เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Nan Sujeera ชาว จ.อุดรธานี ได้เผยคลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถ หลังถูกคนร้ายขโมยไปขณะที่เจ้าของรถไปติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ลูกค้าที่เต็นท์รถมังกร ริมถนนสายอุดรธานี-หนองบัวลำภู โดยเสียบกุญแจคาไว้ จากนั้นคนร้ายไม่รู้โผล่มาจากไหนได้เดินเข้าไปขับรถที่เสียบกุญแจคาไว้เป็นรถปิกอัพ โตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผก 210 อุดรธานี แล้วขับหนีออกจากไปอย่างรวดเร็วทันทีบนถนนสายอุดรธานี-หนองบัวลำภู ขณะเดียวกัน นายกสิณพจน์ อายุ 39 ปี เจ้าของรถเห็นก็ตกใจรีบขอยืมรถเต๊นท์รถไล่ติดตาม มีพนักงานของเต๊นท์รถช่วยขับรถไล่ตามมากกว่า 10 คัน และโทรแจ้ง ตร.สภ.เมือง และ สภ.ห้วยหลวง ช่วยสกัดจับเอาไว้ได้
สุดท้ายก็สามารถจับกุมได้ที่บริเวณแยกห้วยหลวง ทราบชื่อคนร้ายคือ นายไกรวัลย์ อายุ 22 ปี ชาว จ.อุดรธานี และควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองอุดรธานี แต่ยังให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง บอกว่าจะไปหาแฟนที่กรุงเทพฯ แถมยังถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในตัวเอง และก็ยังร่ายมนต์ยกวิชาจอมขมังเวทน์ทั้ง พระรัตนตรัย องค์คุลีมาน แต่ก็ไม่สามารถหายตัวได้ ทำเอา ตร.ชุดสืบสวนและเจ้าของรถอดยิ้มไม่ได้ ตร.ตรวจสารเสพติดพบว่าเป็นสีม่วง พร้อมกับแจ้ง 2 ข้อหา ลักทรัพย์ และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และเมื่อ ตร.สอบสวนไล่เรียงรายเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเข้ามาขโมยรถของช่างติดตั้งกล้องวงจรปิดทราบว่า นายไกรวัลย์ได้ขับรถสามล้อเครื่องมาจาก อ.เพ็ญ แล้วรถน้ำมันหมด แล้วก็เดินดุ่มๆ เข้ามาขโมยรถที่เจ้าของรถเสียบกุญแจคาไว้แล้วขับออกไปทันที โดยภาพวงจรปิดของเต๊นท์รถมังกร จะเห็นขณะที่นายไกรวัลย์เดินวนอยู่ภายในเต็นท์รถ เดินไปดูรถคันโน้นทีคันนี้ที จนมาเห็นรถของช่างติดกล้องจรปิดเดินไปเปิดประตูแล้วก็ขับออกมาไปทันที อีกภาพเป็นกล้องภายในรถคันที่ถูกขโมยได้ยินเสียงของนายไกรวัลย์มีท่าทีดีใจสุดขีด ตะโกนพูดในรถว่า "จะไปกรุงเทพฯ โว้ย จะได้ไปกรุงเทพฯ หละ ยู่ฮู้ จะได้ไปกรุงเทพแล้วโว้ย ซ้ำยังพูดบ๊ายบายอีกด้วย
ขณะที่ นายกสิณพจน์ หรือหนุ่มเจ้าของรถ เดินมาดูรถไม่เจอและเดินวนอยู่หลายรอบ เมื่อรู้ว่าโดนขโมยรถแล้วจึงขอยืมรถเต็นท์รถและมีพนักงานของเต๊นท์รถขับรถออกติดตามทันที และมีพนักงานเต็นท์รถบอกว่า เห็นมั้ยผมเห็นมันมาขโมยรถขับออกไปแล้ว แล้วก็ได้ยินเสียงพนักงานเต็นท์รถร้องตะโกนบอกว่า เขาขโมยรถ เอารถออกไล่ตามเลยๆ และเห็นรถอีกหลายคันขับออกไปไล่ติดตามทันที ส่วนอีกคลิปจะเห็นรถพนักงานเต๊นท์รถมากกว่า 10 คันไล่ล่าประกบหน้าหลัง และรถ ตร.สภ.ห้วยหลวงเปิดไฟไซเรนไล่ประกบ แต่นายไกรวัลย์ก็บอกว่า เดี๋ยวๆ ผมจะไปหาผู้สาวที่กรุงเทพฯ แต่สุดท้ายรถ ตร.ได้บอกให้หยุดคนร้ายจึงหยุดรถ ตร.จึงรวบตัวเอาไว้ได้
ต่อมาวันนี้ เวลา 18.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายกสิณพจน์ เจ้าของรถ เพราะวันนี้เดินทางไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณเที่ยง ตนเองไปติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ร้านเต็นท์รถ ปกติก็ไม่ได้ล็อครถ เพราะในเต็นท์รถมีคนจำนวนมาก ตนเองก็เดินออกรถเข้าออกๆ หลายครั้งเพื่อมาเอาเครื่องมือภายในรถ ทำงานได้ประมาณ 2 ชม.เวลาประมาณ 14.45 น.ก็มีคนร้ายมาขับรถตนเองออกไป ผจก.ก็ถามว่าอ้าวหนุ่มลูกน้องขับรถออกไปเหรอ ตนก็ตกใจบอกว่าพี่วันนี้ผมมาคนเดียว เมื่อรู้ว่าโดนขโมยรถแล้ว จึงแจ้ง ผจก.แล้วให้พี่ๆ พนักงานของเต๊นท์รถช่วยติดตามและแจ้ง ตร.ให้สกัดช่วยได้ก่อน ดูจากคนร้ายน่าจะหลอนยา เพราะเปิดกล้องในรถ มันบอกว่า จะไปกรุงเทพฯ โว้ย ดีใจจะได้ไปหาผู้สาว รถพนักงานเต็นท์รถมากกว่า 10 คัน ไล่ติดตามขับตามไปประมาณ 10 กม.พอไปถึงบอกให้หยุดเขาก็ไม่หยุด ตร.เขาก็ตะโกนให้หยุดก็ยังไม่ยอมหยุดอีก ตร.จึงขึ้นลำกล้องปืน คนร้ายจึงหยุดจึงจับกุมตัวเอาไว้ดิ้ ผมดูแล้วคนร้ายพูดจาไม่รู้เรื่อง ดูแล้วน่าจะเมายาแน่นอน เห็นสภาพแล้วน่าจะดีดเยอะอยู่ ตร.ก็ดำเนินคดีนใน 2 ข้อหา ลักทรัพย์และพบสารเสพติดส่งฟ้องศาลแล้ว ต่อไปคงต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ฝากถึงประชาชนที่ชอบเสียบกุญแจเอาไว้ ไปจอดรถที่ไหนอย่าติดเครื่องรถหรือเสียบกุญแจเอาไว้ บางทีอาจจะไม่โชคดีแบบผม นายกสิณพจน์กล่าวตอนท้าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี