ป.ป.ช.ฟัน‘ขุนค้อน’
คดีก.ม.นิรโทษกรรมสุดซอยกับ42สส.
ร่วมกันใช้อำนาจโดยมิชอบ
สั่งเชือด3อดีตนายกอบจ.ดัง
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” อดีตประธานสภาฯพร้อมพวกสส.รวม 42 คน ปมเร่งรีบผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ไม่ชอบตามระเบียบประชุมสภาฯสอดไส้ แก้ไขขัดหลักการส่งสำนวนอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วอีกทั้งฟัน 3 อดีตนายก อบจ.ดังรัชนี พลซื่อ-พรชัย โควสุรัตน์-นวพล บุญญามณี’ ในโครงการ ‘ทุจริต-ล็อกสเป็ก-เอื้อประโยชน์’ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเกือบ40 คนปมจัดซื้อ‘เสาไฟกินรี’อบต.ราชาเทวะ 871 ล้านบาท ตั้งอนุกรรมการไต่สวนหลายคณะ ลงตรวจสอบแต่ละโครงการนี้ อยู่ระหว่างสรุปข้อเท็จจริง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.แถลงข่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับฉายาว่า“ขุนค้อน” กรณีกล่าวหา นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวม 42 ราย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเสนอ และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ฉบับที่ .. พ.ศ. …. (พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย)
ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์ กับพวก ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำผิดข้อบังคับในการประชุมสภาฯปี 51 หลายประการ เช่น ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภา มีการเร่งรีบให้ ส.ส.ได้ลงมติ ไม่ทำหน้าที่ส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า การแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน ต้องส่งให้หน่วยงานอื่นของรัฐพิจารณาก่อนหรือไม่ การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เป็นการดำเนินการที่มิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ กับพวก ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2542 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 213/1 ปัจจุบันได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อพิจารณาแล้ว
ไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาฯ
“การกระทำของนายสมศักดิ์ คือ ไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบข้อบังคับสภาฯ เร่งรีบผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย โดยไม่ทำหน้าที่ของมติที่ประชุมสภาว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการขัดกับหลักการแห่งร่างหรือไม่ อย่างไร มีการเสนอมาตราหนึ่งเข้ามา ตามหลักการต้องส่งเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาก่อนว่า สิ่งที่ส่งมาใหม่ขัดหลักการหรือไม่ แต่คุณสมศักดิ์ไม่เสนอ นี่ก็ขัดแล้ว อีกกรณีคือไม่ส่งร่าง พ.ร.บ. ที่มีการโต้แย้งทักท้วงว่า พ.ร.บ ดังกล่าวอาจเข้าข่ายกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน เพราะมีการจ่ายชดเชยเยียวยาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ต้องส่งให้ใครพิจารณาหรือไม่อย่างไร แต่ปรากฏว่าท่าน ไม่ทำหน้าที่ลักษณะนี้” นายนิวัติไชย กล่าว
ฟัน 3อดีตนายก อบจ.ชื่อดัง
นายนิวัติไชย ยังแถลงอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อย่างน้อย 3 ราย ที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ 1.ชี้มูลความผิดนางรัชนี พลซื่อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด กรณีกล่าวหาว่านางรัชนี กับพวกทุจริตในโครงการจัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนการสอน เพื่อแจกจ่ายให้กับโรงเรียน ห้องสมุดประชาชน แหล่งเรียนรู้เยาวชนและชุมชน ระหว่างปี 2548-2551
2.ชี้มูลความผิดนายพรชัย โควสุรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.อุบลราชธานี กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตการกำหนดคุณลักษณะในการประกวดสอบราคาจัดซื้อรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ พร้อมอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนผู้เสนอราคาที่ตนมีส่วนได้ส่วนเสีย
และ 3.ชี้มูลความผิดนายนวพล บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา กับพวก กรณีถูกกล่าวหาว่า ดำเนินโครงการส่งเสริมพัฒนาสุขภาพประชาชน จ.สงขลา โครงการตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ จ.สงขลา ระหว่างปี 2551-2552 กำหนดการให้บริการในลักษณะเอื้อประโยชน์แก่สถานพยาบาล และดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ นอกจากนี้ยังชี้มูลความผิดเอกชนที่เป็นสถานพยาบาล ฐานร่วมกันสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการทุจริตต่อการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐด้วย
แจ้งข้อกล่าวหา40คนปม’เสาไฟกินรี’
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีจัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี (เสาไฟกินรี) พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาเซลล์) พร้อมติดตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ระหว่างปีงบประมาณ 2556 - 2564 รวมวงเงิน 871,020,971 บาท ว่า ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 เท่าที่ทราบขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนหลายคณะ แบ่งเป็นการไต่สวนแต่ละปีงบประมาณ โดยจะดูทั้งหมดในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างสร้างใหม่ รวมถึงการจ้างซ่อม เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ปัจจุบันมีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้วเกือบ 40 ราย
อยู่ระหว่างสรุปข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนมาตั้งแต่ปี 2564 ดำเนินการสอบพยานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชน รวมถึงตรวจสอบสถานที่ดำเนินโครงการแต่ละโครงการ และจุดติดตั้งที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ แล้ว โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสรุปข้อเท็จจริง
ในส่วนของโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีทั้งหมดนั้น มีการตรวจสอบระหว่างปีงบประมาณ 2556 - 2564 รวมวงเงิน 871,020,971 บาท โดยเป็นการประกวดราคาปกติ และการสอบราคา แบ่งเป็น ปี 2556 วงเงิน 64,760,000 บาท ปี 2557 วงเงิน 2,534,519 บาท ปี 2561 วงเงิน 27,622,585 บาท ปี 2562 วงเงิน 171,840,000 บาท ปี 2563 วงเงินรวม 215,768,864 บาท ปี 2564 วงเงินรวม 388,505,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี