‘พิ้งกี้-แม่’ขึ้นศาล

แค่นักลงทุน/ปัดชวนเล่นฟอเร็กซ์

สืบพยานโจทก์นัดแรก 10 สิงหาคม 66

เบิกตัว “พิ้งกี้- สาวิกา” พร้อมแม่กับพวกรวม 24 คนมาศาล ฟังการพิจารณาตรวจพยานหลักฐานคดีแชร์ ฟอเร็กซ์-3ดี โดยทนายพิ้งกี้ แถลงต่อศาลยันพิ้งกี้เป็นแค่นักลงทุน ไม่เคยชวนใครมาเล่น รับปันผลปกติจากการลงทุน ไม่ได้รับผลตอบแทนจากการชวนคนอื่น ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันแรก 10 สิงหาคม 2566

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจพยานหลักฐาน และสอบคำให้การจำเลยคดีแชร์ Forex 3D หมายเลขดำ อ.853/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหารแชร์ Forex 3D น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิ้งกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง นางสรินยา ไชยเดช มารดา และนายกิตติเชษฐ์ หรือสรายุทธ ไชยเดช พี่ชาย กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยกรณีฉ้อโกงประชาชนคดีแชร์ Forex 3D มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท โดยวันนี้ ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาฟังการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในห้องพิจารณาคดี พิ้งกี้ สาวิกา มีสีหน้าเรียบเฉย มีอาการเครียดเล็กน้อย และผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนายกิตติเชษฐ์หรือสรายุทธ พี่ชาย ใส่กุญแจมือมาพร้อมนายอภิรักษ์ โดยนางสรินยา มารดา เข้าไปโอบกอดลูกชายและย้ายไปนั่งด้านข้างพิ้งกี้ ขณะที่มีญาติและเพื่อนของจำเลยรายอื่นอยู่ในห้องพิจารณาคดีและเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจจำเลย

ทั้งนี้ พนักงานอัยการแบ่งบัญชีรายชื่อพยาน เพื่อนัดสืบพยาน 6 กลุ่มจำนวน 122 ปาก เป็นกลุ่มผู้กล่าวหา บุคคลใกล้ชิด ผู้เสียหาย และผู้ได้รับว่าจ้างเปิดบัญชีม้าและเจ้าหน้าที่ จากนั้นจำเลยทั้งหมด ร่วมหารือกับทนายความหลังอัยการเสนอบัญชีรายชื่อพยานแล้ว ทนายได้สอบถามความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับจำเลยเพื่อดำเนินการนำสืบพยานในชั้นศาลต่อไป ต่อมาเวลา 11.20 น. ศาลเริ่มสอบถามพวกจำเลยมีทนายครบถ้วนหรือไม่ และทนายได้รับหนังสือ บัญชีรายชื่อพยาน จากทางอัยการครบหรือไม่

ขณะที่ทนายความแถลงแนวทางต่อสู้คดี ซึ่งทนายความของนายอภิรักษ์ จำเลยที่ 1 และ 2 แถลง ตอนนี้ว่า ได้ว่าจ้างโบรกเกอร์ต่างประเทศให้หาเงินจากผลการลงทุนนำมาชดใช้ให้ผู้เสียหาย ด้านทนายความของจำเลยที่ 3 ,4 และ 5 แถลงว่า จำเลยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจริงแต่จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา และขอนัดสืบพยานในกลุ่มนักลงทุนและโปรแกรมเมอร์เพิ่มเติมจากที่อัยการเสนอรายชื่อ ส่วนทนายความของนายกิตติเชษฐ์ จำเลยที่ 6 แถลงว่า มีรายชื่อเป็นกรรมการในบริษัทของจำเลยที่ 2 จริงแต่ไม่ได้ร่วมบริหาร

ด้านทนายความของ น.ส.สาวิกา จำเลยที่ 7 นางสรินยา มารดาพิงกี้ 8 ได้แถลงร่วมกันว่า จำเลยที่ 7 และ 8 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของบริษัทจำเลยที่ 2 และ 3 ไม่เคยชักชวนหรือแนะนำใครมาร่วมลงทุนดังกล่าว จำเลยที่ 7 และ 8 ยืนยันว่าเป็นเพียงนักลงทุนที่ได้รับเงินจากจำเลยที่ 2 และ 3 เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น ไม่เคยได้รับประโยชน์ผิดแปลกแตกต่างจากปกติ หรือได้รับผลตอบแทนจากคำแนะนำในการเชิญชวนผู้อื่น และขอนัดสืบพยาน ผู้ที่มาขอร่วมลงทุนด้วยตัวเองโดยพวกตนไม่ได้มีการชักชวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน เป็นการตรวจพยานหลักฐาน ร่วมกับโจทก์ จำเลย เมื่อแล้วเสร็จ ได้นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 10 สิงหาคม 2566

สำหรับจำเลยทั้ง 24 คน ประกอบด้วย นายอภิรักษ์ โกฏธิ จำเลยที่ 1 บริษัท อาร์เอ็มเอส แฟมิเลีย จำกัด โดย นายสรายุทธ หรือ กิตติเชษฐ์ ไชยเดช จำเลยที่ 2 บริษัท มีดิเพย์ จำกัด โดยนายศิษฏ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน จำเลยที่3 นายศิษฏ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน จำเลยที่ 4 นายสุภิญโญ มีสมปราชญ์ จำเลยที่ 5 นายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช หรือชื่อเดิม สรายุทธ ไชยเดช ซึ่งเป็ฯพี่ชายของพิงค์กี้ สาวิกา จำเลยที่6 น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้นักแสดงชื่อดัง จำเลยที่ 7 นางสรินยา ไชยเดช มารดาพิ้งกี้ จำเลยที่ 8 นายณัฐธีร์ พีระชัยรมย์ หรือ นายวาริท อาเช่อร์ หรือนายพสิษฐ์ ศักดิ์ธนินท์ จำเลยที่ 9 นายศิราเมษฐ์ สุภัคศิริประสาน จำเลยที่ 10

นายธรรศิวรรฒ ฉันทานุกูล อายุ 29 ปี อาชีพ นักแสดงอิสระ จำเลยที่ 11 นายปฏิภาณ มะนัส อายุ 27ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 12 นายอนุพงศ์ จุลมุสิก อายุ 32 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 13 นายนวพล เรืองอักษร อายุ 36 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 14 นายรพีพัฒน์ ภิรมย์จันทร์ อายุ 35 ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 15 นายสุรสิทธิ์ คำยันต์ อายุ 35 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จําเลยที่ 16 นายณัฐพงษ์ ปัญญาวงศ์ อายุ 28ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จำเลยที่ 17 นางนงนุช โกฎธิ อายุ 50 ปี อาชีพ ค้าขายจำเลยที่18

นายกิตติชัย โกฎธิ อายุ 26 ปี อาชีพนักศึกษา จำเลยที่ 19 นายอับดุลฮากีม ปิมะแม อายุ 28 ปี อาชีพ รับจ้าง จําเลยที่ 20 น.ส.ภคมน สีกุน อายุ 34 ปี อาชีพค้าขาย อดีตภรรยาของนายอภิรักษ์ จำเลยที่ 21 นาย กษม กลปราณีต อายุ 32ปี อาชีพ นักร้อง นักแสดง นายแบบ จำเลยที่ 22 น.ส.ธัญญนันช์ ณัฐนนท์ชญนัท อายุ 42 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว จำเลยที่23และนายทินกร โกฎธิ อายุ 55 ปี อาชีพ รับจ้าง จำเลยที่ 24