อุตุเตือน‘โนรู’แผลงฤทธิ์ทั่วไทย
ฝนถล่มหนักถึง30ก.ย.
อีสานอ่วม-เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขง
อุบล-อำนาจเจริญฝนตกทั้งคืน
ขอนแก่นทะลักท่วมสูงหลายจุด
ศรีสะเกษน้ำซัดคอสะพานขาด
ชัยนาท-อ่างทองอ่วมน้ำล้นตลิ่ง
กรมอุตุฯเตือนพายุโซนร้อน “โนรู” อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่น เข้าถล่มภาคอีสาน “อำนาจเจริญ-อุบลฯ”อ่วมฝนตกทั้งคืน ทั่วไทยฝนตกหนักหลายพื้นที่ พิษพายุโนรู! อุบลฯ สภาพอากาศปิดทำสายการบินดีเลย์ เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขง ฝนถล่มอำนาจเจริญทั้งคืน เตือนปชช.ท้าย 3 อ่างเก็บน้ำ รับน้ำท่วม เร่งขนของขึ้นที่สูง ผู้ว่าฯสั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วม 24 ชม.ด้านมท.1 เกาะติดสถานการณ์ สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง พร้อมรับมือ-ช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ขอนแก่นน้ำท่วมสูงหลายจุด.ศรีสะเกษ น้ำซัดคอสะพานพังก่อนปภ.ชี้ยังมีน้ำท่วม 17 จังหวัด
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 14 เรื่องพายุ ‘โนรู’ ว่าพายุไต้ฝุ่นโนรู บริเวณแขวงเซกอง ประเทศลาว ได้อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่ จ.อำนาจเจริญและอุบลราชธานี ในคืนวันเดียวกันนี้ และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น
อุตุฯเตือนทั่วไทยเกิดฝนตกหนัก
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง
อันดามัน-อ่าวไทยมีคลื่นลมแรง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2565
GISTDAชี้โนรูทำฝนถล่ม7จังหวัด
ขณะที่เพจสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDAโพสต์ภาพการเคลื่อนของพายุโนรูที่กำลังเข้าประเทศไทย โดยดาวเทียมฮิมาวาริ 8 ของญี่ปุ่น พบว่าพายุขึ้นฝั่งเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม แล้ว ก่อนมุ่งหน้าประเทศลาว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงและจะเข้าไทยช่วงกลางดึกวันเดียวกันนี้ สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษและถือเป็นปราการด่านแรก คือพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้มีฝนตกตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา คาดว่าฝนจะตกหนักมากขึ้น รวมถึง จ.ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ และพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะลุ่มน้ำชีและมูล
พิษพายุโนรูอุบลฯฝนหนักตลอดคืน
สำหรับอิทธิพลของพายุโนรู ได้ส่งผลกระทบให้ จ.อุบลราชธานี มีฝนตกและระดับแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฝนตกหนักตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะเขต อ.เมือง ตกตั้งแต่กลางดึก จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า จ.อุบลราชธานี จะมีฝนจะตกหนักทั้งจังหวัดและมีลมแรง จึงขอให้ประชาชนระวังอันตราย ซึ่งอาจเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน หากใกล้บริเวณแม่น้ำอาจจะต้องอพยพ ส่วนระดับปริมาณแม่น้ำมูล จุดวัด M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย น้ำล้นตลิ่ง 1 เมตร 73 เซนติเมตร
‘บิ๊กป๊อก’ยกเลิกภารกิจ-เกาะติดพายุ
ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมคณะได้ยกเลิกกำหนดการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พายุโนรูใน จ.อุบลราชธานี เนื่องจากสภาพอากาศปิด มีฝนตกหนัก โดยเดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก และมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทน
กำชับผวจ.พื้นที่เสี่ยงรับมือพายุโนรู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.พิษณุโลก พล.อ.อนุพงษ์พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมติดตามสถานการณ์พายุโนรู ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ ผวจ.ในเขตพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักที่ผ่านมา ว่าเกิดจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศ และพายุโนรู ที่กำลังจะเข้ามา สำหรับปริมาณแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี มวลน้ำยังไหลไม่ถึง จ.อุบลราชธานี สถานการณ์จึงน่าเป็นห่วง เพราะหากมีฝนตกเพิ่ม ก็จะมีปริมาณน้ำที่มาก จึงให้ ผวจ.ตั้งศูนย์ฯ ส่วนหน้า ติดตามสถานการณ์ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรับมือ
ผวจ.อุบลฯชี้น้ำโขงต่ำดันน้ำได้เร็ว
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี มีปริมาณน้ำ 3,400 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่โชคดีที่แม่น้ำโขง ยังมีปริมาณต่ำ สามารถรับน้ำจากแม่น้ำมูล และผลักดันน้ำได้เร็ว จึงต้องเร่งระบายน้ำและเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ นอกจากนี้ได้จัดทำแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมรับมือ โดยขณะนี้มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 44 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,100 คน ต้องอพยพมาอยู่ศูนย์พักพิง 40 ศูนย์ฯ
พิษพายุ’โนรู’อำนาจเจริญฝนทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุโนรู เริ่มเคลื่อนตัวพัดเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียง ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โดยด่านแรก คือ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ส่งผลให้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา( 27 ก.ค.65)เกิดฝนตกหนักสลับเบาตลอดทั้งคืน กระทั้งวันนี้( 28 ก.ย. 65) สายฝนสลับลมพัดแรงยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงเช้าวันนี้( 28 ก.ย.65) ทำให้ประชาชนเดินทางไปทำงาน ทำกิจวัตรประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องฝ่าสายฝนที่ตกลงมาตลอดเวลา ที่สำคัญช่วงเวลาเร่งด่วน หลายคนต้องขับรถจักรยานยนต์ สวมใส่เสื้อกันฝน หรือ ไม่ก็กางร่มไปส่งบุตร – หลานที่โรงเรียน ประกอบกับ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ปกคลุมด้วยเมฆฝนเต็มท้องฟ้า ทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็น ไม่ดี การขับขี่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และถือว่า โชคดี ที่ผ่านมา ไม่มีรายงานการเกิดอุบติเหตุแต่งอย่างใด
เตือนปชช.ท้าย 3อ่างรับมือน้ำท่วม
ส่วนที่เฝ้าระวังมากที่สุดคือ อ่างเก็บน้ำหลัก 4 แห่ง ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน,อ่างเก็บน้ำห้วยสีโท,อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์และอ่างเก็บน้ำร่องน้ำซับ เนื่องจากฝนตกหนัก มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้การกักเก็บน้ำทั้ง 4 อ่างเต็มความจุ
จึงได้ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ท้ายอ่างทั้ง 4 แห่ง ที่สำคัญ อ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน ,อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ และอ่างเก็บน้ำร่องน้ำซับ มีปริมาณน้ำความจุเกิน 100 %ต้องพร่องน้ำออกจากอ่างตลอดเวลา อาจส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายอ่าง ลำห้วยสาขาต่างๆและพื้นที่ใกล้เคียง อาจก่อให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทั้งสองฝั่งจึงขอประกาศแจ้งเตือน ราษฎรที่อยู่อาศัย มีบ้านพัก ใกล้ลำห้วยดังกล่าว ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม และขนสิ่งของขึ้นที่สูงไว้ก่อน และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศประจำวัน จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง
ผู้ว่าอำนาจเจริญสั่งตั้งศูนย์ฯรับมือ
ด้านนายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ ได้สั่งการและให้แนวทางปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และผลกระทบจากพายุโนรู ที่กำลังจะพัดผ่านประเทศไทยคาดว่าจะเข้าไทยบริเวณ จ.อำนาจเจริญ ในวันที่ 28–30 กันยายน 2565 โดยให้จัดตั้ง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ และทุกอำเภอ เพื่อรับแจ้งเหตุ และติดตามช่วยเหลือประชาชน รวมถึง ให้มีการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้กับประชาชน เพื่อให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมื่อมีเหตุฉุกเฉินแจ้งอำเภอได้ทันที รวมถึง การสร้างเครือข่ายแจ้งเหตุ ทุกหมู่บ้าน ตำบล อีกทั้ง ให้ทุกอำเภอ แจ้งประชาชน นำสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง น้ำท่วมไม่ถึง พร้อมยังมีคำสั่งให้ข้าราชการทุกคน อยู่ปฏิบัติงานในพื้นที่พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยได้เตรียมการจัดทำถุงยังชีพไว้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
ศรีสะเกษท่วมบ้านแล้วกว่า30หลัง
ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากหนองสิ อ.ขุนหาญ ทะลักเข้าท่วมตลาดสดขุนหาญ และบ้านเรือนประชาชนกว่า 30 หลัง ชาวบ้านต้องพากันขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง พร้อมทั้งนำรถยนต์อกจากบ้าน ไปจอดในพื้นที่ปลอดภัย ทั้งนี้ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ ร่วมกับนายเจริญชัย จิตรโชติ นายกเทศมนตรี ต.ขุนหาญ นำเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว
น้ำซัดคอสะพานท่าเรือพังเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่บริเวณสะพานท่าเรือ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษเส้นทางหลักในการเดินทางไปยัง อ.ยางชุมน้อย น้ำได้ซัดคอสะพานจนทรุดตัว ได้รับความเสียหาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งเข้าตรวจสอบและซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน จึงจะแล้วเสร็จ โดยตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ปิดกั้นการจราจรเป็นการชั่วคราวแล้ว
ขณะที่ นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ได้ให้เจ้าหน้าที่นำธงแดงมาติดตั้งกลางสะพานเพื่อเตือนให้ประชาชนที่อยู่ติดลำห้วยสำราญให้อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย โดยทางราชการได้มีการเตรียมจุดอพยพไว้รองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบไว้แล้ว
น้ำมูลเอ่อท่วม13หมู่บ้าน/นา1.4หมื่นไร่
นายสนทนา ชัญถาวร นายอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายอรรถพล สนสกุล ปลัดอาวุโส อำเภอแคนดง พร้อมด้วย นายชินพงษ์ เพชรพราว ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอแคนดง ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบและความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากน้ำมูลได้เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร ถนนในหมู่บ้าน บ่อเลี้ยงปลา คอกสัตว์เป็นวงกว้าง โดยจากข้อมูลรายงานพบว่าขณะนี้มีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว 13 หมู่บ้านใน 4 ตำบล มี ต.แคนดง ต.ดงพลอง ต.สระบัว และ ต.หัวฝาย ราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 1,400 ครัวเรือน นาข้าว พืชไร่ถูกน้ำท่วมคาดว่าจะเสียหายกว่า 14,000 ไร่ บ่อปลา 20 บ่อ ถนน 6 สาย
ขณะที่ทาง อบต.แคนดง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาแซง และชาวบ้านได้ช่วยกันอพยพเคลื่อนย้ายหมูของเกษตรกรบ้านนาแซง จำนวน 13 ตัวออกจากคอกขึ้นไปยังพื้นที่สูง หลังจากรอบบริเวณคอกหมูได้ถูกน้ำท่วมล้อมรอบ โดยการขนย้ายหมูก็เป็นไปอย่างทุลักทุเลต้องต้อนหมูเข้าในกรงเหล็กบรรทุกใส่เรือท้องแบนที่ได้รับการสนับสนุนจากทาง อบต.แคนดง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่เดือดร้อนในช่วงน้ำท่วม
เตรียมรับมือพายุโนรูถล่มซ้ำอีก
นายอรรถพล สนสกุล ปลัดอาวุโสอำเภอแคนดง กล่าวว่า พื้นที่อำเภอแคนดงถูกน้ำท่วมแล้ว 2 ระลอก รวม 13 หมู่บ้าน ใน 4 ตำบล ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบก็จะเป็นพื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าว ไร่อ้อย ที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นก็จะมีบ่อปลา และคอกสัตว์ ส่วนบ้านเรือนยังไม่ได้รับรายงานว่าถูกน้ำท่วม มีเพียงน้ำที่ท่วมถนนในหมู่บ้านทำให้การสัญจรลำบาก
เบื้องต้น ทางอำเภอก็ได้สำรวจและรายงานความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นไปยังทางจังหวัดแล้ว ส่วนพายุ “โนรู” ที่จะเข้าไทยในช่วง 2-3 วันนี้ ทางอำเภอก็ได้ขอความร่วมมือ อบต. และผู้นำหมู่บ้าน เฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับมือ 24 ชั่วโมง
พิษโนรูกระทบสายการบินดีเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อิทธิพลของพายุโนรู ได้ส่งผลกระทบทำให้สายการบินไทยเวียดเจ็ตต้องเลื่อนไฟร์ทบินหรือดีเลย์จากเดิมที่จะถึง จ.อุบลราชธานี ในเวลา 07.00 น.เลื่อนออกไปเป็นเวลา11.00 น.เนื่องจากสภาพอากาศปิด เครื่องไม่สามรถลงจอดได้ ทำให้มีผู้โดยสายสารตกค้างอยู่ที่สนามบินกว่า 140 คน
ฝนถล่มอ.มัญจาคีรีเกิดน้ำท่วมสูง
ที่ จ.ขอนแก่น ภายหลังเกิดฝนตกอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี ได้ส่งผลให้น้ำจากบึงกุดเค้า เอ่อล้นเข้าท่วมถนนมัญจาคีรี-พระยืน ช่วงหน้า ธกส.มัญจาคีรี ระดับน้ำสูงประมาณ 20-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และมีน้ำท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรและมาติดต่อราชการ โดยพื้นที่ อ.มัญจาคีรี มีน้ำท่วมแล้ว 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน 733 ครัวเรือน
ขณะเดียวกันได้มีการเปิดศูนย์ประสานงานผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้วที่หอประชุม อ.มัญจาคีรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุโนรู
ชาวชัยนาทผวาน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง
ที่ จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นอัตรา 2,100ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อเตรียมรับน้ำหลากจากอิทธิพลของพายุโนรู ทำให้ระดับน้ำใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้น 32 เซนติเมตร ชาวบ้านที่อยู่ในลุ่มนอกคันกั้นน้ำ ซึ่งถูกน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้ว ต้องถูกน้ำท่วมสูงขึ้น โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือฝนที่อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นอีก ส่วนชาวบ้านได้เก็บข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว แม้บางจุดมีการทำพนังกั้นน้ำไว้ก็ตาม บางคนได้เก็บของเตรียมหนีน้ำขึ้นไปอาศัยริมถนนชัยนาท-สิงห์บุรี หากน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
อ่างทองอ่วมเจ้าพระยาล้นตลิ่งแล้ว
ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำเจ้าพระยา ได้ล้นตลิ่งจนเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 5 ต.บางปลากด อ.ป่าโมก โดยเฉพาะที่ซอยวัดแจ้ง เส้นทางถนนในหมู่บ้าน ซึ่งระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 200 เมตร บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ซึ่งไม่มีพนังกั้นน้ำ มีแต่คันดินติดถนน ส่วนที่ช่องทางหัวท้ายมีการวางกระสอบทรายกั้น ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ต่างคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยทางเทศบาล ต.ป่าโมก ได้นำกระสอบทรายมาเสริมเพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่แล้ว
พ่อเมืองโคราชสั่งทุกภาคส่วนรับมือ
ที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัยผวจ.นครราชสีมา แจ้งผ่านโทรสารในราชการกรณีการติดตามพายุโนรู ที่จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.เสิงสางอ.ปักธงชัยอ.ครบุรีอ.วังน้ำเขียวอ.โชคชัยอ.ปากช่องอ.หนองบุญมากอ.สูงเนินอ.สีคิ้ว และ อ.เมือง รวมทั้งพื้นที่เฝ้าระวังน้ำเพิ่มขึ้นฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ ลุ่มน้ำชี อ.บ้านเหลื่อม อ.แก้งสนามนาง เเละลุ่มน้ำมูล อ.พิมายอ.ชุมพวงอ.ลำทะเมนชัยอ.เมืองยาง ให้เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมความพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงที
ชลประทานโคราชแจ้งเฝ้าระวังน้ำ
ด้าน นายขวัญชัย อุตตะเวช ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัยออกหนังสือด่วนแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ลุ่มน้ำลำพระเพลิงอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการปรับแผนการระบายน้ำ เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างลำพระเพลิง โดยเขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำ 122 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 78.73 ของความจุ 155 ล้าน ลบ.ม.
ปภ.เผย17จังหวัดน้ำยังท่วมเร่งระบาย
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 22–28 กันยายน 2565 เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 20 จังหวัด รวม 72 อำเภอ 155 ตำบล 433 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3,335 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 12 จังหวัด รวม 35 อำเภอ 84 ตำบล 252 หมู่บ้าน
สำหรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง จากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก และปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ระหว่างวันที่ 13 สิงหาคม-28 กันยายน 2565 ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด รวม 18 อำเภอ 136 ตำบล 709 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี