โควิดไทยเพิ่มขึ้น
หญิงไทยติดเดลตาครอนรายแรก
อาการไม่รุนแรง-รักษาหายแล้ว
สธ.เล็งเพาะเชื้อทดสอบภูมิวัคซีน
กรมควบคุมโรค ชี้แนวโน้มโควิดไทยระบาดเพิ่มขึ้น ตามคาดการณ์ แจงหญิงไทย วัย 47 ปี ติดสายพันธุ์เดลตาครอน หรือ XBC รายแรกของไทยนั้นสอบสวนโรค พบฉีดวัคซีน 3 เข็ม อาการป่วยไม่รุนแรง รักษาหายแล้ว ย้ำปชช.ต้องฉีดอย่างน้อย 4 เข็ม ป้องกันป่วยหนัก-เสียชีวิตได้ อธิบดี
กรมวิทยาศาสตร์ฯแจงเดลตาครอนยังไม่จัดเป็นสายพันธุ์ใหม่ เล็งนำเชื้อเพาะทดสอบภูมิคุ้มกันของคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ได้ผลดี หรือไม่อย่างไร
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยปัจจุบันว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์หลังปรับเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังและประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้ป่วยที่มารักษาในโรงพยาบาล (รพ.)โดยสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19ในประเทศไทย สัปดาห์ที่ 47 ระหว่างวันที่ 20-26 พฤศจิกายน พบผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,914 ราย เฉลี่ย 702 รายต่อวัน และผู้ป่วยเสียชีวิต จากโควิดรวม 74 ราย เฉลี่ย 10 ราย/วัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เป็นไปตามคาดการณ์
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังเฝ้าระวังและติดตามการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์กลายพันธุ์ ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้พบผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่รพ.ปทุมธานี เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี หลังตรวจพบการติดเชื้อโควิดด้วย ATK จากที่บ้าน และตรวจด้วยวิธี RT-PCR ตามแนวทางเฝ้าระวังโรค เป็นสายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) รายแรกของประเทศ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนแล้วรวม 3 เข็ม คือ 2 เข็มแรกฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เมื่อปี 2564 และวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังติดเชื้อไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะนี้หายดีแล้ว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า กรมฯขอเน้นย้ำมาตรการสำคัญสำหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่ม 608 ให้ไปรับวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม และผู้ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันป่วยหนัก และลดโอกาสเสียชีวิตจากเชื้อโควิดทุกสายพันธุ์ที่พบขณะนี้ โดยติดต่อรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ นอกจากนี้ ผู้ที่ไปทำกิจกรรมในพื้นที่แออัด ใช้บริการในสถานที่สาธารณะ โดยสารขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะจากผู้อื่น
ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาครอนรายแรกของไทย เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปีว่า ปกติมีการเฝ้าระวังสายพันธุ์เป็นประจำ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างจังหวัด จะตรวจด้วยวิธีเบื้องต้น (SNP) ว่าเป็นสายพันธุ์ใด เช่น โอมิครอน BA.1, BA.2, BA.4, BA.5 หรือ BA.2.75จากนั้นจะส่งตัวอย่างไปถอดรหัสพันธุกรรมแบบทั้งตัวทุกสัปดาห์ ซึ่งค่าใช้จ่ายสูง จึงตรวจเป็นรอบๆ ดังนั้น ผลตรวจจะรายงานเป็นรายสัปดาห์ ถ้ารู้ว่ามีคนติดเชื้อเดลตาครอนเพิ่มหรือไม่จะรอผลช่วงวันที่ 5-6 ธันวาคม
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาครอนนั้น ขณะนี้ยังไม่จัดเป็นสายพันธุ์ใหม่ เดลตาครอนเป็นลักษณะของเชื้อไวรัสเก่า 2 ตัวรวมกัน ถ้าจะเรียกว่าสายพันธุ์ใหม่คือ ไม่มีที่มาที่ไปที่เชื่อมโยงกับไวรัสตัวเก่า อย่างช่วงที่แอลฟามาเป็นเดลต้า แล้วมาเป็นโอมิครอน ซึ่งไม่มีความเชื่อมโยงกันเลย ดังนั้น ก็ต้องดูว่าเป็นใหม่แบบไหน ถ้าใหม่แบบมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แบบนี้เรียกใหม่จริง
“ขณะนี้กำลังเพาะเชื้อเดลตาครอน ซึ่งจะใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ต้องเรียนว่า การจะเพาะเชื้อขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวอย่างเชื้อที่เก็บมาจากผู้ป่วย บางครั้งอาจเป็นเชื้อตายแล้ว ก็เพาะไม่ขึ้น เราก็ต้องรอให้มีตัวอย่างเชื้อใหม่จากผู้ป่วยรายอื่น”อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุ และว่า ส่วนเชื้อที่เจอก่อนหน้าคือ BA.2.75 เพาะขึ้นได้จำนวนมากแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ นำไปทดสอบกับภูมิคุ้มกันของคนที่ฉีดวัคซีนโควิดรูปแบบต่างๆว่า ฉีดกี่เข็มสามารถยับยั้งเชื้อได้ เมื่อได้ความชัดเจน กรมวิทยาศาสตร์ฯ จะรายงานผลให้ทราบ
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงข้อมูลระบาดของเชื้อโควิด-19ประจำวันว่าทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 333,293 คน ตายเพิ่ม 786คนรวมแล้วมีผู้ติดเชื้อสะสม 648,304,681 คน เสียชีวิตรวม 6,641,600 คน สำหรับ 5 อันดับประเทศที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน
สำหรับความคืบหน้าการศึกษาวิจัยอาการ Long COVID ในสหราชอาณาจักร ล่าสุด มีการเปิดเผยออกมากว่า สหราชอาณาจักรกำลังมีผู้ป่วยที่ประสบปัญหา Long COVID สูงถึง 2.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3.4% ของประชากรทั้งหมด 187,000 คน หรือคิดเป็น 9% ที่เพิ่งติดเชื้อไปน้อยกว่า 3 เดือน ในจำนวนผู้ที่ประสบปัญหา Long COVID 2.2 ล้านคนนั้น มีถึงกว่าหนึ่งในสามหรือ 764,000 คน คิดเป็น 35% ที่ติดเชื้อในช่วงสายพันธุ์โอมิครอนระบาด ทั้งนี้ 1.6 ล้านคน หรือ 75% รายงานว่าภาวะ Long COVID ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และมีถึง 370,000 คนที่ระบุจำกัดสมรรถนะในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมาก อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ อ่อนเพลีย/เหนื่อยล้า ซึ่งมีรายงานสูงถึง 70%
รองลงมาคือ หอบเหนื่อย และปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งแต่ละอาการพบได้ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย Long COVID ทั้งหมด ปัญหา Long COVID พบได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงอายุ โดยพบมากช่วง 35-69 ปี และเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
ขณะที่ กรมการแพทย์ ได้เชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 4 เข็ม เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยสามารถรับบริการกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ ดังนี้ 1. โรงพยาบาลราชวิถี : วันจันทร์-พฤหัสบดี ในเวลาราชการ ทุกวันศุกร์ เวลา 08.30-13.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ 2. โรงพยาบาลเลิดสิน : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-15.00 น. 3.โรงพยาบาลสงฆ์ : วันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ 4. สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ : ทุกวันอังคาร เวลา 13.00-16.30 น. 5. สถาบันประสาทวิทยา : วันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ 6. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-15.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ 7. สถาบันโรคทรวงอก : ทุกวันศุกร์ เวลา 09.00-15.00 น. 8. สถาบันโรคผิวหนัง : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-15.00 น. ในเวลาราชการ วันเสาร์ (เปิดเฉพาะวันที่ 17 ธ.ค. 65) เวลา 09.00-15.00 น. 9. สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน-18 ปี ให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 13.00-15.30 น. วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-15.30 น.
10. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี : ให้บริการวันที่ 6-29 ธ.ค. 65 ยกเว้นวันหยุดราชการ เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. เด็กอายุ 5-11 ปี วันจันทร์ เวลา 13.00-16.00 น. เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี วันศุกร์ เวลา 13.00-16.00 น. 11. โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) : วันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ 12. โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี :วันจันทร์-ศุกร์ ในเวลาราชการ 13. สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) : วันจันทร์ และวันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. 14. โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00-15.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี