สถาบันปิดทองหลังพระฯนำคณะทันตแพทย์จุฬาฯ ออกหน่วยทันตกรรมช่วยประชาชน พระราชทานถวายเป็นพระราชกุศลในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 นายกฤษฎา บุญราช ประธานสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิปิดทองหลังพระ เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มทันตแพทย์ อาสาสมัคร และบุคลากรทางแพทย์ของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่จากโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอ รวมทั้ง อสม.ในพื้นที่รวม 110 คน ซึ่งได้ปฎิบัติงานร่วมกันตามโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานเคลื่อนที่ ซึ่งสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เป็นหน่วยงานประสานงานกับคณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ จ.นราธิวาส รวมทั้งหน่วยงานทหารและหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อให้บริการทางทันตกรรมแก่ประชาชนและนักเรียน ในพื้นที่ จ.นราธิวาส รวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.รือเสาะ อ.เจาะไอร้อง อ.ศรีสาคร อ.ยี่งอ และ อ.บาเจาะ ณ อาคารสนามกีฬา เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยมีบริการตรวจรักษาโรคในช่องปาก เช่น การอุดฟัน ถอนฟัน ขุดหินปูน ผ่าตัดฟันคุด ฯลฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการตรวจและรักษาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดย 2 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับบริการมากกว่า 2,090 คน
นายกฤษฎา กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ ว่า ได้มีการดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2512 ตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ได้เสด็จไปทรงงานเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ชนบท และพบว่าประชาชนในชนบทห่างไกลปัญหาโรคฟันหรือโรคในช่องปากเป็นจำนวนมากเพราะขาดความรู้หรือความเข้าใจในการดูแลรักษาสุขภาพฟันที่ถูกต้อง เนื่องจากขาดแคลนทันตแพทย์ที่จะทำการตรวจรักษาในพื้นที่ จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้แพทย์และทันตแพทย์ที่ตามเสด็จไปได้ทำการดูแลรักษาโรคในช่องปากให้แก่ประชาชนด้วย และต่อมาจึงได้โปรดเกล้าฯให้มีการดำเนินการตามโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานเคลื่อนที่ในปี 2512 โดยจะเปิดบริการให้แก่ประชาชนทุกครั้งที่ได้เสด็จเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ที่เสด็จไปทรงงานทุกครั้ง
"สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้น้อมนำโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทาน เคลื่อนที่ดังกล่าวมาสืบสาน ต่อยอด และขยายผลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีปัญหาในช่องปาก และมีโอกาสในการเข้าถึงบริการทันตกรรมในโรงพยาบาลของ รัฐได้น้อยเนื่องจากจำนวนทันตแพทย์ในพื้นที่มีไม่เพียงพอ ประชาชนอาจต้องรอรับบริการไม่ต่ำกว่า 3 เดือน รวมทั้งเพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์และโรงพยาบาลในพื้นที่อีกด้วย โดยสถาบันฯ ได้เริ่มดำเนินการโครงการนี้ ตั้งแต่ปี 2561 ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ปี 2562 ที่อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ต่อมาในปี 2563 - 2565 ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้หยุดดำเนินการชั่วคราว และในปี 2565 เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 น้อยลง สถาบันฯ จึงเริ่มโครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ พระราชทานนี้ ที่อำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส และจะขยายผลดำเนินการตามโครงการนี้ไปดำเนินการในพื้นที่ภูมิภาคอื่นปีละ 1 - 2 ครั้งต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี