วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘โนรู’ถล่มทัวไทย  รับมือจมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก  64จังหวัดเฝ้าระวังฝนตกหนัก

‘โนรู’ถล่มทัวไทย รับมือจมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก 64จังหวัดเฝ้าระวังฝนตกหนัก

วันศุกร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : โนรู น้ำป่าไหลหลาก
  •  

‘โนรู’ถล่มทัวไทย

รับมือจมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก

64จังหวัดเฝ้าระวังฝนตกหนัก

ศรีสะเกษต้นไม้ทับรถตาย1เจ็บ2

โคราชปักธงแดงลำตะคองจ่อล้น

‘อุบลฯ’น้ำมูลทะลักท่วม15อำเภอ

ชัชชาติเร่งลดระดับน้ำคลองเปรม

อุตุฯเตือนพายุโนรู ทำฝนตกหนัก 64 จังหวัดทั่วไทยถึง 30 กันยายนนี้ ด้าน ปภ.ชี้ 4 จังหวัดอีสาน เกิดน้ำท่วม-วาตภัยจากพายุโนรู ส่วน กอนช.เฝ้าระวังน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง อุบลฯ ต้นไม้ล้ม น้ำท่วม ศรีสะเกษ ฝนตกหนัก ต้นไม้ใหญ่โค่นทับรถดับ 1 เจ็บ 2 โคราชถนนหลายสายอัมพาต สุโขทัยนาข้าวจม1.5 หมื่นไร่

เมื่อวันที่ 29 กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ “พายุโนรู” ฉบับที่ 23 ว่าพายุดีเปรสชั่นโนรู มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอ.เมือง จ.ชัยภูมิ


โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กม./ชม.กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม.คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในระยะต่อไป ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

อุตุฯเตือนทั่วไทยระวังฝนตกหนัก

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง

ทะเลอันดามัน-อ่าวไทยคลื่นแรง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2565

ปภ.ชี้‘โนรู’ทำ4จังหวัดอีสานอ่วม

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ผลกระทบพายุโนรู ซึ่งเคลื่อนเข้าประเทศไทยบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้ช่วงวันที่ 28-29กันยายน เกิดสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลราชธานี รวม 5 อำเภอ 5ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2ราย (จ.ศรีสะเกษ สาเหตุจากลมพัดต้นไม้ล้มทับรถยนต์)

ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่

ทั้งนี้ ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ แยกเป็น 1.อำนาจเจริญ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองและ อ.ลืออำนาจ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน 2.ศรีสะเกษ ที่ ต.เมืองหลวง อ.ห้วยทับทัน ส่งผลให้ต้นไม้ล้มทับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 2 ราย 3.ยโสธร ในพื้นที่ ต.หนองหิน อ.เมืองทำให้ถนนเสียหายไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และ 4.อุบลราชธานี ที่ อ.เมืองสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อการเดินอากาศ ปริมาณน้ำที่ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.สิรินธร วัดได้230 มิลลิเมตร และที่ ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงค์วัดได้ 164.1มิลลิเมตร

กอนช.เฝ้าระวังน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น

วันเดียวกัน กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 43/2565 เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคาดการณ์ว่าจะมีน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ในเกณฑ์ 2,500-2,800ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับแม่น้ำสะแกกรัง และลำน้ำสาขา ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 2,300-2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม 2565 โดยจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 30-60 เซนติเมตร บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท / อ.อินทร์บุรี อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี / อ.ป่าโมก อ.ไชโย คลองโผงเผง จ.อ่างทอง / คลองบางบาล อ.เสนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา /จ.ปทุมธานี / จ.นนทบุรี / กทม.และ จ.สมุทรปราการ จึงขอให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,300 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ทำให้ระดับที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้น ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ขยายวงกว้างมากขึ้น ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องเก็บของขึ้นที่สูง และเร่งขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ ไปฝากไว้ตามบ้านเพื่อนและบ้านญาติที่อยู่ในพื้นที่สูง รวมถึงนำรถยนต์ รถการเกษตร และอุปกรณ์ทำกิน หนีน้ำไปไว้บนถนนคลองมหาราช

ผู้สูงอายุต้องจ้างแรงงานขนของ

ขณะที่นางวาว ปุญญวัฒนะ อายุ 78 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพักที่ถูกน้ำท่วมเพียงลำพัง ต้องว่าจ้างคนในหมู่บ้านมาช่วยขนย้ายข้าวของหนีน้ำ เนื่องจากไม่มีเรี่ยวแรงในการขนย้าย โดยน้ำก็ขึ้นเร็วจนแทบขนของไม่ทัน ส่วนของชิ้นใหญ่ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง ต้องเทินขึ้นไว้ให้สูงพ้นน้ำ ซึ่งน้ำท่วมปีนี้มากกว่าปีก่อน สิ่งของบางอย่างที่เก็บไม่ทันก็ต้องปล่อยให้จมน้ำเสียหายไป

อุบลฯต้นไม้ล้ม-น้ำเข้าท่วมถนน

ที่ จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่พายุโนรู เคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ จ.อุบลราชธานี ช่วงคืนที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัด บางพื้นที่มีลมพัดแรง กระแสไฟฟ้าขัดข้องหลายจุด เนื่องจากต้นไม้หักโค่นทับสายไฟถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำไม่ทันโดยเฉพาะถนนวาริน-กันทรลักษ์หน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาวารินชำราบ ปรากฏว่ามีน้ำไหลท่วมถนนสูง 30-40เซนติเมตร ทำให้ผู้ใช้รถสัญจรต้องขับรถชิดกับช่องทางใกล้เกาะกลางถนน ส่วนรถเล็ก เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางเพราะเกรงจะทำให้เกิดความเสียหาย

สำหรับสถานีวัดน้ำทุกอำเภอมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่า 100 มิลลิเมตร น้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีสูงกว่าตลิ่ง ทางเจ้าหน้าที่ชลประทานได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมที่สะพานแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร

พายุซัดต้นไม้ล้มในหลายเส้นทาง

ขณะเดียวกันพายุฝนได้ซัดเอาต้นไม้ล้มทับถนนหลายเส้นทาง ทางกู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัย โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงพื้นที่บ้านหาดสวนยา ไปยังศูนย์พักพิง นอกจากนี้ต้องเร่งขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์พักพิงเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากจุดพักพิงเดิมถูกน้ำเอ่อท่วม ในพื้นที่ชุมชนเกตุแก้ว เทศบาลเมืองวารินชำราบ

ส่วนระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชิปไตย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อยู่ที่ 114.20 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงกว่าตลิ่ง ในฝั่ง อ.วารินชำราบ 2.20 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดการณ์ว่า วันที่ 4 ตุลาคมนี้ น้ำจะสูงกว่าตลิ่ง ที่ฝั่ง อ.วารินชำราบ ประมาณ 2.72 เมตร

คาดการณ์แม่น้ำมูลสูงขึ้น1-2เมตร

อย่างไรก็ดี ทางจังหวัดอุบลราชธานี คาดการณ์ว่าภายใน 4-5วันจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำมูล จะสูงขึ้นอีกประมาณ 1–2 เมตร จึงขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดพื้นที่ในการตั้งศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบภัย และขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงรีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยจะมีกำลังพลจากทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้การช่วยเหลือในการขนย้าย

อุบลฯได้รับกระทบแล้ว15อำเภอ

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยใน จ.อุบลราชธานี พบว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อลันตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร รวม15อำเภอ 38 เทศบาล/ตำบล 502 ชุมชน/หมู่บ้าน แยกเป็นด้านการดำรงชีพ ได้รับผลกระทบที่ อ.เมืองอ.วารินชำราบ อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.สว่างวีระวงศ์12 เทศบาล/ตำบล 51 ชุมชน/หมู่บ้าน 3,184 ครัวเรือน 10,477คน อพยพ 46 ชุมชน 1,518 ครัวเรือน แยกเป็น ศูนย์พักพิงชั่วคราว 43 จุด1,199 ครัวเรือน 4,253คน พักบ้านญาติ 165ครัวเรือน 470 คน และอพยพขึ้นที่สูง 154ครัวเรือน 420 คน ด้านการเกษตร ได้รับผลกระทบ 15 อำเภอ 69 ตำบล 458ชุมชน/หมู่บ้าน 18,005ครัวเรือนพื้นที่การเกษตรเสียหาย 109,899 ไร่ พื้นที่ประมงได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำยืน อ.น้ำขุ่น และ อ.ม่วงสามสิบ 698 ครัวเรือน คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 52,125ไร่

ศรีสะเกษถูกพายุโนรูถล่มดับ1เจ็บ2

ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พายุโนรู ได้ทำให้เกิดฝนตกตลอดวัน วัดปริมาณน้ำฝนได้ 99.2 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหลายจุด มีต้นไม้หักโค่นขวางถนน โดยที่ถนนห้วยทับทัน-ปรางค์กู่ พบรถกระบะสีขาว ถูกต้นไม้ใหญ่โค่นทับและขวางถนน จนรถคันอื่นไม่สามารถผ่านไปมาได้ ภายในรถพบศพนายบัวสอน อายุ 51 ปี ผู้โดยสารนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ทางกู้ภัยต้องนำเครื่องตัดถ่างมางัดซากรถเพื่อนำร่างออกมา นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คือนายประภาพงษ์ อายุ 38ปีและนายสมหมาย อายุ 58ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลห้วยทับทันไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนที่ตัวเมืองศรีสะเกษ น้ำจากลำห้วยสำราญเอ่อล้นท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนทั้งหมด 10 ชุมชน จนต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูง ด้านสถานีขนส่งผู้โดยสาร บขส.กันทรลักษ์ น้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ ทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23ได้จัดกำลังเข้าช่วยเหลือ นำกระสอบทรายมาเสริมแนวกั้นน้ำ เพื่อบรรเทาไม่ให้น้ำเข้าไปยังสำนักงานบริษัทขนส่ง ซึ่งปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

โคราชฤทธิ์‘โนรู’ทำน้ำท่วมหลายจุด

ด้าน จ.นคราชสีมา จากอิทธิพลของพายุโนรู ได้ส่งผลให้มีฝนตกในพื้นที่ต่อเนื่องข้ามวัน จนเกิดน้ำท่วมบนถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เช่น ถนนราชดำเนิน ระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร ตั้งแต่หน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จนถึงหน้าจวน ผวจ.นครราชสีมา รถขนาดเล็กและจักรยายนต์ผ่านไปมาอย่างลำบาก มีจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำจนรถดับกว่า 10 คันทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมาได้เร่งสูบระบายน้ำท่วมขังผิวถนนส่วนเทศบาลนครนครราชสีมาได้ช่วยกันนำเศษขยะและวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำออก

ขณะเดียวกัน ที่สามแยกจักราช เทศบาล ต.หัวทะเล น้ำท่วมถนนทั้งขาเข้าและขาออกระดับน้ำ 40 เซนติเมตร และตามตรอกซอกซอยมีน้ำท่วมขังเกือบทั้งหมด บางจุดที่เป็นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมสูงกว่า 50เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือสัญจร มีชาวบ้านเดือดร้อนนับร้อยหลังคาเรือน

ถนนมิตรภาพ-เทศบาลโคราชรถติด

นอกจากนี้บริเวณถนนมิตรภาพขาออก ช่วงตลาดเซฟวันช่องคู่ขนาน และถนนทางเข้าชุมชนการเคหะ มีน้ำท่วมสูง 40-50เซนติเมตร การจราจรติดขัด ขณะที่ตัวเมืองเขตเทศบาลนครนครราชสีมาการจราจรก็ติดขัดอย่างหนัก ทางตำรวจจราจรต้องทำงานอย่างหนักท่ามกลางฝนที่กระหน่ำอยู่ตลอดเวลา

ปักธงแดงเตือนเฝ้าระวังลำตะคอง

ทั้งนี้ สถานการณ์ระดับน้ำในลำน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เพิ่มสูงจนทางเทศบาลนครนครราชสีมาได้ปักธงแดง 1 จุด สีเหลือง 6 จุด แจ้งเตือนประชาชนตลอดริมสองฝั่งลำตะคองให้เฝ้าระวังน้ำท่วม ประกอบด้วย สะพานมิตรภาพ ซอย 4 ธงแดง ส่วนธงเหลือง มีสะพานหมู่บ้าน VIP, สะพาน รพ.มหาราชนครราชสีมา, ชุมชนทุ่งสว่าง-ศาลาลอย, สะพานถนนสุรนารายณ์, ชุมชนเกาะลอย-สำโรงจันทร์ และชุมชนไนท์บ้านเกาะ พร้อมกับให้ชาวบ้านเก็บข้าวของขึ้นที่สูง

สุโขทัยพบนาข้าวจมน้ำ1.5หมื่นไร่

ที่ จ.สุโขทัย ภายหลังมวลน้ำจากอ่างแม่ท่าแพ อ่างแม่มอก และแม่น้ำยมฝั่งขวา ได้ไหลสู่พื้นที่หมู่ 4 และหมู่ 6 ต.หนองกลับ อ.สวรรคโลก ทำให้เกษตรกรต่างต้องเร่งเกี่ยวข้าวในนาหนีน้ำท่วมก่อนจะได้รับความเสียหาย โดยน้ำได้เข้าท่วมนาข้าวรวมแล้วกว่า 15,000 ไร่

น.ส.อ่อนนุช บานแย้ม อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หนองกลับ ระบุว่า มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมนาข้าวที่หมู่ 4 และหมู่ 6 รวมทั้งหมดประมาณ 15,000 ไร่ แต่ที่เกี่ยวหนีน้ำไปแล้วรวม12,000 ไร่ ยังเหลืออีก 3,000 ไร่ ที่ยังเกี่ยวไม่ได้เพราะนาข้าวจมอยู่ในน้ำลึกกว่า 1 เมตร รถเกี่ยวเข้าไม่ถึง ทำให้สุ่มเสี่ยงที่จะเสียหายทั้งหมด ส่วนที่เกี่ยวหนีน้ำมาได้ 1 เกวียนก็จะขายได้ราคาประมาณ 7,500 บาท 6,000 บาท หรือ 4,000 บาท แล้วแต่สภาพข้าว ซึ่งบางส่วนต้องยอมขาดทุนเพราะดีกว่าปล่อยให้จมน้ำเสียหายทั้งหมด

ผู้ว่าฯกทม.จี้ลดระดับน้ำคลองเปรมฯ

อีกด้านหนึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่บริเวณคลองเปรมประชากร ตัดกับคลองบางเขน ที่วัดเทวสุนทร ก่อนถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า คลองเปรมฯ ระบายน้ำจากด้านเหนือ คือดอนเมือง หลักสี่ ลงไปด้านล่าง ขณะนี้คลองเปรมฯ มีน้ำเยอะจากฝนที่ตกช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเพื่อไหลไปคลองบางซื่อ หากตัดน้ำมายังคลองบางเขนได้ จะทำให้ระดับน้ำในคลองเปรมฯ ลดเร็วขึ้น ไหลออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

คลองบางซื่อติดตั้งไม้บังคับน้ำเข้า

ขณะที่ นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 30 นิ้ว 2 ตัว เพื่อเอาน้ำจากคลองเปรมฯ และคลองบางเขนไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยจากจุดนี้ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพียง 6 กิโลเมตร โดยเครื่องสูบที่ใช้ในจุดนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้เข้ามาช่วยติดตั้ง เพราะตรงนี้เป็นชุมชนเทวสุนทร น้ำไหลได้ดี สามารถดันออกไปคลองบางเขน หลักการคือเอาน้ำออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด ซึ่งเวลานี้น้ำเหนือปล่อยมาเยอะ ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะยังมีฝนตก เราก็จะดูเรื่องคลองเป็นหลัก เร่งระบาย พร่องน้ำให้เต็มที่ อัตราการเอาน้ำออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา น่าจะทำได้มากขึ้น ยกเว้นน้ำทุ่งไหลเข้ามาเยอะย่านรังสิต คาดว่าทาง จ.ปทุมธานี ก็ยังหนัก ส่วน กทม.จะลุยเต็มที่ เช้านี้เขตสายไหมมีฝนตกเยอะ ปริมาณฝน 70 มิลลิเมตร ลาดกระบังราว 50 มิลลิเมตร กทม.ฝั่งตะวันออกน้ำทุ่งเข้ามามาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน!! ‘นพดล’ขอทุกฝ่ายพิจารณาปม'ทักษิณ ชั้น 14'ตามข้อเท็จจริง-กม.

ต้อนรับสมาชิกใหม่! 'ตู่ ปิยวดี'คลอดลูกสาวคนแรกแล้ว

‘นิพนธ์’ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ชี้บทบาทท้องถิ่นคือรากฐานพัฒนาประเทศ

แม่ทัพภาค4วิเคราะห์ความรุนแรง'ไฟใต้'ระลอกล่าสุด ผู้ก่อเหตุเลือกเป้าหมายอ่อนแอ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved