ตามรวบแก๊งค้ายาเสพติดปล้นชิงตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 คนจากที่ถูกออกหมายจับ 5 คน ตามยึดรถคนร้ายได้ 2 คัน และยังพบรถเก๋งปลัดที่ถูกชิงไปถูกน้ำไปจมในอ่างเก็บน้ำ และรถเก๋งของคนร้ายอีก 1 คัน เผยมีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 คน
วันที่ 21 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้าเกิดแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดขณะปลัด และอส.รวม 6 นายซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจ.สงขลา พาไปขยายผลล่อซื้อ บริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อช่วงเกือบ 2 ทุ่มคืนวันที่ 18 ตุลาคม ได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง 1 คันโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้าของกลาง 10 มัด จำนวน 2 หมื่นเม็ด
และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 และชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องได้แล้ว 4 คน พร้อมตามยึดของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว 2 คัน เป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขข 6621 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งนำไปฝากไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา อีกคันเป็นรถกระบะซึ่งเป็นรถรั้วอีก 1 คัน โดยตามไปยึดได้ในพื้นที่บ้านท่าแซ อ.บางกล่ำ
โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ นายเสริมศักดิ์ อายุ 47 ปี ถูกจับกุมได้ขณะหนีไปกบดานในพื้นที่เขตรอยต่อ จ.พัทลุง กับ จ.ตรัง และยังให้การว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋ที่ชิงมาขับไปทิ้งลงในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปชี้จุดที่นำรถไปทิ้งไว้ในอ่างและประสานนักประดาน้ำมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ลงไปงมหาจนพบซึ่งจมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 7 เมตรและลากขึ้นมาได้สำเร็จ
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้มีไม่ถึง 10 คนไม่ใช่ 20 คนตามที่ ปลัด และอส.ให้การ และในวันนี้ได้ออกหมายจับแล้ว 5 คนและจับกุมได้แล้วบางส่วนและเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.รัตภูมิ และจากการสืบสวนไม่มีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและคดีนี้น่าจะจบได้ภายใน1-2 วันนี้ และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทางตำรวจ สภ.รัตภูมิ ได้ควบคุมตัว นายธนกร อายุ 35 ปี หรือโด่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่ถูกปลัด และอส.จับกุมและพาไปขยายผลในช่วงเกิดเหตุ ไปฝากขังที่ศาล จ.สงขลา โดยระหว่างที่นำตัวขึ้นรถฝากขังปิดปากเงียบไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 5 คนถูกแจ้ง 7 ข้อหา คือปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ, เป็นอั้งยี่ , ช่องใจร, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใด้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปีนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณืและโดยไม่มีเหตุอันสมควร,ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแห่งการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
อ่านรายละเอียด : จ่อออกหมายจับ! คดีปล้นยาบ้า-ปืนชุดอส. ผู้ว่าฯเผยฝ่ายปกครองชุดนี้ตั้งขึ้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกลุ่มคนร้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี