ปภ.เร่งช่วย9จังหวัดพร่องน้ำ
รับมือพายุ‘โนรู’ถล่ม
คาดฝนซัดอีสานหนัก27-29ก.ย.
กอนช.เตือนท่วมฉับพลันถึง2ต.ค.
‘ชัชชาติ’จัดกระสอบทราย2แสนถุง
เสริมจุดเสี่ยงสกัดน้ำทะลักท่วมกรุง
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจังหวัด โดยปภ.รายงานมี 9 จังหวัดยังคงประสบน้ำท่วมขังซึ่งเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ขณะที่ อ.เมืองนครราชสีมา4 หมู่บ้านยังจม ผู้ว่าฯสั่งเร่งระบายน้ำก่อนพายุลูกใหม่มาถล่มซ้ำ เช่นเดียวกับ กทม. “ชัชชาติ” สั่งเตรียมพร้อมกระสอบทราย 2 แสนกระสอบอุดรอยรั่ว สกัดน้ำทะลักท่วมกรุง ย้ำทุกเขตต้องรู้จุดไหนเสี่ยงควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ “พิจิตร”เจอน้ำยมล้นตลิ่งท่วมโพธิ์ประทับช้าง ชาวบ้านปัดฝุ่นเรือออกมาใช้สัญจร เช่นเดียวกับ อ.ชานุมานเจอผลกระทบน้ำโขงขึ้นสูง
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ปภ.รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยังมีพื้นที่น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งท่วมขังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากวันที่ 22 – 24 กันยายน รวม 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ตาก อุบลราชธานี บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ปทุมธานี ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลง แต่พื้นที่ภาคกกลางบางจุดมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัย และระดมกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย แจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ระบายน้ำ4หมู่บ้านโคราชก่อนโนรูซ้ำ
ส่วนที่ถนนเทศบาล 15 หรือถนนประปา ต.ประทาย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดน้ำท่วมถนนตลาดสายสูงกว่า 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร จากฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืนทำให้ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน 90 หลังคาเรือน ประกอบด้วย บ้านกระโตน ม.3 บ้านไร่ริมบึง ม.3 บ้านใหม่สามัคคี ม.14 และบ้านเทพารักษ์ ม.11 เดือดร้อนสัญจรไปมาไม่ได้และน้ำทะลักเข้าท่วมบ้าน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พร้อมเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาต่อเนื่อง เพราะเป็นแอ่งกระทะ ที่ผ่านมาน้ำจะถูกระบายออกทางท่อระบายน้ำใต้ดินไปยังบึงกระโตน แต่ขณะนี้ปริมาณน้ำในบึงกระโตน เต็มความจุทางเทศบาลจำเป็นต้องปิดท่อระบายน้ำเนื่องจากเกรงว่าน้ำจากบึงกระโตนจะไหลย้อนกลับเข้ามาตามท่อระบายน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ทำให้น้ำบริเวณถนนไม่สามารถไหลระบายไปตามท่อระบายน้ำใต้ดินได้ จึงเกิดการท่วมขัง ได้สั่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพิ่มอีก 2 เครื่องเป็น 4 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากบ้านเรือนประชาชน ให้เสร็จภายใน 2 วัน ก่อนพายุโนรูจะเข้ามาระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน ถ้าไม่ทันน้ำจะท่วมสูงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีก
ฝนถล่มชานุมาน-น้ำโขงขึ้นต่อเนื่อง
ในพื้นที่อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางดึกวันที่ 23 กันยายนจนถึงช่วงเช้าวันนี้ วัดปริมาณน้ำฝนอยู่ที่ 150 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนหลายสาย โดยเฉพาะถนนสายหลัก (3024) หนองผือ – ชานุมาน – มุกดาหาร บริเวณสะพานห้วยยาง ทางเข้าแก่งคันสูง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอ.ชานุมาน ที่ต.โคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร สาเหตุเพราะน้ำในลำห้วยยางระบายไม่ทัน จึงไหลเอ่อท่วมถนนดังกล่าว รถเล็กสัญจรไปมาลำบาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญประสานอ.ชานุมาน และองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสาร อ.ชานุมาน ลงพื้นที่ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน
ส่วนสถานการณ์น้ำในลำน้ำโขง ด้านอ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำโขง เป็นอำเภอชายแดนตรงข้ามประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีมวลน้ำเหนือขนาดใหญ่มีสีแดงขุ่น เศษไม้ไหลมาตามน้ำ ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นอุปสรรค์ต่อเรือขนส่งข้ามฝากระหว่างไทย-ลาว เจ้าหน้าที่อ.ชานุมานออกประกาศเสียงตามสายแจ้งผู้ขับเรือรับจ้างข้ามฝั่งใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว ส่วนเรือประมงขนาดเล็กควรงดออกเรือจับปลา
กทม.เตรียมกระสอบทราย2แสนถุง
สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการรับมือกับน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนว่า ต้องพร่องน้ำเต็มที่ให้เหลือน้ำระดับต่ำที่สุดเพื่อเตรียมรับมือ และเตรียมกระสอบทรายไว้อีกประมาณ 2 แสนกระสอบ เพื่อกระจายให้ชุมชนที่เปราะบาง และสั่งการให้จัดลำดับเหตุการณ์ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เช่น ฝนตกเขตไหนให้สำนักการระบายน้ำส่งข้อมูลไปที่เขต และเขตต้องรู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ต้องเข้าไปดูแลชุมชนไหนอันดับแรก หรือวางแนวกระสอบทรายป้องกันเขตที่เสี่ยงน้ำท่วมไว้ก่อน เพราะถ้าป้องกันได้ ความเสียหายจะได้ไม่รุนแรงมาก ให้ถือบทเรียนที่ผ่านมามาวางแผนป้องกัน ส่วนการเยียวยาพื้นที่เขตลาดกระบังว่า เบื้องต้นให้ถุงยังชีพ แต่การเยียวยาที่เป็นตัวเงินต้องทำรายละเอียดความเสียหาย ส่งให้ปภ. ซึ่งผอ.เขตกำลังรวบรวมข้อมูลที่ต้องรอบคอบมีตัวเลขและหลักฐานที่ชัดเจน
น้ำยมล้นตลิ่งท่วมโพธิ์ประทับช้าง
ที่จ.พิจิตร ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำยม หนึ่งในแม่น้ำเขตลุ่มเจ้าพระยา ไหลผ่าน 4 อำเภอของจังหวัดคือ อ.สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล ที่ขณะนี้ระดับในแม่น้ำยมยังสูง ที่จุดวัดระดับน้ำ วาย 5 ที่อำเภอโพทะเล ระดับน้ำอยู่ที่ 7.40 เมตร ระดับความสูงตลิ่ง 8.10 เมตร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่เพียง 70 เซนติเมตร ปริมาณน้ำที่ไหล 249 ลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที จากปริมาณน้ำที่ท่วมสูงได้ทะลักท่วมถนนสายวังจิก - วังเทโพ ถนนสายหลักของประชาชน 4 หมู่บ้านของต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง ได้แก่ หมู่ที่ 1,3,8 และ หมู่ที่ 10 ถนน เข้าออก ถูกน้ำท่วมขังเป็นช่วง ระดับท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร ทำให้รถทุกชนิด ที่ใช้การเดินทางต้องขับรถลุยน้ำเข้าออก ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างนำเรือออกมาซ่อมแซม เพื่อใช้สัญจรช่วงน้ำท่วม รวมถึงจับสัตว์น้ำหารายได้ช่วงน้ำท่วมขัง ในระยะ 2-3 เดือน ที่น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร และทุ่งรับน้ำตำบลวังจิก
คนบางบาลหนีน้ำนอนริมถนนนับเดือน
หลังกรมชลประทานออกประกาศแจ้งเตือน เรื่องเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มปริมาณการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 2,200-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ระหว่างวันที่ 25-27 กันยายน ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.30-0.50 เมตร ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ต.บางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาต้องอพยพนำทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงมาตั้งเพิงพักริมถนนนานนับเดือนแล้ว เพราะน้ำท่วมบ้าน
น.ส.นิ่มนวล พ่วงสุข อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บางหัก อ.บางบาลเผยว่า พื้นที่หมู่ 8 ต.บางหัก เป็นจุดที่น้ำไหลท่วมหมู่บ้านและน้ำไหลแรง เมื่อถึงหน้าฝนน้ำจะท่วมทุกปีอยู่ แต่ปีนี้น้ำมาเร็วตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม จึงต้องอพยพกันออกมาเร็ว ทั้งนี้ กรมชลประทานแจ้งระบายน้ำเข้าทุ่งวันที่ 30 กันยายน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
กอนช.เตือนพื้นที่เสี่ยงท่วม-น้ำล้นตลิ่ง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศ ฉบับที่ 41/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากระบุ กอนช.ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำระหว่างวันที่ 27 กันยายน-2 ตุลาคม โดยเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และน้ำท่วมขังในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ที่จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และนราธิวาส นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำสาย แม่น้ำกก แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำเลย แม่น้ำชี ลำน้ำเชิญ ลำน้ำพรหม ลำน้ำพอง แม่น้ำมูล แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำตราด
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำ13แห่งทั่วปท.
กอนช.ยังเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด 13 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำแม่มอก และกิ่วคอหมา จ.ลำปาง อ่างเก็บน้ำทับเสลา จ.อุทัยธานี อ่างเก็บน้ำกระเสียว จ.สุพรรณบุรี อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง และมูลบน จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล จ.นครนายก อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี และอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี รวมทั้งอ่างฯขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ท้ายน้ำทั่วประเทศ
โซนร้อน“โนรู”ขึ้นฝั่งเวียดนาม27กย.
เวลา 17.00 น.วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนเรื่องพายุโนรู ฉบับที่ 2 ว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง “โนรู” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีศูนย์กลางอยู่ห่าง 600 กิโลเมตรทางตะวันออกของเกาะลูซอนประเทศฟิลิปปินส์ ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้ เคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงทะเลจีนใต้ตอนกลางวันที่ 25-26 กันยายน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางวันที่ 27-28 กันยายน ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีลมแรงวันที่ 27-29 กันยายน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 27–29 กันยายน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง