ปภ.เตือน23จว.
รับน้ำทะเลหนุนสูงทะลักท่วม
อุตุฯย้ำภาคใต้ยังมีฝนตกหนัก
ปภ.ชี้20จว.ยังจม/ภาพรวมลด
กรมอุตุฯเผย ภาคเหนือ-อีสาน อากาศเย็น ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักปภ.สรุปยังมีน้ำท่วม 20 จังหวัด ภาพรวมน้ำเริ่มลด เตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำทะเลหนุนสูง-ท่วมฉับพลัน ทางกาฬสินธุ์ เร่งสูบน้ำกู้ถนนคืบหน้าแล้วกว่า 80% ชาวบ้านเจ้าสนุกในนครสวรรค์ ทุกข์หนักท่วมสูง2 เมตร นานร่วม 2 เดือน ตัดขาดโลกภายนอก
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมน.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่อง พายุโซนร้อนกำลังแรง ‘นัลแก’ว่าพายุโซนร้อนกำลังแรงนัลแกบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนช่วงวันที่ 2–3พฤศจิกายน 2565ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ช่วงวันที่ 2–5 พฤศจิกายน 2565ลักษณะเช่นนี้จะทำให้พายุอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
อุตุฯชี้เหนือหนาว-ภาคใต้ฝนหนัก
สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ปภ.ชี้20จว.ยังท่วม/ภาพรวมน้ำลด
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก.) รายงานว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน20 จังหวัดได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครนายก และปราจีนบุรี รวม 80 อำเภอ 629 ตำบล 4,260หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 237,364 ครัวเรือน สถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำเริ่มลดลงทุกจังหวัด โดย ปภ.ประสานจังหวัดดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งระบายน้ำเพื่อคลี่คลายสถานการณ์สำหรับพื้นที่ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งฟื้นฟู เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
เตือนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง-ท่วมขัง
ปภ.รายงานข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ภาคใต้ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ และ จ.อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานีภาคกลาง จ.ชัยนาทจ.สุพรรณบุรี จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครปฐม จ.ปทุมธานี จ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี
เตือน23จว.ระวังน้ำทะเลหนุนสูง
ส่วนน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณปากแม่น้ำและพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง ภาคกลางได้แก่ จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรปราการ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ กทม.ภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.ตรัง และ จ.สตูล
เร่งสูบน้ำ-กู้ถนนที่กาฬสินธุ์
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย ถึงบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการกู้ถนนสายดังกล่าว ภายหลังถูกมวลน้ำจากลำชีเอ่อท่วม ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้กำชับให้กรมทางหลวง เร่งดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยให้กู้สถานการณ์เพื่อกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
แขวงทางหลวงฯ-ปภ.เร่งสูบน้ำ
ด้านนางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ นายตรีรัตน์ หนูแก้วขวัญ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ และฝ่ายปกครอง เร่งสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้าในการกู้คืนถนนสายนี้ไปมากกว่า 80% แล้ว คาดว่าหากไม่มีอุปสรรคใดๆ จะสามารถเปิดเส้นทางให้รถยนต์ใช้สัญจรไปมาได้ภายในวันเดียวกันนี้ โดยชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนน ต่างคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมใช้เส้นทางนี้ด้วย
ที่ปรึกษารมว.คมนาคมรุดตามติด
ขณะที่นายวิรัช กล่าวว่า ภายหลังเกิดอุทกภัยใน จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลกระทบต่อเส้นทางจราจรต่างๆ ทาง รมว.คมนาคม มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน จึงกำชับให้ตน ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและเร่งรัดให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการแก้ปัญหาเพื่อให้การสัญจรเส้นทางต่างๆ เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วที่สุด พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งจากการติดตามการแก้ปัญหาได้เห็นความพร้อมเพรียงของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จึงมั่นใจว่าการดำเนินการจะเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
ผอ.แขวงทางหลวงฯห้ามรถใหญ่วิ่ง
ส่วนนางดวงตา กล่าวว่าถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของแขวทางหลวงกาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบที่ถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด 2 ช่วง คือที่สาย 214 ระหว่างบ้านหัวแฮด-หนองบัว และแยกบ้านโจดไปบ้านท่ากลาง-ท่าเพลิง ซึ่งได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ นำกระสอบทรายมากั้นมวลน้ำ เพื่อคืนผิวการจราจรโดยเร็ว ซึ่งเข้าสู่วันที่ 3 ของการดำเนินการ พบว่ามีความคืบหน้ากว่า 80% จึงลดการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่อย่างไรก็ดี หากดำเนินการกู้ถนนเสร็จสิ้น คงต้องขอความร่วมมือห้ามรถบรรทุกวิ่งผ่านเส้นทาง เนื่องจากจะทำให้กระสอบทรายที่วางไว้ได้รับความเสียหายจนมวลน้ำที่สูบออกไปอาจไหลย้อนกลับเข้ามาได้อีก
ผวจ.กาฬสินธุ์ลุยตรวจน้ำท่วม
ขณะเดียวกัน นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผวจ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทน ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมโดยมีการติดตามการสูบน้ำออกสู่แม่น้ำชี บริเวณบ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ซึ่งมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 6 เครื่อง สูบน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร โดยภาพรวมสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ในหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย เนื่องจากระดับน้ำลดลง บางหมู่บ้านน้ำแห้งจนเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนทยอยกลับเข้าพักอาศัยแล้ว ก่อนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีการสำรวจข้อมูลเพื่อฟื้นฟูเยียวยาต่อไป
พนังกั้นลำชีขาดกระทบ2อำเภอ
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยจากพนังกั้นลำน้ำชีขาดบริเวณ กม.6 บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จากข้อมูลการสำรวจ พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ2 อำเภอ (อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย ) 7 ตำบล 41 หมู่บ้าน 2,147 หลังคาเรือน 7,089 คน วัด 12 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง คลี่คลายแล้ว 1 แห่ง (รร.บ้านเเวงประชารัตน์บำรุง) และ รพ.สต. 2 แห่ง (รพ.สต.ท่าเยี่ยมและ รพ.สต.หนองบัว) ถนน 10 สาย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 26,158.50 ไร่ และด้านประมง 185.25 ไร่
ท่วมกว่า2เดือนชาวเจ้าสนุกระทม
ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าขณะนี้ยังมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังสูงหลายแห่ง เช่นที่บ้านเจ้าสนุก หมู่ 12 ต.เกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งน้ำท่วมมาแล้วนานกว่า 2 เดือน ชาวบ้านกว่าร้อยคน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะถนนที่ใช้เข้าออกหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถทุกชนิดไม่สามารถเข้าออกได้ ขณะที่ภายในหมู่บ้านมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการเดินทาง
นายอำนวย ศรกองแดง ชาวบ้านพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า ชาวบ้านอยู่อาศัยด้วยความยากลำบาก ทั้งอาหารการกินและการเดินทางหากจะออกจากหมู่บ้านต้องขับเรือออกมากว่า 3 กิโลเมตร เพื่อไปทำธุระ นอกจากนี้ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือน ต้องนำของมีค่า สัตว์เลี้ยงเครื่องมือทางการเกษตร ไปไว้บนที่สูง เนื่องจากระดับน้ำยังสูงไม่สามารถนำลงมาได้ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่า 2 สัปดาห์ น้ำจึงจะลดลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี