วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"ป้าตัวตึงนครพนม" ยังไม่หยุดหาเรื่องด่าทอ บุกโรงพักขับรถกระบะ 4 ประตูเฉียวรถ พฐ.เสียหาย ก่อนเดินลงจากรถบอก จนท.ค่าเสียหายเท่าไหร่คิดมา โดยอ้างมองไม่เห็นเพิ่งกินยามา ด้านนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม มอบอำนาจนิติกรสำนักงานเทศบาลฯ นำหลักฐานเข้าแจ้งความ "ป้ามหาภัย" ฐานทำลายบานประตูทางเข้าด้านข้างอาคารท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนมและทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหายเมื่อ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
จากกรณีนางส่องหล้า (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ตัวแทนบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งถูกนิติกรเทศบาลเมืองนครพนม เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อกล่าวหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ในอาคารท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา และพฤติกรรมดังกล่าวของนางส่องหล้ากลายเป็นกระแสดราม่าอยู่ในโลกโซเซียลอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดวันที่ 18 พ.ย.65 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.นางส่องหล้า ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนครพนม โดยขับรถยนต์กระบะ 4 ประตูเข้าไปยัง สภ.เมืองนครพนม ปรากฏว่าขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปได้เฉี่ยวกันชนหน้าด้านขวารถกระบะของพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (พฐ.) ได้รับความเสียหาย จากนั้นนางส่องหล้า ได้จอดรถเดินลงมาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าค่าเสียหายเท่าไหร่คิดมา โดยอ้างตนเองมองไม่เห็นและเพิ่งกินยามาและก็เดินหนีไป ซึ่งรถกระบะของ พฐ.นครพนม เป็นรถของราชการ ทางผู้บังคับบัญชา พฐ.จึงจำเป็นต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเชิญตัวนางส่องหล้ามาสอบถามรายละเอียดในเวลา 16.00 น.ของวันนี้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.65 ที่ผ่านมา นายสุภวัฒน์ ทุมอาจ นิติกรสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิชิต วรรณพฤกษ์ รอง ผกก.สภ.เมืองนครพนม เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนางส่องหล้า โดยได้ร้องทุกข์กล่าวหาว่าเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 15 พ.ย.65 ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งเป็นเวลาทำการของท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม นางส่องหล้า ซึ่งมีสำนักงานตัวแทนบริษัทประกันชีวิตอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้เข้ามาภายในที่ทำการท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย และยังกล่าวหาว่าท่าเทียบเรือมีสิ่งผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ นางส่องหล้า ได้แสดงความเกรี้ยวกราด ทำลายบานประตูทางเข้าด้านข้างอาคาร ซึ่งเป็นสิ่งของทางราชการได้รับความเสียหายและยังไม่หนำใจได้ยืนชี้หน้าด่ากราดผู้คนในบริเวณนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าบานประตูได้รับความเสียหาย ภายนอกอาคารก็ถูกนางส่องหล้าใช้ปากกาเมจิกและสีสเปรย์ฉีดพ่นเป็นตัวหนังสือ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางส่องหล้ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีบุกรุกทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งจะได้แจ้งข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และทำให้เสียทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณปี 2563 นางส่องหล้า เคยเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วครั้งหนึ่ง ในครั้งนั้นมีพฤติกรรมไม่ต่างจากปัจจุบัน โดยจะอ้างว่ารู้จักตำรวจทั้งระดับล่างและระดับบน มักเข้าไปสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับตำรวจในโรงพักเสมอ ได้มีนักข่าวประจำจังหวัดเข้าไปติดตามบันทึกภาพเกือบถูกนางส่องหล้า ถอดรองเท้าตบ โชคดีที่มีตำรวจเข้ามาห้ามไว้ และขึ้นไปส่งเสียงเอะอะโวยวายจนเจ้าหน้าที่แทบไม่เป็นอันทำงาน เมื่อมีคนถามว่าลูกหลานไม่ดูแลหรืออย่างไรก็ได้รับคำตอบว่า ที่ผ่านมาญาติตลอดจนลูกหลานได้ขอร้องให้หยุดพฤติกรรมก้าวร้าวนี้แต่กลับถูกนางส่องหล้าด่ากระเจิงมาหมดแล้ว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี