5 ก.ย.นี้ "ชัยวัฒน์"นัดหมายกับดีเอสไอ เดินทางไปสำนักงานอัยการ ถ.รัชดาภิเษก ส่งฟ้องศาลทันทีในคดีฆาตกรรม“บิลลี่ พอละจี”หลังดีเอสไอแจ้งข้อหา“ใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่นฯ ม.83,309 พร้อมก๊วนเพิ่มเติม
31 ส.ค.65 ที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมนายบุญแทน บุษราคำ , นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 ราย ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 13/2562 ในคดีฆาตกรรม นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เดินทางเข้าพบนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 309 ภายหลังจากที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ส่งหนังสือแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนี้ถือว่าครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าอำพรางนั้น ในฐานะที่ตนทำงานราชการสืบสวนสอบสวน หากไม่แจ้งข้อหาใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่นตาม ป.อาญา ม.309 ก็ถือว่าขาด จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องแจ้งเพิ่ม ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณอธิบดีดีเอสไอและรองอธิบดีดีเอสไอที่มาต้อนรับตนด้วยตัวเอง ขอยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“ได้เปิดใจคุยกับอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอแล้ว เรื่องนี้พูดกันทุกปีทุกเทศกาล เรื่องนี้ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ด้วย ก็เชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ทำ พร้อมเข้าสู่ชั้นศาล ต่อไปจะได้ไม่ต้องถามว่าบิลลี่อยู่ไหน ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีนั้นต้องรอวันยื่นฟ้องก่อนจึงจะได้เห็นหลักฐานต่างๆ เพื่อสู้คดีต่อ ยอมรับไม่ทราบว่าเกิดเหตุเมื่อไหร่ พร้อมขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ ตัวเองปกป้องป่า สัตว์ป่าและแผ่นดินมาทั้งชีวิต ยึดที่ดินนับแสนไร่ ไม่มีรางวัลนำจับ ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไร อยากถามกลับว่าที่ผ่านมาตัวเองทำไปเพื่ออะไร”
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า วานนี้เพิ่งได้รับบรรจุราชการใหม่ในกรมอุทยานแห่งชาติ โดยต้องรอพิจารณาความเหมาะสมกับงานและตำแหน่งว่างอีกครั้ง ขออย่ากังวลว่าการกลับมารับราชการจะไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหรือไปคุกคามใคร แต่ตนน้อยใจที่ถูกคุกคามจากองค์กรหนึ่ง ยืนยันว่าตัวเองไม่มีอิทธิพล ถ้าไม่มารุกป่าและล่าสัตว์ก็ไม่ต้องมากลัว อายุราชการจากนี้อีก 2 ปี พร้อมถวายชีวิตกับการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเร็วๆนี้จะมีกฎหมายใหม่ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 64 ที่ให้สิทธิ์ทำกินกับราษฎรทุกฝ่าย
ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียกนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 13/2562 มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ทั้งนี้ ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่หนักใจเพราะทำตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา โดยวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะนัดส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้องศาลและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน
“ส่วนการที่นายชัยวัฒน์ กับพวก กลับมารับราชการอีกครั้งนั้นจะไม่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้กดดันแต่อย่างใด เพราะขณะนี้ในชั้นสอบสวนดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่งให้ชั้นอัยการพิจารณาต่อไป”
ต่อมา เวลา 11.30 น. นายชัยวัฒน์ เปิดเผยหลังพบพนักงานสอบสวน ว่า เบื้องต้นในชั้นสอบสวนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและไม่ได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาชี้แจง และในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. นัดหมายกับดีเอสไอเพื่อเดินทางไปสำนักงานอัยการ ถ.รัชดาภิเษก ส่งฟ้องศาลทันที
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี