29 กันยายน 2565 จากกรณีที่ นางสาวรัชดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม หลังร้องทุกข์ตำรวจ สภ.นาแก พร้อมด้วยหน่วยงานเกี่ยวข้อง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.ฯ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 1 (สปพ.1) โดยกล่าวหาว่า มีครูประจำชั้นนักเรียนประถมศึกษา 1 โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในอ.นาแก ทำร้ายร่างกายหลานสาว อายุ 7 ขวบ โดยน.ส.รัชดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) มีศักดิ์เป็นยายของเด็กอ้างว่าครูประจำชั้น ใช้รองเท้าตบที่ใบหน้าจนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลัง เหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 -20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
ต่อมาน.ส.รัชดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.นาแก และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดตามกฎหมายกับครูคนดังกล่าว พร้อมอ้างว่าไม่มีความคืบหน้า จึงขอร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลจากพนักงานสอบสวน สภ.นาแก พบว่า น.ส.รัชดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) ได้มาร้องทุกข์กล่าวหาครูประจำชั้นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ไม่มีเอกสานหลักฐานยืนยันว่าถูกทำร้ายร่างกาย จึงยังไม่สามารถดำเนินการแจ้งข้อหาเอาผิดตามกฎหมายใครได้ ต้องรอการสอบสวนทั้งสองฝ่าย และยังไม่มีข้อสรุป
น.ส.รัชดาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ที่อ้างเป็นผู้เสียหาย ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเพิ่งย้ายหลานกลางคันจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.นาแก เพราะมีปัญหาเรื่องการดูแลของครู ก่อนที่จะมาเรียนโรงเรียนดังกล่าวในวันที่ 19-20 กันยายน 2565 และเพิ่งไปเรียนได้แค่ 2 วันก็เกิดเรื่อง โดยหลานกลับบ้านมาฟ้องว่าถูกครูประจำชั้นทำร้าย เหตุจากไม่พอใจที่คัดไทยลายมือไม่สวย จึงใช้รองเท้าตบที่ใบหน้าจนฟันหลุด 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีที่หลังอีก 2-3 ครั้ง การกระทำดังกล่าวทำให้ตนไม่พอใจ จึงพาหลานสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 เพื่อนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.นาแก เพื่อดำเนินคดีกับครูประจำชั้น โดยต้องการให้โรงเรียนมาชดเชยเยียวยาเป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาผิดครูประจำชั้นคนดังกล่าว แต่สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงไม่คืบหน้าจึงมาร้องเรียนผ่านสื่อ
ขณะที่ทางด้าน ดร.หงษา วงค์จำปา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริงตั้งแต่วันเกิดเหตุ หลังทางคุณยายอ้างว่าหลานสาว ถูกครูประจำชั้นทำร้าย ทั้งที่เพิ่งย้ายมาเรียนกลางคันได้เพียง 2 วันเท่านั้น คือวันที่ 19-20 กันยายน 2565 ภายหลังมาร้องเรียนกับทางโรงเรียนว่า หลานสาวถูกทำร้าย โดยกล่าวหาครูใช้รองเท้าตบจนฟันร่วง 1 ซี่ และใช้ไม้เรียวตีซ้ำ แต่จากการสอบถามครูที่ถูกกกล่าวหา ยืนยันว่า สาเหตุที่ฟันหลุดเพราะเป็นฟันน้ำนมที่หลุดเองตามธรรมชาติ และเด็กนักเรียนยังนำมาให้ครูดู จึงแนะนำให้ทิ้งเพราะเป็นฟันน้ำนม
นอกจากนี้ได้ตรวจสอบแล้ว เด็กไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย แต่ไม่ทราบเหตุผลว่ายายออกมาร้องเรียน กล่าวหาว่าหลานถูกครูประจำชั้นทำร้ายเพราะเหตุใด ยืนยันไม่ได้ปกป้องลูกน้อง หากผิดจริงพร้อมดำเนินการทางวินัย และพร้อมจะให้เอาผิดทางกฎหมาย แต่เมื่อมีการสอบสวนแล้วไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน เป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน
“ผมเข้าใจว่ายายรักหลานมาก แต่ต้องว่ากันด้วยความจริง เพราะสิ่งที่ทำไป ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสีย วอนอยากให้ยายทบทวน มาหารือพูดกันด้วยเหตุผล เพราะหากไม่ใช่ความจริงจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียน ครู อาจารย์ รวมถึงตัวนักเรียนเองด้วย โดยเรื่องนี้ผมยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ครูประจำชั้นทำงานมา 3 ปี ไม่เคยมีประวัติทำร้ายนักเรียน และนักเรียนทุกคนรัก ทำงานเก่งใส่ใจลูกศิษย์ หากยายไม่มีเหตุผลหรือไม่พูดความจริง ผมจำเป็นต้องเอาผิดคืน เพราะทำให้โรงเรียนเกิดความเสียหาย และฝากสังคมอย่าฟังความข้างเดียว ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน” ผอ.โรงเรียนกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี