ตำรวจภาค 2 แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรมก่อนประชุมเอเปก จับยึดยาเสพติด อาวุธปืน ยึดทรัพย์ เป็นประวัติการณ์สูงสุด ขณะตำรวจภาค 3โชว์ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ยึดอาวุธปืน-อาวุธสงคราม-วัตถุระเบิด-เครื่องกระสุนปืน และ ยาเสพติด จับกุมผู้ต้องหาได้ กว่า 3,000 ราย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัยผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 10 ต.ค.-8 พ.ย. 65 พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่าในการนี้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีอาวุธปืน 1,103 ราย ผู้ต้องหา 1,045 คน อาวุธปืนสงคราม ปืนไม่มีทะเบียน ปืนมีทะเบียนแต่ผิดมือ อาวุธปืนจำหน่ายทางออนไลน์ รวม 912 กระบอก วัตถุระเบิด 29 ลูก กระสุนปืน 44,764 นัด จับกุมตรวจยึดคดียาเสพติด ทั้งผู้จำหน่าย ครอบครอง เสพ ผู้ต้องหา 2,892 คน ได้ของกลางเป็นยาบ้า 191,677 เม็ด ไอซ์ 4.069 กิโลกรัม และทำการยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด 237 ราย มูลค่า 16,879,917 บาท พร้อมยังสามารถจับบุคคลตามหมายจับ 822 คดี
สืบเนื่องจากประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ทั้ง 9 กองบังคับการ ระดมสรรพกำลังกวาดล้างอาชญากรรมตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเน้นความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่ิงกระสุนปืน วัตถุระเบิด ยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจากการระดมกวาดล้างในห้วงเวลาดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาและของได้เป็นจำนวนมาก นับว่ามากที่สุดในประวัติการกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจภูธรภาค 2
ที่ตำรวจภูธรภาค 3 ถนนสรรพสิทธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ของตำรวจภูธรภาค 3โดยปัจจุบันมีการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญที่มีการใช้อาวุธปืนในการกระทำผิดอยู่บ่อยครั้ง สร้างความสูญเสียแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และความหวาดกลัวภัยของประชาชน ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม ผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานีและบก.สส.ภ.3 โดยในห้วงวันที่ 10 ต.ค. - 4 พ.ย.2565 สามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางในคดีต่างๆ
โดยได้วัตถุระเบิด ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด จับกุมรวม 1,956 ราย ผู้ต้องหา 1,561 คนของกลาง อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 588 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียน 3 กระบอก วัตถุระเบิด 11 ลูก และเครื่องกระสุนปืน 3,507 นัด ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน จับกุมได้ 2 รายผู้ต้องหา 2 คนของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 2 กระบอก ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน จับกุมได้ 6 ราย ผู้ต้องหา 10 คน กลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 6 กระบอก ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมรวม 3,152 ราย ผู้ต้องหา 3,253 คน ของกลาง ยาบ้า 438,164 เม็ด ยาไอซ์ 34 กรัม และยาเค 299 กิโลกรัม ตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ จับกุมได้ 591 หมาย ผู้ต้องหา 571 คน
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค3ได้ดำเนินการกวาดล้างการค้าอาวุธปืนออนไลน์เถื่อน ตามยุทธการกำแหงสงคราม 2 “ปฏิบัติการกวาดล้างการค้าอาวุธปืนออนไลน์เถื่อน”โดยร่วมกันออกทำการสืบสวนและปราบปราบเครือข่ายค้าปืนออนไลน์ โดยจากการสืบสวนและขยายผลพบว่ามีกลุ่มเครือข่ายที่มีการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 เป็นจำนวนหลายจุด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 กองกำกับการสืบสวนจังหวัด และฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3
จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อตรวจค้นเป้าหมายซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 จังหวัด ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 มีจุดตรวจค้นทั้งหมด จำนวน 48 จุด ผลการตรวจค้น ปรากฏว่า พบอาวุธปืน จำนวน 39 กระบอกและอุปกรณ์ส่วนควบเช่นเครื่องกระสุนปืน ท่อลดเสียง ลำกล้องปืน แมกกาซีน จำนวน 1,713 รายการ จึงได้แจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา“มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ครอบครองยุทธภัณฑ์ (เครื่องบังคับเสียงปืน หรือ Silencer)โดยไม่ได้รับอนุญาต”และตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี