วันที่ 30 พ.ย.65 จากกรณีการหายตัวไปอย่างปริศนาของ ด.ช.ชนนาธิป เชอมือ อายุ 2 ขวบภายหลังผู้เป็นยายปล่อยให้เล่นอยู่ใต้ถุนบ้านเลขที่ 57 บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ส่วนนายอาเสาะ เชอมือ อายุ 37 ปี และ น.ส.บูเซอ เฌอหมื่อ อายุ 26 ปี ไปทำสวนกาแฟ ตั้งแต่วันเย็นวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง พ.ต.อ.สุทิน กลิ่นหวล รักษาราชการแทน ผกก.สภ.แม่สรวย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยบรรเทาสาธรณภัย เพื่อติดตามค้นหาอีกครั้ง ภายหลังจากในห้วง 2 วันที่ผ่านมา ทางญาติและทางชุมชนได้พยายามค้นหาตามพื้นที่ที่คาดว่าเด็กจะเดินทางไปแต่ก็ไม่พบตัว ทำให้มีการสันนิฐานว่าเด็กอาจถูกลักพาตัวไป เนื่องจากก่อนการหายตัวไปมีรถยนต์จากต่างพื้นที่วนเวียนในพื้นที่หลายรอบ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจะจัดทีมเพื่อกระจายการค้นเป็นรัศมีกว้างรอบหมู่บ้าน ปรากฎว่าได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย ได้ลงไปตรวจสอบยังบริเวณลำห้วย ซึ่งอยู่ติดกับตัวบ้านเด็กที่หายตัวไปเล่นอยู่ประมาณ 5-6 เมตร จึงพบร่างของ ด.ช.ชนนาธิป เสียชีวิตอยู่ในลำห้วย ซึ่งลดหลั่นประมาณ 1 เมตรทำให้เป็นน้ำตกขนาดเล็กปิดบังร่างของเด็กดังกล่าวเอาไว้
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าพบร่าง ด.ช.ชนนาธิปแล้วจริง ญาติๆ โดยเฉพาะ น.ส.บูเซอ ผู้เป็นแม่ ร้องไห้แทบจะขาดใจ ญาติพี่น้องต่างพากันร้องให้ระงมจนเป็นลมล้มพับไป เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องมาช่วยกันปฐมพยาบาล
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่เอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และช่วยกันนำกระสอบมาปิดกั้นเส้นทางน้ำ รอเจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวช ตำรวจวิทยาการ และพนักงานสอบสวน มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อชันสูตรพลิกหาสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว
โดยนายอาเสาะ เชอมือ ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ปกติบุตรชายจะไม่หายออกจากบ้านไป จะเล่นอยู่แถวใต้ถุนบ้านกับพี่ชายและสุนัข ไปไกลสุดก็แถวศาลาหมู่บ้านประมาณ 30 เมตรเท่านั้น ซึ่งวันที่หายไป ตนและภรรยาไปเก็บเมล็ดกาแฟห่างจากหมู่บ้านประมาณ 7 กม.จึงฝากลูกชายไว้กับผู้เป็นยาย ซึ่งยายก็ให้เล่นกับพี่ชายที่ใต้ถุนบ้าน เวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 28 พ.ย.65 ยายได้ขึ้นไปทำธุระบนบ้าน โดยมีพี่ชายของ ด.ช.ชนนาธิป ขึ้นไปด้วย ปล่อยให้ ด.ช.ชนนาธิป เล่นคนเดียว แต่พอกลับลงมาก็หายตัวไปแล้ว พยายามช่วยกันตามหาทุกพื้นที่ทั้งลำห้วยและตามชุมชนก็ไม่พบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าลูกชายหายไปไหน จะถูกลักพาตัวก็ไม่กล้าคาดเดา
นายอลงกรณ์ ศรีอ่อน เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการกู้ภัยแสงแก้วโพธิญาณ ผู้พบน้องที่เสียชีวิตเป็นคนแรกกล่าวว่า ในระหว่างรอการออกค้นหาตนจึงลองลงไปค้นหาตามลำห้วยใกล้บ้านอีกครั้ง สังเหตุเห็นบริเวณน้ำที่ไหลต่างระดัมเห็นคล้ายเสื้อผ้าเด็ก จึงเรียกญาติไปดูญาติก็ยืนยันว่าเป็นน้องเขาจริงๆ
โดยนายพชกร ปันรักษ์ษร ลุงของผู้เสียชีวิตที่ไปดูศพคนแรก กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากทีมกู้ภัยก็ได้ไปตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นร่างของหลานชายตัวเองจริงๆ โดยจมน้ำอยู่ในสภาพคว่ำหน้าตัวงออยู่ใต้แอ่งน้ำ ซึ่งพื้นที่ตัวกล่าวเป็นน้ำต่างระดับทำให้ไม่มีใครเห็น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งญาติ ชาวบ้านและทีมค้นเคยพยายามค้นหาจนทั่วกว่า 10 ครั้งก็ไม่พบ ทั้งนี้น้ำบริเวณแถวนั้นก็ไม่ได้ลึกอะไรมาก ส่วนที่ว่าเด็กจะไปอยู่ในนั้นได้อย่างไรนั้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน
ครูจิราภรณ์ อาสา ครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดอยช้าง กล่าวว่า ในพื้นที่มีศูนย์เด็กเล็กเพียงแห่งเดียวโดยมีครูพี่เลี้ยง 8 คน ดูแลเด็กอายุ 2-3 ขวบ รวมกัน 114 คน สำหรับครอบครัวนี้มีเด็กที่เคยผ่านศูนย์เด็กเล็ก 1 คนคือลูกคนโตของนายอาเสาะ ส่วนคนกลางกำลังอยู่ในการดูแลของศูนย์อ ดังนั้น ที่ผ่านมาทางศูนย์ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตามบ้านของเด็กๆ และเมื่อพบที่บ้านที่เกิดเหตุก็พบเห็นพื้นที่มีลำห้วยไหลใกล้บ้าน จึงได้เตือนย่าหรือยายที่ดูแลให้ระมัดระวังดูแล โดยเฉพาะอย่าให้เด็กคลาดสายตาอย่างเด็ดขาดชนิดที่เผลอไม่ได้ ยิ่งเด็กอายุเพียง 2 ขวบต้องดูแลอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็ตกใจและเสียใจต่อความสูญเสียของครอบครัว ทั้งนี้ ในพื้นที่มีลำห้วยไหลผ่านบ้านเรือนในลักษณะนี้ 2 เส้นและมีบ้านเรือนหลายหลังที่มีบุตรหลานอายุน้อยอยู่ด้วยดังนั้นทางศูนย์จะพยายามแจ้งเตือนให้มีความระมัดระวัง
ต่อมา ร.ต.อ.ประยัน แก้วผัด พนักงานสอบสวน สภ.แม่สรวย พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลแม่สรวยได้เดินทางมาทำการชันสูตรพลิกศพและได้นำศพส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
พ.ต.อ.สุทิน กลิ่นหวล รักษาการแทน ผกก.สภ.แม่สรวย เปิดเผยว่า หลังจากนำร่างเก็กชายชนนาธิป ออกมาจากลำห้วย โดยร่วมกับทางฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายวิทยาการ พิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นจะได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนต่อไป ส่วนที่ร่างกายของน้องพบว่ามีบาดแผลบริเวณศรีษะด้านขวา ส่วนรายละเอียดความชัดเจนต่างๆ คงต้องรอผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี