ฝนถล่มกทม.ซํ้า

บางเขน-เทพรักษ์-รามอินทรา5จมอีก

‘ลาดกระบัง’ท่วมบ้าน600หลัง

อุตุฯเตือน52จว.รับมือฝนหนัก

อุตุฯเตือน 52 จังหวัดรับมือฝนตกหนักด้านศูนย์ฯ น้ำท่วม เผยถนน 20 เส้นทางน้ำท่วม เขตลาดกระบังยังอ่วมยังอ่วม ท่วมบ้านเรือนกว่า600หลัง บางเขนฝนตกซ้ำ ทำวงเวียนบางเขน ถนนเทพรักษ์ ถนนรามอินทรา ซอย 5 น้ำท่วม ส่วน จ.ลำปาง3อำเภอ ถูกท่วมรวม 37 หมู่บ้าน กรมชลฯ ระบายน้ำเขื่อนฯ เพิ่ม

เมื่อวันที่ 13กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24ชั่วโมงข้างหน้า ว่าร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยจนถึงวันที่ 14 กันยายน 2565 ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ70 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ70ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ70ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งรวมพื้นที่ทั้งหมด 52 จังหวัด

ด้านศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ รายงานสถานการณ์ฝนตกที่ กทม.ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดฝนตกปานกลางถึงหนัก โดยปริมาณฝนสูงสุดที่จุดวัดบึงมักกะสัน เขตราชเทวี 103มม.สำนักงานเขตพญาไท 86มม.ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมฯ เขตดินแดง 80มม.บ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 77.5มม.ประตูระบายน้ำคลองอรชร เขตปทุมวัน 69มม.คลองบัว เขตบางเขน 62.0มม.สถานีรัชดา-วิภาวดี เขตจตุจักร 61.5มม.ส่งผลให้มีน้ำท่วม 20 จุด ดังนี้ 1.หน้าหมอชิตใหม่ ถ.กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร 2.วังสวนผักกาด ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี 3.ซอยอินทามระ45 ถนนประชาสุข เขตดินแดง

4.หน้ากรมปศุสัตว์ ถนนพญาไท เขตราชเทวี 5.ป้อมตำรวจ-กำแพงเพชร 4 ถนนกำแพงเพชร3 เขตจตุจักร 6.แยกบรรทัดทอง ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี 7.กำแพงเพชร 2 ถนนกำแพงเพชร 3 ถนนกำแพงเพชร 4 เขตจตุจักร 8.หน้าร.ร.สันติราษฎร์ ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี 9.แยกรัชโยธิน-ธ.กรุงเทพ ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร 10.หอนาฬิกา-ตลาดห้วยขวาง ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง

11.ใต้ทางด่วน-แยกโบสถ์แม่พระ ถนนดินแดง เขตดินแดง 12.ประชาสงเคราะห์1-แยกองค์ พระ ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง 13.แยกมิตรสัมพันธ์-อโศก ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี 14.วงเวียนบางเขน-มรภ.พระนคร ถนนแจ้งวัฒนะ เขตบางเขน 15.มรภ.พระนคร -วงเวียนบางเขน ถนนแจ้งวัฒนะ เขตบางเขน 16.แยกองค์พระ-หอนาฬิกา ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง 17.แยกสะพานควาย ถนนประดิพัทธ์ เขตพญาไท 18.แยกบรรทัดทอง ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี 19.แยกศรีอุดมขาออก ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 เขตประเวศ และ 20.แยกศรีอุดมขาเข้า ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 เขตประเวศ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนลาดกระบัง ตั้งแต่ช่วงแยกลาดกระบังถึงถนนหลวงแพ่ง ยังคงมีน้ำท่วมขังทุกช่องจราจร บางช่วงระดับน้ำสูงกว่าขอบทางเท้า เช่น หน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง จุดตัดถนนลาดกระบังแยกสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้รถที่สัญจรผ่านได้รับความเสียหายหลายคัน ทางกองโรงงานช่างกล กทม.ได้ตั้งจุดซ่อมแซมรถ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน มีจักรยานยนต์เสียหายกว่า 20 คัน

ส่วนร้านอาหารริมถนนลาดกระบัง ซึ่งมีน้ำท่วมขังมานานกว่า 3 วัน แม้ว่าจะมีการสูบน้ำออกแต่น้ำยังทะลักท่วมกลับเข้ามา เนื่องจากคลองประเวศบุรีรมย์ ยังมีระดับน้ำสูง จึงยังระบายออกไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนที่หมู่บ้านเคหะนคร 2 ซอยลาดกระบัง 36 ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 600 หลังคาเรือน เป็นเวลา 6 วัน หรือเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว โดยน้ำท่วมตั้งแต่ต้นซอยถึงท้ายซอยสูงกว่าครึ่งเมตร เริ่มส่งกลิ่นเหม็น

ขณะที่การเดินทางเข้า-ออกเป็นไปอย่างลำบาก เนื่องจากบางจุดรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทางสำนักงานเขตได้จัดรถหกล้อ มาคอยรับส่งประชาชนเข้า-ออก โดยมีชาวบ้านบางส่วนนำรถยนต์ส่วนตัวไปขนกระสอบทรายจากสำนักงานเขตมาวางเสริม ป้องกันน้ำไหลเข้าบ้าน

ขณะเดียวกัน สำนักงานประชาสัมพันธ์ เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์น้ำอ้างอิงจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนและคาดการณ์ฝนตกในพื้นที่ ว่ามีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางปกคลุมพื้นที่กทม.โดยเขตที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ หลักสี่ บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว พญาไท ดินแดง ห้วยขวาง วังทองหลาง บางกะปิ วัฒนา คลองเตยและสวนหลวง โดยสำนักงานเขตบางเขน แจ้งความคืบหน้าภายหลังฝนตกในพื้นที่ โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง เนื่องจากมีน้ำท่วมขังวงเวียนบางเขน ถนนเทพรักษ์ และปากซอยรามอินทรา5

ทั้งนี้ ฝนที่ตกระดับปานกลาง ส่งผลให้น้ำท่วมขังวงเวียนบางเขน น้ำท่วมผิวจราจรบริเวณถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้าวงเวียนบางเขน เลี้ยวซ้ายไปสะพานใหม่ ระดับน้ำสูง 5เซนติเมตร ต่อเนื่องถนนรามอินทรา ข้ามวงเวียนบางเขน ระดับน้ำสูง 5-10เซนติเมตร และการจราจรโดยรอบวงเวียนบางเขน มีปริมาณรถสะสม จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง สำหรับถนนเทพรักษ์ ฝั่งห้างบิ๊กซีก่อนถึงสะพานข้ามคลองลำผักชี มีน้ำท่วมขังผิวจราจร 5เซนติเมตร และฝั่ง รพ. CGH มีน้ำท่วมขังผิวจราจร 5-10เซนติเมตร การจราจรติดขัดด้าน ปากซอยรามอินทรา5 ระดับน้ำสูง 5-10เซนติเมตร

ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ว่าหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย หลังจากฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยพบว่าหนักที่สุดที่ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร มีน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ล้นลำน้ำแม่ตาล เข้าท่วมพื้นที่หลายหมู่บ้าน ท่วมถนนเลี่ยงเมืองลำปาง เส้นทาง อ.ห้างฉัตร และ อ.เกาะคา ซึ่งมักถูกใช้เป็นทางลัดผ่านไปมาระหว่าง จ.ลำพูน เชียงใหม่ ส่วนบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 200 หลัง ก็คลี่คลายลงแล้วเช่นกัน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ลำปาง รายงานสถานการณ์ฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน 37 หมู่บ้าน 11 ตำบล กระจายใน 3 อำเภอโดยพื้นที่ อ.เมือง จ.ลำปาง มีบ้านเรือนและหมู่บ้านประสบภัย 26 หมู่บ้าน 5 ตำบล เกิดน้ำป่าหลากลงมาจากยอดเขาสูงเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ทำให้ลำห้วยต่างๆ รวมถึงลำน้ำแม่ตุ๋ย ไหลล้นท่วมพื้นที่หมู่บ้าน ซึ่งประสบภัยต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ที่ลุ่มถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร

สำหรับพื้นที่ประสบภัยครั้งนี้ประกอบด้วย อ.เมือง 26 หมู่บ้าน 5 ตำบล, อ.ห้างฉัตร 9 หมู่บ้าน 2 ตำบล, อ.เกาะคา 2 หมู่บ้าน 1 ตำบล รวม 37 หมู่บ้าน 11 ตำบล มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมกว่า 600 หลังคาเรือน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สำรวจและเตรียมการให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ดี ในช่วงสัปดาห์นี้ ในพื้นที่ จ.ลำปาง ยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องทั้ง 13 อำเภอ

อีกด้านหนึ่ง นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 12-17 กันยายน 2565 ทำให้มีน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นโดยจะปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนนี้ จะเริ่มระบายในเกณฑ์ 1,800-2,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 40-60เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 16-17 กันยายนนี้ บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ต.หัวเวียง อ.เสนา, ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการและกทม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด