วันที่ 30 สิงหาคม 2565  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 , และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 นำกำลัง ชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ บูรพา 491 เปิดปฏิบัติการ บุกจับกุมนายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี (มือยิง) ผู้ต้องหาได้บริเวณ ปั๊มน้ำมัน ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจัตุจักร กรุงเทพมหานคร

จากการสอบสวน นายปิติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเป็นผู้ใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงนายมานพ เสถียรเขตต์ ผู้เสียชีวิตจริง โดยเมื่อช่วงเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมา ตนและนายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น ได้ไปสำรวจพื้นที่ก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนลงมือก่อเหตุ แต่ไม่ทราบว่าใครคือ ผู้ว่าจ้าง  หลังเสร็จสิ้นการจับกุม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำตัวมาสอบปากคำขยายผลที่ บก.ป. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และตรวจสอบขยายผลเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ รวมไปถึงผู้จ้างวานต่อไป

พล.ต.อ.สุชาติ  กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 เวลา 19.07 น.ที่ผ่านมาเกิดเหตุ คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน “บุกเดี่ยว” มาที่ปั๊มน้ำมัน ต.บ้านค่าย  อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และขับมาประชิดโต๊ะทำงานที่ นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย นั่งทำงานอยู่ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จ่อยิงใส่ ทนายมานพฯ จำนวน 3 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตต่อหน้าภรรยาและญาติที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญประชาชนอย่างยิ่ง และเนื่องจาก ผู้เสียชีวิต เป็นทนายความที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในพื้นที่และเป็นผู้คอยให้คำปรึกษาในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทุจริตและกระทำผิดกฎหมาย ทำให้มีมูลเหตุจูงใจสลับซับซ้อนเป็นไปได้หลายทิศทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีมสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 390/2565 ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ร่วมกับ บก.ป.บช.ก. , บก.สส.ภ.2 , บก.สส.ภ.จว.ระยอง , สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อคลี่คลายคดีนี้

จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และมีการวางแผนมาก่อเหตุอย่าง “มืออาชีพ” มีสำรวจพื้นที่ สะกดรอยติดตามทนายมานพฯ ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้น คนร้ายจงใจไปจอดทิ้งไว้ในที่ดินรกร้างแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนโดดไปขึ้นรถยนต์ของผู้ร่วมก่อเหตุอีกคน ที่จอดรอรับในพื้นที่เปลี่ยวใกล้จุดทิ้งรถขับหลบหนีไปด้วยกัน จากการตรวจสอบพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมา มีการแจ้งความหายไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2557 ต่อมาตำรวจสืบสวนจนยืนยันตัวบุคคลที่เป็นมือยิงและคนพาหลบหนีได้ทั้ง 2 คน จากรอยนิ้วมือที่อยู่บนรถจักรยานยนต์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ พนักงานสอบสวน บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ 

นาย ปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี (มือปืน) ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1799/2565 ลงวันที่ 29 ส.ค.65 กับพวกในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” และอยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงถึงผู้ร่วมขบวนการคนอื่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รอง ผบ.ตร.บินตามคดีมือปืนถนัดซ้าย ยิงอดีตผู้สมัคร ส.ส.ดับคาปั๊ม

นายกอบต.หนองตะพาน ยันไม่เกี่ยวยิงอดีตผู้สมัคร ส.ส. ตร.รู้เจ้าของรถจยย.แล้ว