กล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ซึ่งเคยมีน้ำท่วมเกิดขึ้นเป็นประจำเช่นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาที่ อ.บางบาล และโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามซึ่งมีทหารจากมณฑลทหารบกที่ 18 เข้าไปดำเนินการส่วนกทม.ก็เช่นพื้นที่ตรอกเขียวไข่กา โดยการดำเนินการทุกอย่างมีแผนกำหนดไว้เกือบจะเป็นระเบียบปฏิบัติประจำหรือที่ดำเนินการทุกปี สำหรับสถานการณ์ในปีนี้จะน่าเป็นห่วงหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ใช่หน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำโดยตรง เพียงแต่ขอให้แจ้งมายังกองทัพว่าจุดไหนที่มีความเสี่ยง ทางกองทัพก็พร้อมที่จะทุ่มเทในการแก้ปัญหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี