จากอดีต “เด็กชายขอบ” ตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศไทย แทบจะไม่มีใครเหลียวมอง โดยเฉพาะความช่วยเหลือด้านการศึกษา ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ควรได้รับอย่างเสมอภาค...ในฐานะองค์กรไทย กลุ่มทรู เล็งเห็นและตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ จึงระดมทุกสรรพกำลังที่มี นำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีการสื่อสารมาช่วยยกระดับการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแก่ครูผู้สอน เด็กชายขอบ และผู้ปกครองในพื้นที่ห่างไกลมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
จุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2558 ที่กลุ่มทรู ได้ร่วมกับสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ขับเคลื่อน “โครงการสื่อพกพาเพื่อการรู้หนังสือสำหรับเด็กนอกระบบการศึกษา (Mobile Literacy for Out-of-School Children Project)” มอบสื่อไอซีทีจากโครงการทรูปลูกปัญญา ทั้งชุดอุปกรณ์รับสัญญาณทรูวิชั่นส์สื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนการสอน ครอบคลุม 8 กลุ่มสาระวิชาและอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เนตไร้สายบนเครือข่ายทรูมูฟ เอชให้แก่ศูนย์การเรียนรู้กว่า 70 แห่ง
ไล่ตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา 5 จังหวัด ตั้งแต่ ระนอง กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน ไปถึงเชียงราย ทำให้ครูกว่า 350 คน ได้พัฒนาทักษะการใช้สื่อพกพาและนำไอซีทีมาประยุกต์ใช้จัดการเรียนการสอน มีนักเรียนกว่า 10,000 คน สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้และอินเตอร์เนตและที่สำคัญ ผลลัพธ์อันน่าภูมิใจ คือการได้เห็นเด็กเมียนมาจากศูนย์การเรียนรู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้ มีคะแนนสอบยอดเยี่ยมติด 10 อันดับแรกของหลักสูตรกศน.ของเมียนมา(Non-Formal Primary Education)
ด้วยความตั้งใจที่ต้องการต่อยอดโอกาสทางการศึกษาให้ถึงเด็กชายขอบทั่วประเทศ กลุ่มทรู จึงเดินหน้า “โครงการสื่อพกพาเพื่อการรู้หนังสือสำหรับเยาวชนปอเนาะ” ติดตั้งชุดสื่อดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้จากโครงการทรูปลูกปัญญา ประกอบด้วย ชุดอุปกรณ์รับสัญญาณทรูวิชั่นส์พร้อมแพ็กเกจสารคดีชั้นนำจากทั่วโลก แท็บเลต อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เนตไร้สายพร้อมดาต้า ตลอดจนจัดอบรมการใช้สื่อและอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่ครูและนักเรียนของกศน. ภาคใต้ และสถาบันศึกษาปอเนาะ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้ครูได้ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ขณะที่เด็กนักเรียน กศน. และโรงเรียนรัฐบาลต่างๆ ในจังหวัดภาคใต้ ก็สามารถเข้าถึงแหล่งสาระข้อมูลและข่าวสาร ทั้งด้านวิชาการ ศาสนา วัฒนธรรม พร้อมสื่อดิจิทัลภาษาอารบิก และภาษามลายู โดยเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งคือเพียงไม่ถึง 1 ปี หลังเริ่มโครงการ นักเรียนปอเนาะมีผลการเรียนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถสอบผ่านเกณฑ์มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้และการสื่อสารภาษาไทยซึ่งเป็นปัญหาหลักของนักเรียนในพื้นที่นี้
กลุ่มทรู มุ่งมั่นขยายเทคโนโลยี 5G ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เช่น บนดอย ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2563 กลุ่มทรู ได้ร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนด้านเทคโนโลยีสื่อสาร โรงเรียนบ้านป่าซางนางเงิน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดชายแดนไทย-เมียนมา โดยทรู เป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมรายเดียวที่ติดตั้งและบูรณาการเทคโนโลยี 5G ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เพื่อยกระดับให้ครู นักเรียน และคนในชุมชน ก้าวทันการศึกษายุคดิจิทัล
ทั้งบูรณาการจัดการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน(Project Based Learning) ให้ครูและนักเรียน ใช้อุปกรณ์ดิจิทัล และสัญญาณทรู 5G มาเสริมการเรียนรู้แบบครบวงจรในโครงงานวิชาต่างๆ พร้อมต่อยอดเปิดช่องทางจำหน่ายออนไลน์ รวมถึงบูรณาการการจัดการเรียนรู้รายวิชา นำแว่นเสมือนจริงและสื่อ 360 องศา ประกอบการเรียนรู้เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนานเกิดแรงบันดาลใจและจินตนาการไม่รู้จบ ตลอดจนพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่ชุมชนเพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่งผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ICT Talent มาประจำการที่ศูนย์ฯ และอบรมการใช้โปรแกรมพื้นฐาน เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ ยูทูบ ติ๊กต็อก เพื่อให้คนในชุมชน นำไปใช้ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มทรู ยังคงเดินหน้าสานต่อความตั้งใจที่จะสร้างโอกาสแห่งความทัดเทียมให้เป็นจริงได้ด้วยเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้การศึกษาที่ดี มีคุณภาพ ไปถึงเด็กชายขอบทุกคนอย่างเสมอภาค ไร้พรมแดน อันเป็นเครื่องมือนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมที่ดีที่สุด