จากกรณีสามเณรพร้อมแม่เข้าแจ้งความเอาผิดพระปลัดวัดดังล่วงละเมิดทางเพศสามเณร เหตุเกิดที่กุฏิวัดพระธาตุช้างค้ำ พระอารามหลวง จนศาลอนุมัติออกหมายจับพระปลัดธเนศ คงน้อย หลังเกิดเหตุถอนเงินล้านกว่าหนีหายไป ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกหมายจับ'พระอาจารย์'วัดดังเมืองน่านตุ๋ยเณร แฉแอบถอนเงินล้านหนีไปแล้ว)

ล่าสุดวันนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน  ,ร.ต.อ.อนุรักษ์  ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.ทนันชัย  เนตรทิพย์ รอง สวป.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.ธนดล  อินทรประดิษฐ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วยเจ้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง เร่งติดตามตัวและพยานหลักฐาน โดยเข้าค้นบ้านเกิดของพระปลัดธเนศ ที่บ้านเชียงราย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้ตรวจยึดเอกสารทางการเงินไปตรวจสอบ และเอกสารที่เกี่ยวข้องบางส่วนเพื่อติดตามหาบุคคลใกล้ชิด ส่วนด้านทางแม่และพี่สาวของพระปลัดธเนศ ไม่ให้สัมภาษณ์เนื่องจากแม่ได้รับอุบัติเหตุขาหัก และทั้งคู่ติดเชื้อโควิด 19 ยังอยู่ในอาการป่วยอยู่

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบเอกสารเขียนด้วยลายมือข้อความว่า “ฝากพี่ดูแลแม่ด้วยนะ ตุ๊รักพี่และแม่มาก อดทนหน่อยนะ อีกหน่อยเราจะกลับมาเจอกัน” พร้อมเซนชื่อ ซึ่งพี่สาวอ้างว่าพระธเนศกลับเข้ามาที่บ้านเมื่อวันที่ 12 กันยายน แล้วได้เขียนข้อความใส่กระดาษทิ้งไว้ โดยการลงตรวจค้นพื้นที่หลายจุดในจังหวัดน่าน ยังไม่พบบุคคลตามหมายจับ

แต่ในระหว่างตรวจค้นบ้านแม่ของพระปลัดธเนศอยู่นั้น ได้มีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นทนายอยู่ทีมทนายดัง โทรมาเบอร์พี่สาวพระปลัดนเนศโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าค้นบ้าน และอ้างว่าพระปลัดธเนศมีความสนิทใกล้ชิดเชื้อพระวงศ์ และกำลังจะให้พี่สาวพระปลัดธเนศเดินทางไปสำนักพระราชวังเพื่อยื่นฎีกาถวาย ซึ่งตำรวจไม่เชื่อและคาดว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพมากกว่า 

ด้านการตรวจสอบ เงินวัดและเรื่องราวภายในวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหารนั้น พระครูสิรินันทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน ผู้อำนวยการโรงเรียนนันทบุรี (แผนกพระปริยัติธรรม) กล่าวว่า ในส่วนของวัดพระธาตุช้างค้ำ เป็นพระอารามหลวง ไม่ได้ขึ้นตรงกับการปกครองคณะสงฆ์ระดับอำเภอ ในส่วนของตัวผู้กระทำผิดนั้นเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ซึ่งอยู่ในการปกครองของเจ้าอาวาส การดำเนินการต้องให้ทางเจ้าอาวาสเป็นผู้ตรวจสอบร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดน่านแล้วรายงานผลสอบไปที่เจ้าคณะจังหวัดโดยตรง ส่วนในส่วนของบัญชีพ่อแม่อุปถัมภ์ อยู่ในการดูและของวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ก็คงต้องรอกระบวนการตรวจสอบ ส่วนเรื่องเงินทุนต่างๆ ที่โรงเรียนมีพระปลัดธเนศเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ได้ทำการตรวจสอบแล้ว ไม่พบมีการทุจริต

ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดี พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามบุคคลตามหมายจับแล้ว โดยกำชับให้เร่งติดตามหาตัวบุคคลตามหมาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังไม่พบว่ามีการเดินออกนอกประเทศ ส่วนจากกรณีคลิปเสียงที่เปิดผ่านรายการโหนกระแสว่า มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดน่านจะได้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะที่ไม่เหมาะสม จะดำเนินการทางวินัยต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกันแม่ของสามเณร ผู้เสียหาย ได้ไลน์พูดคุยกับผู้สื่อข่าวภายหลังไปออกรายการ"โหนกระแส" โดยยืนยันว่า วันนี้ถ้าดีหรือไม่ดีอย่างได้ ตนขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว ตนยอมรับผลที่จะตามมา ส่วนวัตถุประสงค์ที่ติดต่อออกรายการวันนี้ก็เพื่อจะฟาดเอาอลัชชีที่เหลือในวัดช้างค้ำออกไป เพราะเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ในวัดหรือแม้แต่ผ้าเหลืองเค้าก็ไม่สมควรที่จะห่ม อยากเรียกศรัทธาของวัดของโรงเรียนกลับมา

"หนูก็ได้แสดงเจตนารมณ์ของหนูไปแล้ว และหนูกล้าพอที่จะเผชิญกับผลที่จะตามมา หนูได้เลือกแล้ว ลุงคนนั้นเขาบอกให้หนูมากวาดทำความสะอาดวัดนี้ ไม่ต้องกลัวเหนื่อยอะไร เขาจะให้คนมาช่วย ลุงคนนั้นเขาก็บอกอีกว่า ใครให้เงินให้ทอง ก็อย่าไปอยากได้ของเขา ลุงเขาบอกอย่างนี้"แม่ของสามเณร กล่าว

-001