วันที่ 19 ตุลาคม 2565 เวลา 11.30 น. นายอดิเรก อุ่นโอสถ นายอำเภอลาดบัวหลวง จ. พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้นายภูวริน บุญภูพันธ์ตันติ ปลัดอาวุโส พร้อมด้วย นายอานนท์ ไชยชาติ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง กองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอลาดบัวหลวงที่ 11 ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลาดบัวหลวง กรณีนายบุญยืน ตีอินทอง อายุ 37 ปี มีอาการคุ้มคลั่งคล้ายคนเมายา ใช้มีดไล่ฟันและใช้ปืนยิงตะปูยิงใส่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ทำให้ประชาชนหวาดกลัว เกรงจะได้รับอันตราย อีกทั้งชายคนดังกล่าวยังมีหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเลขที่ 169/2565 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ข้อหาบุกรุกเคหสถาน ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ (มีด)จึงบูรณาการร่วมกับ ที่เกิดเหตุบริเวณปากคลอง1 หมู่3 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ. พระนครศรีอยุธยา โดยบูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดบัวหลวง นำโดย พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก. พ.ต.ท.วสัน คงนิล รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง สว.สส.พร้อมสนธิกำลังหน่วยปฎิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบ

นายภูวริน บุญภูพันธ์ตันติ ปลัดอาวุโสอำเภอลาดบัวหลวง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ต.ค.เวลาประมาณ 21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลาดบัวหลวง ได้เข้าตรวจสอบหลังจากมีชาวบ้านแจ้งว่านายบุญยืน มีอาการคลุ้มคลั่งใช้หนังสติ๊กและปืนยิงตะปูยิงใส่ชาวบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงปรากฎว่านายบุญยืนได้ใช้มีดไล่ฟันเจ้าหน้าที่แล้ววิ่งหลบเข้าไปในห้องนอน จากนั้นได้ใช้ปืนตะปูยิงใส่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จึงถอนกำลัง

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอลาดบัวหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลาดบัวหลวง หน่วยปฎิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 20 นาย นำหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าจับกุม เมื่อไปถึงบ้านพัก นายบุญยืนได้นอนอยู่ในห้องนอน เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้นายบุญยืนออกมามอบตัว โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที นายบุญยืนจึงยอมออกมาจากห้องนอนแต่โดยดี จากการตรวจค้นภายในห้องนอนพบมีดปลายแหลมความยาวประมาณ ปืนยิงตะปู 1 ตัว เครื่องปั๊มลม 1 เครื่อง เคียว 1 ด้าม หนังสะติ๊ก 1 อัน จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจับคดีบุกรุกเคหสถาน เมื่อปี 62 ถูกจำคุก 1ปี 1 เดือน พ้นโทษเมื่อปี 63 จากการสอบสวนนายบุญยืน ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป