วันที่ 6 ก.ย.65 เมื่อเวลา 19.30 น.พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยถึงกรณีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกาะบุโหลน อำเภอละงู จังหวัดสตูลว่าเมื่อเวลา 07.30 น.ได้ตรวจพบกลุ่มคนจำนวน 10 คน ลอยคออยู่ในทะเลบริเวณระหว่างเกาะบุโหลนไม้ไผ่ กับ เกาะเขาใหญ่ จังหวัดสตูล จึงได้ทำการช่วยเหลือโดยใช้เรือประมงพื้นบ้านนำตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาขึ้นฝั่งที่แหลมเต๊ะปัน ใกล้ท่าเรือปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อทำการควบคุมตัวและสอบสวน
ทั้งนี้ ผู้ประสบเหตุให้การเบื้องต้นว่า ได้เดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ และต้องการจะเดินทางไปยังประเทศที่ 3 โดยทั้งหมดเดินทางมากับเรือใหญ่จนเมื่อถึง บริเวณระหว่าง เกาะบุโลนดอกับเกาะเขาใหญ่ จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นช่วงกลางคืนได้มีคนบนเรือสั่งให้กระโดดลงจากเรือใหญ่ที่พามาและลอยคออยู่กลางทะเลโดยเกาะทุ่นโฟมจนกระทั่งมีเรือประมงพื้นบ้านของไทยมาพบและให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ทันทีที่ได้รับรายงาน ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.996 และเรือยนต์เร็ว ของหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศและรักษาฝั่งที่ 452 ออกลาดตระเวนค้นหา บริเวณดังกล่าวรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อค้นหากลุ่มคนที่อาจลอยคอลงเหลืออยู่ในทะเล รวมทั้งให้หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง ที่ 452 เตรียมพร้อมให้การสนับสนุนในการอำนวยความสะดวกที่แหลมเตะปัน ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล
ต่อมาเวลา 10.30 น.ได้รับแจ้งจากเครือข่ายเรือประมงจังหวัดสตูล ว่า ได้พบกลุ่มคน ประมาณ 30-40 คนอยู่บริเวณเกาะกล้วย ในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้สั่งการให้เรือ ต.996 ร่วมกับ ศรชล.จังหวัดสตูล (เรือตรวจประมงทะเล 329 และ เรือกรมทรัพยากรทางทะเล 202) เข้าไปตรวจสอบ พบ ผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาอีกจำนวน 41 คน แยกเป็นหญิง 8 คน ชาย 31 คน และเด็ก 2 คน อยู่ในสภาพอิดโรย จึงได้ทำการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยมอบอาหารและน้ำให้
จากนั้นจึงได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวน และต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. ได้รับแจ้งจากตำรวจน้ำกันตัง จังหวัดตรังว่า พบเรือประมง จำนวน 1 ลำ วิ่งเข้าร่องแม่น้ำกันตัง จึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่ามีคนไทยจำนวน 1 คน และชาวเมียนมาจำนวน 6 คน โดยให้การว่าได้บรรทุกคนมา จำนวน 60 คน และเกิดน้ำมันหมด จึงได้วิ่งเข้ามาที่ร่องแม่น้ำกันตัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นเรือลำที่ลำเลียงกลุ่มคนที่พบบริเวณระหว่างเกาะบุโหลนไม้ไผ่ กับ เกาะเขาใหญ่ และเกาะกล้วย ในพื้นที่จังหวัดสตูล ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ ต้องรอการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทั้ง 3 กลุ่มนี้ มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ อย่างไร
โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า กองทัพเรือได้ติดตามสถานการณ์ของผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล โดยเฉพาะพื้นที่ทะเลอันดามันอย่างต่อเนื่อง โดยประสานกับศูนย์อำนวยการ ปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) และเครือข่ายประมงในพื้นที่ รวมทั้งจัดเรือและอากาศยานลาดตระเวนเฝ้าตรวจ โดยเฉพาะบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เกาะหลีเป๊ะและเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเกาะแก่งและมีเรือประมงพาณิชย์ทำการประมงเป็นจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการเฝ้าระวังโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย กองทัพเรือ (ศอ.ยฐ.ทร.) และ ศูนย์ปฏิบัติการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดียทัพเรือภาคที่ 3 (ศปก.ยฐ.ทรภ.3) ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการจัดกำลังลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศ การเฝ้าตรวจพื้นที่ตามเกาะต่างๆ และการจัดเรือรับสถานการณ์เฝ้าระวังในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนทางทะเลไทย – มาเลเซีย โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง และคาดว่าเรือของกลุ่มผู้หลบหนีฯ จะเดินทางผ่านไปยังประเทศเป้าหมาย รวมทั้ง ประสาน ศรชล.ภาค 3 เพื่อแจ้งให้กลุ่มเรือประมงในพื้นที่ ได้ช่วยกันเฝ้าระวัง
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังคงยึดถือการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายทางทะเลตามขอบเขตของกฎหมายที่ได้ให้อำนาจทหารเรือในการจับกุมผู้กระทำผิดทางทะเล รวมทั้งให้การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมตามความเหมาะสมในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน - 003